นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.กรุงศรีพัฒนสิน เปิดเผยกับ Nation Online ว่า ประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ แกว่งไซด์เวย์-ไซด์เวย์อัพ ประเมินแนวต้านแรก 1,533 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,543 จุด แนวรับแรกที่ 1,494 จุด แนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,476 จุด
สำหรับ ปัจจัยหลักอยู่ที่การเมืองในประเทศ โดยความชัดเจนการจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้พรรคก้าวไกลที่ยังต้องการเสียงสนับสนุนเลือกนายก แต่กรณีที่เสียงไม่ครบ การจัดตั้งรัฐบาลเชื่อว่าท้ายสุดยังมีทางออก และไม่ยืดเยื้อจนสร้าง Downside เศรษฐกิจและกำไรตลาด อิงกำไรตลาดใกล้ Consensus ที่ 95 บาท Valuation ตลาด จะมี PER23 อยู่ที่ 15.9 เท่า และค่าเฉลี่ยอยู่ ที่ 17.3 เท่า ทำให้กรอบดัชนีอยู่ที่ 1,520-1,480จุด เป็นกรอบที่ดัชนีหุ้นไทยพร้อมฟื้นตัว
ส่วนปัจจัยต่างประเทศสำคัญที่ต้องตามคือ วันที่ 23 พ.ค.สหรัฐฯ ประกาศตัวเลช PMI ผลิต และบริการ พ.ค.เบื้องต้น ตลาดคาดภาคการผลิตอยู่ที่ระดับ 50 และภาคบริการอยู่ที่ 52.6 จุด ตามลำดับ ยอดขายบ้านใหม่ สรุปการขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ วันที่ 25 พ.ค. ติดตามเงินเฟ้อ PCE เม.ย. ตลาดคาด +0.3% m-m เร่งขึ้นจากหากเทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนก่อนหน้า +0.1% แต่สอดคล้องเงินเฟ้อ CPI ที่ออกมาก่อนหน้า
ขณะที่ยุโรปก็ติดตามดัชนีภาคการผลิตและบริการเช่นกัน โดยเบื้องต้นตลาดคาดดัชนีภาคการผลิตอยู่ที่ระดับ 46 และภาคบริการอยู่ที่ 53.5 จุด ขณะที่ไทยวันที่ 26 พ.ค. ติดตามตัวเลขการส่งออกเดือนเม.ย. ตลาดคาด -2.15% y-y ส่วนดุลการค้ามองพลิกขาดดุล -1.0 พันล้านเหรียญฯ
นอกจากนี้ติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล ปัจจุบันเป็นการจัดตั้ง โดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ + 8 พรรคร่วมรัฐบาล คะแนนเสียงรวม 314 เสียง ต้องการอีก 62 เสียง (จาก ส.ส. ขั้วตรงข้าม+ ส.ว.) ต้องติดตามแนวทางการเจรจาขอเสียงสนับสนุนเพิ่มของพรรคก้าวไกล อีกด้านติดตามรายละเอียด MOU ที่จะลงนามระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล บ่งชี้นโยบายหลัก หากพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลได้
หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ
• ICHI (TP17.2) : กำไร+มีแนวโน้มเร่งต่อเนื่อง PER23F อยู่โซนลงทุนได้ ลดลงเหลือ 20 เท่า vs ค่าเฉลี่ยกลุ่ม 25-30 เท่า
• MAKRO (TP48*) : ลุ้นแรงเก็งกำไรก่อนเข้าสู่ดัชนี MSCI มีผล 31 พ.ค.
• KBANK (TP160) : เศรษฐกิจภายในฟื้นตัว ผสานแรงหนุน Fund Flow มีโอกาสกลับทิศ หากการตั้งรัฐบาลคืบหน้า PBV23F อยู่ที่ 0.6 เท่า (-1.0 SD)
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI) เปิดเผยถึงทิศทางตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้กับ Nation Online ว่า ปัจจัยการเมืองยังคงเป็นที่จับตาโดยเฉพาะวันจันทร์กับร่าง MOU ของแกนนำกลุ่มจัดตั้งรัฐบาล หากร่าง MOU ที่ประกาศออกมาแล้วส่งผลให้จำนวน ส.ว. เริ่มเห็นด้วยกับแนวทางบริหารประเทศและมีจำนวน ส.ว. ต่อการโหวดมากขึ้นก็จะช่วยคลายความกังวลต่อการจัดตั้งรัฐบาล (ปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น)
ส่วนนโยบายของพรรคก้าวไกลที่จะเน้นสนับสนุนฐานล่างมากกว่าฐานบน ยังเชื่อว่าใช้ระยะเวลาและยังไม่เห็นผลกระทบเชิงลบต่อผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในเร็ว ๆ นี้ และอีกปัจจัยคือ นโยบายต่าง ๆ อาจเต็มที่มิได้มากนัก เพราะไม่ใช่พรรคเดียวมีพรรคต่าง ๆ ผสมกัน
โดย Timeline หลังจากนี้กว่าจะเข้าสู่ช่วงเวลาเลือกนายกรัฐมนตรีก็ช่วงปลาย ส.ค. จึงเชื่อว่าแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองจะค่อย ๆ ลดลงจากนี้และอีกไม่นานตลาดก็จะกลับไปให้น้ำหนักกับตัวเลขเศรษฐกิจ (เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย)
ซึ่งล่าสุดการแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด ระบุว่าเครื่องมือรักษาเสถียรภาพทางการเงินช่วยให้ภาคธนาคารสงบ ในทางกลับกันเงื่อนไขสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้นมีแนวโน้มจะกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังนั้นเราจึงไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยไปมากกว่านี้ โดยทางเฟดคิดว่าการไม่ลดเงินเฟ้อจะเพิ่มต้นทุนให้กับสังคมและท้ายที่สุดจะก่อให้เกิดอันตรายต่อภาคธุรกิจและครัวเรือน
ทั้งนี้เฟดตั้งเป้าหมายที่จะหลีกเลี่ยงภาวะดังกล่าว ภายหลังจากแถลงข้างต้น CME FED Watch ปรับเพิ่มน้ำหนักคงดอกเบี้ยในการประชุมเฟดกลางเดือน มิ.ย. มาอยู่ที่ 82.6% จากวันก่อนหน้าที่ 64% โดยตัวเลขเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ ได้แก่ 1. ยอดขายบ้านมือหนึ่งของสหรัฐฯในวันอังคาร Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 6.6 แสนหลังคาเรือน
2. เงินเฟ้อสหรัฐฯในวันศุกร์ (PCE) Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 4.3%YoY , 0.3%MoM หากรายงานแล้วต่ำกว่าคาดการณ์จะเป็นปัจจัยบวกให้กับตลาดหุ้น ส่วนในประเทศไทยจะมีตัวเลขการค้าระหว่างประเทศ Bloomberg Consensus ประเมินส่งออกหดตัว 2%YoY และนำเข้า -5%YoY
สำหรับสัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1,500 – 1,540 จุด เชิงกลยุทธ์มองเป็นโอกาสสะสม Top Pick CPALL (Tp 72) BBL (TP 190) MINT (TP 42) KBANK (Tp 160)