
ลาบวนบาโจเป็นที่รู้จักจากการเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังจุดหมายท่องเที่ยวที่น่าอัศจรรย์ของจังหวัดนูซาเตงการา ได้แก่ เกาะโคโมโด และเกาะรินกา ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของมังกรโคโมโด สายพันธุ์กิ้งก่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติโคโมโด
ลาบวนบาโจยังอยู่ห่างเพียง 15 กม. จากเกาะคานาวา ซึ่งมีชายหาดขาวสะอาดและน้ำทะเลสีคราม เป็นหาดสวรรค์ที่เทียบได้กับชายหาดหลายแห่งในไทยและฟิลิปปินส์
นอกจากนี้ลาบวนบาโจ ยังอยู่ไม่ไกลจากเกาะกาลอง ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ชมฝูงค้างคาวหลายพันตัวบินออกจากถ้ำข้ามเกาะฟลอเรสเพื่อหาอาหารยามพระอาทิตย์ตกดิน
และเส้นทางที่ดีที่สุดที่จะไปถึงลาบวนบาโจ คือ การนั่งเครื่องบินไปยังสนามบินโคโมโด โดยมีหลายเที่ยวบินในแต่ละวันออกจากกรุงจาการ์ตา, เมืองเดนปาซาร์ และเมืองสุราบายา
ลาบวนบาโจถูกจัดให้เป็น 1 ใน 10 เมืองบาหลีแห่งใหม่ ที่อินโดนีเซียตั้งเป้าพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเหมือนบาหลี เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้มีประชากรมากกว่า 5,000 คน มีเนื้อที่ 13 ตร.กม. และนักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าจากฟากหนึ่งของเมืองไปยังอีกฟากได้ภายในเวลาเกือบ 2 ชม.
ลาบวนบาโจได้รับการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็วตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาเพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่มีผู้แทนราว 800 คนเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้
ชาวบ้านและผู้ประกอบการธุรกิจ คาดหวังว่า ซัมมิตอาเซียนครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในเมือง ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 และซานเดียกา อูโน รัฐมนตรีการท่องเที่ยวอินโดนีเซีย ก็คาดหวังว่า การจัดซัมมิตครั้งนี้จะส่งผลดีต่อชุมชน ที่จะทำให้ลาบวนบาโจกลายเป็นจุดหมายท่องเที่ยวระดับพรีเมียม สร้างเม็ดเงินแก่เมือง และธุรกิจในท้องถิ่น และทำให้เกิดการสร้างงาน
แต่นักเคลื่อนไหวภาคประชาสังคมสะท้อนผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชุมชน และวิจารณ์ว่ารัฐบาลไม่ได้จ่ายเงินชดเชยแก่ชาวบ้านที่ถูกเวรคืนที่ดินเพื่อการก่อสร้าง และผลกระทบอื่น ๆ เช่น บ้านเรือนถูกรื้อถอน ไร่นาเสียหาย และคลองชลประทานไม่สามารถใช้งานได้อีก