svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

ส่องหุ้นเด่น ! รับผลบวกนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจรัฐ-ตัวไหนน่าลงทุน

17 กันยายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

โบรกมองหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งไซด์เวย์-ไซด์เวย์อัพ แรงหนุนจากการประชุมเฟด  ตลาดคาดคงดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% -เศรษฐกิจจีนฟื้นตัว-มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ Digital Wallet ประเมินกรอบการเคลื่อนไหว 1,518 - 1,569 จุด แนะเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ

นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์  ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล. กรุงศรีพัฒนสิน เปิดเผยกับ Nation Onlineว่า  ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งไซด์เวย์-ไซด์เวย์อัพ แรงหนุนมาจากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด ตลาดคาดคงดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50%   ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่จะรายงาน ยังมีแนวโน้มอยู่ในลักษณะประคอง ชี้นำภาพวงจรเงินเฟ้อและดอกเบี้ยปลายทาง  

นอกจากนี้การคาดหวังเชิงบวกเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว และนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลัก Digital Wallet น่าจะค่อย ๆ มีความชัดเจน แนะลงทุนในหุ้นเกี่ยวกับ

1. กลุ่มเชื่อมโยงจีน (IVL, PTTGC, SCGP, KCE, HANA, DOHOME, GLOBAL)

2. หุ้นได้ประโยชน์นโยบายรัฐ (AOT, ERW, CENTEL, CPAXT, BE8, ADVANC)

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้นไทย

•  19 ก.ย. เงินเฟ้อทั่วไป CPI ส.ค. ของยุโร)  ตลาดคาด +5.3%y-y และ +0.6%m-m  จากเดิมอยู่ที่ +5.3%y-y และ +0.6%m-m

•  19 ก.ย. ยอดขายบ้านใหม่ ส.ค. สหรัฐฯ  ตลาดคาด 1.44 ล้านหลัง ลดลง -0.8%m-m จากเดิมอยู่ที่ +3.9%m-m

•   20 ก.ย. การประชุม FOMC อิงผลสำรวจ CME 97% ของตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.5%

• 21 ก.ย. ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ  ตลาดคาด 4.1 ล้านหลัง +0.7%m-m จากเดิมอยู่ที่  -2.2%m-m โดยรวมเป็นภาพประคองตัว

•   21-22 ก.ย. ประชุม BOJ คาดยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ -0.1%

•   22 ก.ย. PMI ก.ย. ครั้งแรก สหรัฐ ตลาดคาด PMI ผลิต 47.9 ทรงตัว  ขณะที่ยุโรป ตลาดคาด PMI ผลิต 43.7 จุดจากเดิมอยู่ที่ 43.5 จุด PMI ภาคบริการ คาด 47.5 จากเดิมอยู่ที่ 47.9

อย่างไรก็ตาม ประเมินกรอบแนวต้านแรกที่ 1,557 จุด แนวต้านถัดมาอยู่ที่ 1,569 จุด แนวรับแรกอยู่ที่  1,532 จุด แนวรับถัดมาอยู่ที่ 1,518 จุด

หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ  

•  IVL (TP38) : ธุรกิจจะฟื้นเร็วกว่าคาด หลังเศรษฐกิจจีนเริ่มมี Positive Surprise

•  KCE (TP12.8) : มี Upside Risk แนวโน้มยุโรปตั้งกำแพงภาษีรถยนต์ EV จีน เพิ่มจาก วงจรส่งออกผ่านจุดต่ำสุด และจิตวิทยาบวกดอกเบี้ยปลายทาง

•  SCGP (TP54) : ลุ้นภาพบวกรายงานเศรษฐกิจทยอยสร้าง Positive Surprise

ส่องหุ้นเด่น ! รับผลบวกนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจรัฐ-ตัวไหนน่าลงทุน

 

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI)  เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้กับ Nation Online ว่า  สัปดาห์นี้ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ผลประชุมเฟด ที่จะทราบผลอย่างเป็นทางการในช่วงเช้า วันพฤหัสบดีที่ 21 ก.ย. ตามเวลาประเทศไทย อิงข้อมูลจาก CME FED Watch ให้น้ำหนัก 98% ที่เฟดจะคงดอกเบี้ยระดับเดิม

อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมประจำไตร มาสและจะมีการเปิดเผยทั้งคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ (GDP , PCE) รวมถึงเส้นทางดอกเบี้ยในช่วงถัดไป (Dot Plot) อิง Dot Plot งวดเดือน มิ.ย. พบว่าปลายปี 2023 ดอกเบี้ย FED จะอยู่ที่ 5.5 – 5.75% และปี 2024 จะอยู่ที่ 4.25 – 4.5%

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย. ได้แก่ราคาน้ำมันดิบ BRT ที่ปรับขึ้นมาทดสอบ 93.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 เดือนและหากเทียบกับเดือน มิ.ย. ปรับเพิ่มขึ้นมา 20% เป็นผลให้ เงินเฟ้อสหรัฐฯขยับขึ้น 3 เดือนติดต่อและยิ่งห่างไกลจากเป้าหมายของเฟด ที่ระดับ 2% (เงินเฟ้อสหรัฐฯล่าสุด 3.6%) ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่ถ้อยแถลงจากประธานเฟด มีโอกาสสูงจะส่งสัญญาณเข้มงวด พร้อมกับโอกาสปรับขึ้น Dot Plot ให้สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงไทย

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจอื่น ๆ ได้แก่ 1. ใบขออนุญาตก่อ สร้าง และยอดสร้างบ้านใหม่ของสหรัฐฯในวันอังคาร Bloom berg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.45 ล้านใบอนุญาตและ 1.44 ล้านหลังคา ตามลำดับ 2.ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ Bloomberg ประเมินไว้ที่ 4.1 ล้านหลังคาเรือน 3. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเบื้องต้นทั้งสหรัฐฯและยุโรปในวันศุกร์

ส่วนปัจจัยในประเทศสัปดาห์นี้ไม่มีอะไรที่มีนัยยะสำคัญรอติดตามเพียงประชุม ครม. สัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1,510 – 1,555 จุด  เชิงกลยุทธ์ยังไม่เพิ่มพอร์ตการลงทุน แม้ดัชนีจะเริ่มปรับลงมาบ้างก็ตาม เนื่องจากช่วงถัดไปยังเต็มไปด้วยหลายความเสี่ยง

สำหรับหุ้นแนะนำลงทุนระยะสั้น

- เดินเรือ (PSL)

- ขนส่ง (BEM)

- ศูนย์การค้า (CPN)

- กลุ่มน้ำมัน (PTTEP)

- โรงกลั่น (BCP, SPRC ,TOP)

- ค้าปลีก (BJC, CRC, CPALL ,HMPRO)

- ท่องเที่ยว (AOT, CENTEL ,ERW ,MINT, SPA)

- ธนาคารพาณิชย์ (BBL ,KBANK, KTB ,SCB)

ส่องหุ้นเด่น ! รับผลบวกนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจรัฐ-ตัวไหนน่าลงทุน

logoline