การสู้รบในภาคตะวันออกของยูเครนยังเป็นไปอย่างดุเดือดที่สุด ไล่มาตั้งแต่เมือง Bakhmut Avdiivka และ Mariinka โดยกองทัพยูเครนพุ่งเป้าไปที่การสู้รบในเมือง Bakhmut เป็นหลัก เพื่อหวังทำให้รัสเซียอ่อนกำลัง จากการเปิดเผยของกองทัพยูเครน เพราะเป็นเมืองที่รัสเซียตั้งเป้าจะยึดอย่างเบ็ดเสร็จให้ได้
กองกำลังยูเครนยังได้ต้านทานการโจมตีจากฝั่งรัสเซียไปถึงกว่า 20 ครั้ง ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาวุโสยูเครนยืนยันว่า ยูเครนจะไม่ยอมให้รัสเซียได้เขตแดนใดใดไป
ด้านที่ปรึกษาระดับสูงของประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ แห่งยูเครน ระบุว่า ถ้ากองกำลังยูเครนสามารถรุกกลับ ดันให้กองกำลังรัสเซียกลับไปยังพื้นที่ของตนเองที่มีพรมแดนติดกับไครเมียได้สำเร็จ จากนั้น ทางยูเครนก็พร้อมจะเปิดช่องทางการทูตเพื่อหารือในประเด็นนี้
ถือเป็นคำกล่าวล่าสุดของยูเครน ที่หยิบยกประเด็นไครเมียขึ้นมาอีกแล้ว ซึ่งก็ย้ำชัดเจนว่า การเจรจาที่แท้จริงกับรัสเซียจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ กองกำลังติดอาวุธของรัสเซียถอนตัวออกไปจากเขตแดนยูเครนทั้งหมดที่ได้รับการรับรองจากนานาประเทศตั้งแต่ปี 1991 รวมถึงไครเมีย
คำกล่าวของฝั่งยูเครนมีขึ้น ทั้งที่รัสเซียก็ได้ผนวกรวมไครเมียไปเรียบร้อยแล้วเมื่อปี 2014 ส่งผลให้ยูเครนและพันธมิตรชาติตะวันตกล้วนออกมาประณามว่า เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ประธานาธิบดี เซเลนสกี้ ของยูเครน ยังยืนยันจะเอาไครเมียกลับมาให้ได้ แม้ว่า ทางรัสเซียได้ผนวกรวมดินแดนนี้ไปนาน 8 ปีแล้ว และเพิ่งเคลื่อนพลบุกยูเครนเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จนสู้รบกันอยู่ในขณะนี้
ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงประจำสภาความมั่นคงของเบลารุส ย้ำว่า แม้สงครามในยูเครนยังคงรุนแรง แต่ก็ยังไม่ถึงกับบีบให้รัสเซียใช้อาวุธนิวเคลียร์ที่เก็บไว้ในเบลารุส มาโจมตี เพราะอาวุธนิวเคลียร์เหล่านี้ มีไว้เพื่อสร้างเสริมเสถียรภาพของทั้งรัสเซียและเบลารุสเท่านั้น
เบลารุสไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในผืนแผ่นดินของตัวเองอีกเลย นับจากช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 เป็นต้นมา เพราะเพียงไม่นานหลังได้รับเอกราชจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต เบลารุสก็ตกลงขนย้ายอาวุธทำลายล้างสูงในยุคของโซเวียตทั้งหมดกลับไปเก็บไว้ที่รัสเซีย แต่เมื่อเดือนที่แล้ว ผู้นำรัสเซียประกาศแผนจะประจำการอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในผืนแผ่นดินของชาติพันธมิตรอีกครั้ง ซึ่งแม้เบลารุสจะไม่ได้ส่งทหารเข้าร่วมการสู้รบโดยตรง แต่ก็ช่วยเปิดทางให้กองทัพรัสเซียเข้ามาเพื่อเป็นช่องทางนำไปสู่การโจมตียูเครน
การสู้รบในยูเครนยังคงเป็นไปอย่างดุเดือด แม้ว่า ทางจีนได้ยื่นมือเข้าแทรกด้วยการย้ำชัดเจนว่า วาระหลักของจีนก็คือการผลักดันให้เกิดข้อตกลงหยุดยิง และยุติสงครามในยูเครน เป็นคำกล่าวที่ประธานาธิบดี สีจิ้นผิงของจีน บอกต่อประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส และนาง เออร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระหว่างการพบปะกันเมื่อวานที่ประเทศจีน
สีจิ้นผิง ยังย้ำว่า สงครามในยูเครน ไม่ได้หมายถึงข้อขัดแย้งระหว่างจีนกับยุโรป และจีนเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ มีเหตุผล และทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์เงื่อนไขแห่งการเจรจาสันติภาพ จีนต่อต้านความพยายามที่จะเติมเชื้อเพลิงเข้าไปในสถานการณ์นี้ และทำให้มันดูซับซ้อนยิ่งขึ้น
ผู้นำจีนกล่าวว่า จีนและยุโรปควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพิ่มความไว้วางใจทางการเมือง ส่งเสริมการเจรจาและความร่วมมือ และค้ำยันเสถียรภาพของสองฝ่าย