svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

หุ้นไทยดิ่ง ! หลุด 1,400 จุด ครั้งแรกรอบ 2 ปี 10 เดือน

ตลาดหุ้นไทยร่วงหนัก 23.69 จุด สอดรับภูมิภาคแดงยกแผง นักลงทุนเทขายหุ้นบิ๊กแคปลดความเสี่ยงก่อนหยุดยาว ผสมโรงผวาสงครามฉุดดัชนีหลุด 1,400 จุดครั้งแรกในรอบ 2 ปี 10 เดือน 

นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์  ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล. กรุงศรีพัฒนสิน เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,399.35 จุด ลบ   23.69 จุด หรือ -1.66% โดยระหว่างวันดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุด  สูงสุด 1,422.33 จุด ต่ำสุด 1,397.80 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 52,983.02 ล้านบาท กับ Nation Onlineว่า

หุ้นไทยร่วงสอดสอดคล้องกับประเทศอื่นในเอเชียทุกประเทศที่แดงยกแผง นักลงทุนขายลดความเสี่ยงก่อนช่วงหยุดยาว ประกอบกับสงครามอิสราเอล-ฮามาสยังยืดเยื้อ โดยหุ้นไทยวันนี้หลุด 1,400 จุดถือเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี 10 เดือน  ซึ่งปรับลงทุก Sector  โดยหลัก ๆ คือ กลุ่มพลังงาน GULF, PTT, EA  กลุ่มอิเล็กทรอ นิกส์ DELTA , กลุ่ม ICT อาทิ ADVANC, TRUE ฯลฯ

 

หุ้นไทยดิ่ง ! หลุด 1,400 จุด ครั้งแรกรอบ 2 ปี 10 เดือน

โดยหุ้นที่ปรับขึ้นและลงโดดเด่นคือ 

🛢️TASCO ([email protected])  2.4%d-d รับข่าวบริษัทแจ้งตลาดเช้านี้ สามารถกลับมาซื้อน้ำมันจากเวเนฯได้แล้วเป็นระยะเวลา 6 เดือน ถึงวันที่ 18 เม.ย. 2024 หลังยกเลิกมาตั้งแต่ ก.ย. 2020  โดยวานนี้มีแถลงทางการ สหรัฐฯผ่อนเกณฑ์การแบนเวเนซูเอล่า ชั่วคราว 6 เดือน ในกลุ่มธุรกิจ น้ำมัน, แก๊ส และทองคำ รวมถึง ผ่อนเกณฑ์การชำระเงินบางส่วน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงการเลือกตั้งประธานาธิบดีของเวเนฯปี 2024 (และอาจเพื่อลดความแรงของราคาน้ำมันในปัจจุบัน หลังมีความขัดแข้งในหลายภูมิภาค)  

โดยรวม KCS ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “Buy” และปรับไปใช้ TP24F ที่ 21.3 บาท มองแนวรับแรกที่  16.9 บาท  แนวรับถัดไปที่  16.7  บาท  แนวต้านแรกที่  17.7 บาท แนวต้านถัดไปที่ 18.2 บาท  จุด  Cut loss <16.5 บาท

🏦KBANK  +1.98% d-d รับรายงานงบ 3Q23 ที่ 1.13 หมื่นล้านบาท ดีกว่าเราและตลาดคาด เพราะค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) และค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) ต่ำคาด กำไรเพิ่มขึ้น +7%y-y และ +3% q-q เพราะการเพิ่มขึ้นของ NIM ตามทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น มองแนวรับแรกที่  127.5 บาท  แนวรับถัดไปที่ 126.5  บาท  แนวต้าน แรกที่ 131.5 บาท แนวต้านถัดไปที่ 133.5 บาท Cut loss  <126.5  บาท

🏰SCB  -3.62% รับรายงานกำไรสุทธิ 3Q23 ที่ 9.66 พันล้านบาท ต่ำกว่าเราและตลาดคาด เพราะค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) สูงกว่าคาด โดยกำไรลดลง -6%y-y และ -19% q-q  เพราะ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) จากบริษัทย่อย  2.) ค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) จากการตั้งสำรองเผื่อความไม่แน่นอนในอนาคต  และคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอลง NPL Ratio ที่ 3.30% เพิ่มจาก 3.25%

สำหรับนักลงทุนระยะกลางยาว ยังแนะนำซื้อ TP24F ที่ 125 บาท ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น ปันผล dividend yield ต่อปีคาดที่ 5-6% สูงสุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่  

🛳️TTA -5.3%, PSL -5.1% ปรับลงตามดัชนีค่าระวางเรือ BDI -1.62%d-d, -3.57%wtd  ปิดที่ 2071 จุด มอง Trading ตามดัชนีค่าระวางเรือในระยะถัดไป  Upside ในการขึ้นจะมาจากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว และหากรัฐบาลจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ช่วง ต.ค.-พ.ย.23 และการบูรณะประเทศหากภาวะสงครามสิ้นสุด  เน้น PSL(Trading) มองแนวรับแรกที่  9.10 บาท แนวรับถัดไปที่ 9 บาท  แนวต้านแรกที่  9.65 บาท แนวต้านถัดไปที่ 9.90 บาท จุด  Cut loss < 8.85 บาท

🚍กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์   HANA -4.3%, KCE-4.15%, DELTA -3.27%   ปรับลงตาม TESLA -9.3% รายงานงบกำไรต่ำกว่าคาดหลังจากก่อนหน้าบริษัทปรับลดราคารถยนต์ไฟฟ้า และถูกกดดัน Bond Yields สหรัฐ อายุ 10 ปี ปรับขึ้น +7 bps อยู่ที่ 4.99% แต่ช่วงระหว่างวันนี้ปรับลงมาอยู่ที่ 4.94% เรายังคงมุมมองบวกต่อกลุ่มอิเล็กทรอ นิกส์  
 
KCE (TP@58 )  คาดกำไรปกติ 3Q23F 506 ล้านบาท +60%q-q เพราะคำสั่งซื้อของสหรัฐ ยุโรป ฟื้นตัว และ PE24 F ที่ 25.3 เท่า vs รอบฟื้นตัว 25-30 เท่า มองแนวรับ        

HANA Max Consensus (TP@84)  มองน่าทยอยสะสม ราคาหุ้นที่ปรับฐาน ลงมาได้ Price in ประเด็น Dilution จากประเด็นเพิ่มทุน P/P จำนวน 80 ล้านหุ้นที่ราคาหุ้นละ 57 บาท ขณะที่เม็ดเงินจำนวนมากที่จะได้เพิ่ม เพื่อลงทุนใน silicon carbide มองมีโอกาสสร้าง Upside ตามธุรกิจ EV ที่มีศักยภาพสูงมาก  

ด้านมูลค่าการซื้อขายวันนี้พบว่านักลงทุน สถาบันขายสุทธิ 177.83 ล้านบาท บัญชีบล.ขายสุทธิ 890.07 ล้านบาท ต่างประเทศขายสุทธิ 1,215.31ล้านบาท ในประเทศซื้อสุทธิ 2,283.21ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,684.70 ล้านบาท ปิดที่ 129.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,445.91 ล้านบาท ปิดที่ 99.75 บาท ลดลง 3.75 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,362.71 ล้านบาท ปิดที่ 173.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

HANA มูลค่าการซื้อขาย 1,711.50 ล้านบาท ปิดที่ 55.50 บาท ลดลง 2.50 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,567.08 ล้านบาท ปิดที่ 167.00 บาท ลดลง 1.50 บาท



หุ้นไทยดิ่ง ! หลุด 1,400 จุด ครั้งแรกรอบ 2 ปี 10 เดือน