
เนื้อหาในจดหมายระบุว่า หากประเทศผิดนัดชำระหนี้ จะทำให้สถานะของสหรัฐฯ ในระบบการเงินโลกอ่อนแอลง พร้อมกับเตือนว่า ในปี 2554 ที่สหรัฐฯ ใกล้ความเสี่ยงที่สุดที่จะผิดนัดชำระหนี้จากการงัดข้อทางการเมืองในสภา ทำให้สหรัฐฯ ต้องสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือสูงสุด AAA และเป็นปีที่ทุกข์ยากสำหรับตลาดและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ความผันผวนที่ตึงเครียดจากวิกฤต ส่งผลให้ตำแหน่งงานลดลลง 1.2 ล้านตำแหน่ง อัตราว่างงานสูงขึ้น 0.7 จุดเปอร์เซ็นต์ (percentage point) และมูลค่าเศรษฐกิจลดลง 180,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งที่ยังไม่ได้เกิดการผิดนัดชำระหนี้อย่างแท้จริง
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้หารือกับผู้นำสูงสุดในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเข้าร่วมหารือที่ทำเนียบขาวแล้ว 2 ครั้งเพื่อหาทางบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ โดยยังไม่อาจได้ข้อสรุป
การหารือดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่เยลเลนจะหารือกับผู้นำทางธุรกิจที่กรุงวอชิงตันในบ่ายวันพฤหัสบดี (18 พ.ค.) โดยมุ่งพูดคุยประเด็นเรื่องเพดานหนี้