
การสู้รบระหว่างกองทัพและกองกำลังกึ่งทหาร Rapid Support Forces (RSF) ปะทุขึ้นเมื่อวันเสาร์ โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นภายในกรุงคาร์ทูม เมืองหลวง ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการทหารและทำเนียบประธานาธิบดี และยังมีรายงานการปะทะกันในเมืองพอร์ตซูดานทางภาคตะวันออก และแคว้นดาร์ฟูร์ในภาคตะวันตกด้วย
และในเช้าวันจันทร์ยังมีเสียงปืนครกและปืนใหญ่ดังสนั่น ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า มีการโจมตีทางอากาศเพิ่มขึ้นรอบสนามบินในคาร์ทูม และค่ายทหารบางแห่ง
ขณะที่มีรายงานว่า จนถึงวันจันทร์มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 97 ราย และองค์การอนามัยโลกประเมินว่า จนถึงวันอาทิตย์มีผู้บาดเจ็บ 1,126 ราย นอกจากนี้โครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติ (WFP) ระบุว่า มีเจ้าหน้าที่ 3 คน เสียชีวิตในซูดาน และเครื่องบินลำหนึ่งขององค์กรได้รับความเสียหายที่สนามบินคาร์ทูมจากการยิงต่อสู้ในวันเสาร์ พรัอมกับประกาศระงับการดำเนินงานในซูดานชั่วคราวแล้ว
การต่อสู้ที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามแย่งชิงอำนาจระหว่างกองทัพที่ภักดีต่อนายพลอับเดล ฟัตตาห์ อัล-เบอร์ฮาน ผู้นำประเทศ และ RSF นำโดยนายพลโมฮัมเหม็ด ฮัมดาน ดากาโล รองผู้นำ โดยสองฝ่ายมีความเห็นขัดแย้งกันเกี่ยวกับแนวทางการเปลี่ยนผ่านอำนาจภายหลังการรัฐประหารสู่การปกครองโดยฝ่ายพลเรือน หลังจากประเทศอยู่ภายใต้การบริหารของคณะนายทหาร ที่โค่นล้มผู้นำเผด็จการ โอมาร์ อัล-บาชีร์ ในปี 2562
RSF อ้างว่า สามารถยึดพื้นที่สำคัญในกรุงคาร์ทูม เช่น ทำเนียบประธานาธิบดีและสนามบิน แต่กองทัพปฏิเสธคำอ้างของ RSF และยืนยันว่า ยังควบคุมพื้นที่ไว้ได้
ขณะที่นานาชาติประสานเสียงให้มีการยุติความรุนแรงอย่างถาวร โดยชาติอาหรับและสหรัฐฯ เรียกร้องให้รื้อฟื้นการเจรจาเพื่อคืนอำนาจปกครองให้กับรัฐบาลพลเรือน และสหภาพแอฟริกาจะส่งนักการทูตไปเจรจาข้อตกลงหยุดยิง นอกจากนี้อียิปต์และซูดานใต้เสนอตัวทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยระหว่างกองกำลังทั้งสองฝ่าย