svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

เปิดโผ 9 หุ้นเด่น "มีปัจจัยบวกเฉพาะ-กำไรเติบโต" ตัวไหนน่าซื้อเก็งกำไร

11 มิถุนายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

โบรกมองหุ้นไทยสัปดาห์นี้ฟื้นตัวต่อ คาดแรงหนุนจากผลประชุมเฟด ไม่ว่าขึ้นหรือคงดอกเบี้ย แต่เงินเฟ้อได้ปรับตัวลงชี้เห็นถึงดอกเบี้ยขาขึ้นเป็นปลายทาง ส่วนในประเทศลุ้นความคืบหน้าจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เคาะ 9 หุ้นเด่น  

นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์  ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.กรุงศรีพัฒนสิน เปิดเผยกับ Nation Online ว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ฟื้นตัวต่อ”  คาดแรงหนุนมาจากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด โดยไม่ว่าจะเป็นคงดอกเบี้ยหรือขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง แต่เงินเฟ้อที่ปรับลงแบบเร่ง บ่งชี้ดอกเบี้ยขาขึ้นเป็นปลายทาง  ขณะที่ภายในประเทศลุ้นความคืบหน้าจัดตั้งรัฐบาลใหม่

สำหรับกลุ่มนำตลาด 1. หุ้นได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาขึ้นปลายทาง อาทิ เทคโน โลยี (ชิ้นส่วน, ICT, Digital Tech, โรงไฟฟ้า) หุ้นเด่น HANA, GPSC, BE8, ADVANC

2. หุ้นที่ความเชื่อมั่นบริโภคกลับมาคึกคัก หากการเมืองชัดเจน (ค้าปลีก, เครื่องดื่ม) หุ้นเด่นมอง CRC, MAKRO, ICHI, OSP 3. หุ้นเข้า SET50 เก็งกำไรหุ้นที่มีโอกาสเข้าดัชนีรอบนี้ TLI, WHA  ประเมินกรอบดัชนี 1,535-1,587 จุด

หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ  

•  ICHI (TP17.2) : ยอดขายเร่ง คาดกำไรทำจุดสูงสุด Valuation หุ้นยังตามหลังกำไร

•  WHA (TP5) : FDI ฟื้นตัวเร่ง+ลุ้นกระแสเก็งกำไรก่อนถูกประกาศเข้าสู่ SET50

•  MAKRO (TP48.0) : กำไร 2Q เพิ่y-y , q-q ค่าไฟปรับลง + Big Cap ที่ยัง Laggard

 

เปิดโผ 9 หุ้นเด่น \"มีปัจจัยบวกเฉพาะ-กำไรเติบโต\" ตัวไหนน่าซื้อเก็งกำไร

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้นไทย

•   เงินเฟ้อสหรัฐฯเดือนพ.ค.ประกาศวันที่  13 มิ.ย. ตลาดคาดอยู่ที่ +4.1%y-y ชะลอลงจากเดือนเม.ย.อยู่ที่ 4.9%y-y ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน ตลาดคาด +0.4%m-m เท่ากับเดือนเม.ย.อยู่ที่  0.4%m-m

•   วันที่ 15 มิ.ย. ติดตามการประชุม FOMC ตลาดและ MUFG คาดคงดอกเบี้ย 5.00%-5.25% บ่งชี้ดอกเบี้ยขาขึ้นเป็นปลายทาง บวกต่อหุ้น Growth

•  ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ วันที่ 15 มิ.ย. ยอดค้าปลีก พ.ค. 23 ตลาดคาดทรงตัว m-m จากเดือนเม.ย.อยู่ที่  0.4% m-m และผลผลิตอุตฯ พ.ค. ตลาดคาด +0.1%m-m  จากเดือนเม.ย.อยู่ที่  0.5%

•  การประชุมธนาคารกลางยุโรป หรืออีซีบี วันที่ 15 มิ.ย. เพื่อพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ตลาดและ MUFG คาดปรับเพิ่ม Main Refinancing Rate อีก 0.25% สู่ระดับ 4%

•  ตัวเลขเศรษฐกิจจีน  15 มิ.ย. ผลผลิตอุตฯ พ.ค.  ตลาดคาด +3.8%y-y จากเดือนเม.ย.อยู่ที่ 5.6%y-y ยอดค้าปลีก พ.ค. 23 ตลาดคาด +13.7%y-y จากเดิมอยู่ที่ 18.7%y-y และยอดลงทุนอสังหาริมทรัพย์ YTD ตลาดคาด -6.6% จากเดือนเม.ย.อยู่ที่  -6.2% แม้ยอดส่วนใหญ่ชะลอ แต่อิงภาพเงินเฟ้อปัจจุบันของจีนที่ยังต่ำ เชื่อมีโอกาสจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

•  ไทยติดตามความชัดเจนการจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะการประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ส.ส. ที่มีโอกาสเกิดขึ้นก่อนกำหนดการกฎหมาย 13 พ.ค. หลัง กกต. กำหนดหน่วยเลือกตั้งนับคะแนนใหม่ 47 หน่วยช่วงสุดสัปดาห์นี้ (11 มิ.ย.) รวมถึงการประกาศหุ้นเข้าสู่ดัชนี SET50/100 เราคาด TLI, WHA เข้า SET50

เปิดโผ 9 หุ้นเด่น \"มีปัจจัยบวกเฉพาะ-กำไรเติบโต\" ตัวไหนน่าซื้อเก็งกำไร

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI)  เปิดเผยถึงทิศทางตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้กับ Nation Online ว่า ปัจจัยหลักที่นักลงทุนจะให้น้ำหนักได้แก่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดในวันที่ 14 มิ.ย. หรือทราบผลทางการช่วง 15 มิ.ย. ช่วงเช้าตามเวลาประเทศไทย อิงข้อมูลจาก CME FED Watch พบว่าให้น้ำหนักส่วนมากราว 74.8% ที่เฟด จะคงดอกเบี้ยไว้ระดับเดิม

พร้อมคาดว่าปลายปีนี้ดอกเบี้ยสหรัฐฯจะอยู่ที่ 5.25% (ระดับปัจจุบัน)  โดยนักลงทุนคาดว่าจากนี้เฟดจะคงดอกเบี้ยต่อเนื่องจนถึงปลายปี ดังนั้นจึงต้องติดตามผลประชุมใกล้ชิด เพราะจะมีการเปิดเผยถึงเส้นทางดอกเบี้ยช่วงถัดไป (Dot Plot) ทั้งปีนี้และปีหน้า หากส่งสัญญาณตามที่ตลาดประเมินไว้ก็มองเป็นกลาง แต่หากผ่อนคลายมากกว่าตลาดคาดก็จะเป็นปัจจัยหนุน

นอกจากนี้ยังแนะติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟด หากส่งสัญญาณเชิงดำเนินนโยบายไม่เข้มงวด ก็จะเป็นบวกกับตลาด ซึ่งเราเชื่อว่าจะมีการส่งสัญญาณแบบนั้น เนื่องจากดอกเบี้ยสหรัฐฯปรับขึ้นมาสูงกว่าเงินเฟ้อ ขณะที่ภาคแรงงานก็เริ่มเห็นสัญญาณอ่อนแอจากอัตราการว่างงานและผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่สูงขึ้น

ส่วนปัจจัยอื่น ๆ ได้แก่ เงินเฟ้อสหรัฐฯในวันที่ 13 มิ.ย. Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 4.2%YoY ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.9%YoY และหากต่ำกว่าคาดการณ์ก็จะเป็นบวกกับตลาดหุ้น

รวมถึงทิศทางใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย ถัดมาดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯในวันพุธช่วงกลางคืนตามเวลาประเทศไทย Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.5%YoY -0.1%MoM หากรายงานแล้วยังต่ำกว่าที่ประเมินไว้ก็จะเป็นบวกกับตลาด สุดท้ายยอดค้าปลีกของสหรัฐฯที่จะรายงานในช่วงกลางคืนวันพฤหัสเวลาไทย Bloomberg ประเมินทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อน

สำหรับในประเทศติดตามกระแสเงินทุนต่างชาติหลังพลิกมาขายสุทธิพร้อม Short TFEX ราว 2 หมื่นสัญญา รวมถึงการจัดตั้งรัฐบาลนักลงทุนอาจกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถือหุ้นสื่อหลังจาก กกต. มีมติเตรียมพิจารณา ซึ่งถือเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าตลาดจะให้น้ำหนักกับประเด็นผ่อนคลายดอกเบี้ยมากกว่า

โดยประเมิน SET INDEX สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,545 – 1,575 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังเน้น Trading พร้อมเลือก Top Pick ได้แก่ AOT (TP 82) BBL (TP 190) TIDLOR (TP 32) KBANK (TP 160) CPALL (TP 72) MINT (TP 42)

 

logoline