svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

หุ้นไทยเสี่ยงผันผวน ! กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย ส่อง 6 หุ้นเด่น

18 ตุลาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

โบรกมองหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง ความกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย หลังตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐสูงกว่าคาด ขณะที่นักลงทุนรอฟังถ้อยแถลงประธานเฟดพรุ่งนี้ (19 ต.ค.)  คัด 6 หุ้นเด่นน่าเก็งกำไรระยะสั้น

บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) แจ้งว่า สถานการณ์ความตึงเครียดของสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่ทรงตัวและราคาสินค้าพลังงานที่ปรับฐานลดลงในวันจันทร์ที่ผ่านมาส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่เกิดการรีบาวน์ปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังมีความตึงตัวระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่นำไปสู่การระงับการส่งออกของเซมิคอนดักเตอร์ และอุปกรณ์การผลิตชิปขั้นสูงไปยังบริษัทเทคโนโลยีในประเทศจีน กลับเป็นประเด็นใหม่ที่จำกัดการฟื้นตัวของดัชนีหุ้นในภูมิภาคเอเชียเหนือวานนี้

สำหรับ SET Index วานนี้ปรับตัวสูงขึ้น +6.29 จุด เทียบเท่า +0.44% ปิดตัวที่ 1,433.40 จุด เป็นอัตราของการรีบาวน์ที่ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของภูมิภาค แม้ปริมาณการซื้อขายออกไปในทิศทางที่เบาบางเพียง 3.9 หมื่นล้านบาท แต่การรีบาวด์เป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบที่ทำการพักฐานช่วยลดแรงกดดันต่อการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล และคาดเป็นสาเหตุหลักที่ชะลอการไหลเวียนออกของกระแสเงินทุนต่างชาติวานนี้ให้สถานะการขายสุทธิลดลงเป็น 841 ล้านบาท

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ S&P500 ปิดทรงตัว แต่ NASDAQ (-0.25%) ปรับตัวลดลงหลังการประกาศจากรัฐบาลสหรัฐฯ ถึงการระงับการส่งออก Chips ของบริษัท NVIDIA (-3.24%) ไปยังประเทศจีน สะท้อนความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศที่ยังมีความตึงเครียด

ขณะที่การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวานนี้คือยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.7% MoM สูงกว่าคาดที่ +0.3% MoM อย่างมีนัยสำคัญ  ด้านผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสำหรับเดือน ก.ย. รายงานที่ +0.3% MoM สูงกว่าคาดเช่นกัน ทั้ง 2 ตัวเลขดังกล่าวแม้เป็นการสะท้อนการบริโภคและสภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แต่คาดเป็นปัจจัยที่จะทำให้ Fed ต้องดำเนินนโยบายการเงินที่ตึงตัวเป็นระยะเวลานานยิ่งขึ้นเช่นกัน

หุ้นไทยเสี่ยงผันผวน ! กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย ส่อง 6 หุ้นเด่น

ทั้งนี้หากพิจารณา Fed Fund Futures ล่าสุด ตลาดยังให้น้ำหนักความน่าจะเป็นว่า Fed จะคงดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือน พ.ย. สูงถึง 88% อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานกาณ์สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่จุดชนวนราคาสินค้าพลังงานให้เร่งตัวกลับขึ้นมาอีกครั้ง เราประเมินอาจเป็นความเสี่ยงเพิ่มเติมต่อโอกาสที่ Fed จะปรับเพิ่มดอกเบี้ยนโยบายอย่างน้อย 1 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี แนะนำชะลอการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนไปยังเดือน พ.ย. และเน้นเป็นเพียงการ Trading ระยะสั้น เพื่อรอความชัดเจนของปัจจัยดังกล่าว

สำหรับวันนี้คาด SET Index วันนี้เคลื่อนไหว Sideways ในกรอบ 1,425-1,440 จุด กลุ่มที่เหมาะต่อการเก็งกำไรรายวัน ได้แก่ พลังงาน ธนาคารพาณิชย์ และค้าปลีก

หุ้นเด่นตัวแรกคือ BLA ราคาเป้าหมาย 28  บาท ตัวเลขค้าปลีก เดือน ก.ย. ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น +3.8% YoY ดีกว่าคาดที่ +1.5% YoY ส่งผลให้ Bond Yield 10 ปี สหรัฐฯไต่ระดับขึ้นเป็น 4.83% และคาดว่าจะส่งผลให้ Bond Yield ทั่วโลกไต่ระดับขึ้นในทิศทางเดียวกัน

เราประเมินว่าเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มประกันชีวิต เนื่องจากจะส่งผลให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารพันธบัตรรัฐบาลมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น อิง Consensus ราคาหุ้นซื้อขายที่ PER2567 ราว 9.4 เท่า และให้ Dividend Yield ราว 3.4%

หุ้นเด่นตัวต่อมาคือ PSL ราคาเป้าหมาย 9.50 บาท โดยหุ้นกลุ่มเรือเทกองมีปัจจัยบวก ได้แก่ 1.หากจีนออกมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เราคาดว่าจะช่วยหนุน Demand การใช้เรือเทกองในการขนส่ง

2.สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หากกระทบให้เกิดการปิดช่องแคบฮอร์มุช คาดว่าจะส่งผลให้การเดินเรือต้องใช้เส้นทางอ้อมช่วยหนุนค่าระวางเรือเนื่องจาก Supply ลดลง ขณะที่ดัชนีค่าระวางเรือ BDI ล่าสุดปรับตัวขึ้น +4.3% ปิดที่ 2,058 จุด ทำระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี ซื้อขายที่ PBV ระดับ 0.87 เท่า

หุ้นเด่นอีกตัวคือ TASCO ราคาเป้าหมาย 17.50 บาท ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว หลังสื่อต่างประเทศรายงานว่าสหรัฐฯ และเวเนซุเอลาใกล้บรรลุข้อตกลงทางการเมืองแลกกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลา คาดว่าหากเกิดขึ้นจะเป็นบวกกับบริษัทเนื่องจากจะส่งผลให้สามารถสั่งซื้อน้ำมันจากเวเนซุเอลาได้อีกครั้ง

โดยแนวโน้มกำไร 3Q66 ไม่เด่น คาดที่ 429 ลบ. -44% QoQ จากปริมาณขายยางมะตอยที่ชะลอตัวและยอดขายในจีนยังไม่ฟื้นตัว แต่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นใน 4Q66 จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ราคาหุ้นซื้อขายที่ PER2567 ระดับ 9.2 เท่า ให้ Yield 7%

หุ้นเด่นตัวสุดท้ายคือ LHFG ราคาเป้าหมาย 1.06  บาท  ภาพทางเทคนิค แนวต้าน 1.06 บาท แนวรับ  1.01 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 0.99 บาท MACD ตัดขึ้นเหนือเส้น Signal Line และราคากำลังฟอร์มตัวรูปแบบ Descending Triangle หากผ่านแนวต้านที่ 1.04 บาทขึ้นไปได้จะเป็นการ Confirm สัญญาณบวก

 บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ระบุว่า  คาด SET กลับมาปรับตัวลง จากความกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย หลังตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐสูงกว่าคาด รวมถึงนักลงทุนรอถ้อยแถลงประธานเฟดในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาสัญญาณแนวโน้มดอกเบี้ย ทำให้คาดเกิดแรงขายลดความเสี่ยง ด้านแนวรับอยู่ที่ 1,425 จุด และ 1,411 จุด ตามลำดับ ส่วนกรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1,440 จุด และ 1,450 จุด ตามลำดับ

หุ้นเด่นวันนี้แนะนำ TOP  ราคาเป้าหมาย 71 บาท   มุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ 3Q66 จากค่าการกลั่นฟื้นตัวแรง และคาดบันทึกกำไรจากสต็อกสูงตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นระหว่างไตรมาส market GRM YTD เฉลี่ย 7.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แม้จะอ่อนตัว YoY แต่ยังดีกว่าเฉลี่ย 5 ปีก่อนเกิด Covid-19 ที่ 6.1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

หุ้นเด่นตัวต่อมาคือ CRC  ราคาเป้าหมาย 48 บาท   แม้ 3Q66 คาดกำไรลดลง YoY จากยอดขายธุรกิจค้าปลีกที่ชะลอตัว แต่จะฟื้นตัวสู่ระดับที่ดีที่สุดของปีนี้ใน 4Q66 จากปัจจัยฤดูกาล ยอดขายธุรกิจค้าปลีกที่ดีขึ้น และค่าไฟฟ้าที่ลดลง ขณะที่การเปิดตัวธุรกิจค้าส่งอาหาร “Go Wholesale” คาดมีผลกระทบจำกัดต่อกำไร

 
logoline