การให้กระสุนในล็อตแรก จะนำมาจากสต๊อกเดิมที่แต่ละประเทศมีอยู่ ส่วนในล็อตสอง จะใช้วิธีสั่งซื้อกระสุนร่วมกันแล้วนำมาให้ยูเครน
กลุ่มสหภาพยุโรปหวังว่า การทำเช่นนี้จะจูงใจให้บริษัทอาวุธในยุโรปเร่งผลิตสินค้า โดยตั้งเป้าสัญญาจะถูกลงนามก่อนต้นเดือนกันยายน ซึ่งก็หมายความว่า แต่ละประเทศที่เข้าร่วมจะต้องแบ่งปันรายละเอียดกระสุนที่ตัวเองมีอยู่ ซึ่งตามปกติข้อมูลส่วนนี้จะเป็นความลับ
แต่ปัจจุบัน การผลิตกระสุนในยุโรป มีความล้าหลังกว่ามาตรฐานกระสุนที่ยูเครนร้องขอมาว่า จำเป็นต้องใช้ในการต่อสู้กับรัสเซีย
ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายต่างประเทศสหภาพยุโรป เคยเตือนว่า จะต้องจัดหากระสุนให้ยูเครนตามที่ร้องขอ ไม่เช่นนั้น รัสเซียจะเป็นฝ่ายชนะสงคราม เพราะกองกำลังรัสเซียยิงกระสุนมากถึง 5 หมื่นนัดต่อวัน ยูเครนจึงจำเป็นต้องมีกระสุนในขีดระดับเดียวกันบ้าง
ด้านฮังการี ซึ่งไม่ได้ส่งกระสุนให้ยูเครน และมักออกมาขู่จะยับยั้งมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ก็ได้ละเว้นไม่เข้าร่วมการโหวตในกรุงบรัสเซลส์ ที่จะส่งกระสุนให้ยูเครน
ขณะที่นอร์เวย์ ก็ได้ส่งมอบรถถัง Leopard II ที่ทำขึ้นในเยอรมนี จำนวน 8 คัน ให้ยูเครน เพื่อรับมือกับรัสเซียในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ ส่วนทางการสหรัฐอนุมัติความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนอีก 350 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1 หมื่น 2 พันล้านบาท รวมถึงกระสุนที่ใช้กับเครื่องยิงจรวด
ก่อนหน้านี้ ยูเครนได้บอกกับสหภาพยุโรปว่า จำเป็นต้องใช้กระสุนปืนใหญ่มากถึง 3 แสน 5 หมื่นลูกต่อเดือน เพื่อตั้งรับกองกำลังรัสเซียที่บุกเข้ามา และปฏิบัติการต่อต้านในปีนี้
ข้อตกลงให้กระสุนจำนวนมหาศาลแก่ยูเครนมีขึ้น ในช่วงรัสเซียเริ่มวิตกเกี่ยวกับปฏิบัติการของยูเครนใกล้บาคห์มุต ขณะที่รายงานจากสถาบันศึกษาสงครามมองว่า ปฏิบัติการของรัสเซียในปีนี้ ใกล้มาถึงจุดขีดสุดแล้ว