นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.กรุงศรีพัฒนสิน เปิดเผยทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้กับ Nation Online ว่า แกว่งไซด์เวย์อัพ เชื่อว่าตลาดจะรอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด 3 พ.ค. หากขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาดตอกย้ำมุมมองดอกเบี้ยสหรัฐขาขึ้นปลายทาง มีโอกาสที่ตลาดตอบรับเชิงบวก ขณะที่ในประเทศ โฟกัสหลักยังเป็นการรายงานงบ 1Q23 ของไทยที่ออกมาค่อนข้างดี โดยประเมินแนวต้านแรกอยู่ที่ 1,543 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,558 จุด แนวรับแรกที่ 1,518 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,494 จุด
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด วันที่ 2-3 พ.ค.โดย MUFG คาดขึ้นดอกเบี้ยฯ 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 5.0-5.25% เป็น terminal rate แล้ว ยังมองบวกต่อหุ้น High Growth & Tech และวันที่ 4 พ.ค. ประชุมธนาคารกลางยุโรปหรืออีซีบี
โดย MUFG คาดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25%ทำให้ deposit facility rate หรืออัตราดอกเบี้ยเงินสํารองของธนาคารพาณิชย์ที่ฝากไว้กับ อีซีบีอยู่ที่ 3.25% แต่ยังไม่ตัดความเป็นไปได้มีโอกาสจะขึ้น 50% เนื่องจากเงินเฟ้อยังทรงตัวสูง เดือน มี.ค. อยู่ที่ 6.9% แนะนำติดตามรายงาน ECB’s Bank Lending Survey (BLS) เพราะอาจเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจของอีซีบี รวมถึงดัชนีภาคการผลิตของจีนวันที่ 4 เม.ย คาดอยู่ที่ 50.4 จุด
ขณะที่ประเทศไทยเกาะติด เงินเฟ้อ CPI มี.ค. วันที่ 3 พ.ค. ตลาดคาด +2.65%y-y ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.83% อยู่ในกรอบเงินเฟ้อเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือธปท. ที่ 1%-3% ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานชะลอลง +1.69%y-y จาก +1.75%y-y ตลอดจนการประกาศงบของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 1/66 เช่น 2 พ.ค. GLOBAL เราคาดกำไรที่ 800 ล้านบาท +52%QoQ,-31%YoY วันที่ 3 พ.ค. TU เราคาดกำไร 1,356 ล้านบาท -18%QoQ, -25%YoY
ส่วนหุ้นเด่นสัปดาห์นี้ แนะนำ ADVANC (TP252.0) :คาดกำไร 1Q23F +5%y-y , +3%q-q และดีต่อใน 2Q23 หุ้นตัวต่อมาคือ ICHI (TP15.6) : กำไรช่วง Summer 1Q-2Q23F จะเด่นต้น ๆ ในกลุ่มฯ และหุ้นยังอยู่ในโมเมนตัม Upgrade จากตลาด และหุ้นเด่นอีกตัวคือ XO (TP15.8) : กำไรฟื้นเร็วกว่าตลาดคาด PER23F 12.7 เท่า (ค่าเฉลี่ย-2.1SD)
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า วันนี้คาด SET Sideways ในกรอบแนวรับ 1,520 จุด และแนวต้าน 1,540 จุด เน้นแนวโน้มกำไรดี ซึ่งหุ้นเด่นวันนี้แนะนำ SPA ตลาดคาดกำไร 1Q66 ที่ระดับ 28 ล้านบาท เติบโตแรง +105% Q๐Q แรงหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยเดือนมีนาคมที่เร่งขึ้น+74%MoM ผสานอัตรากำไรดีขึ้นจากการปรับราคาขึ้น รวมถึงแนวโน้มอัตราการใช้บริการสูงขึ้นด้วยเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 15 บาท
หุ้นอีกตัวคือ HMPRO คาดกำไร 2Q66 เติบโตทั้ง QOQ, YOY จากแนวโน้ม SSSG อยู่ในเกณฑ์ดี โดยได้ผลบวกจากอากาศร้อนกระตุ้นยอดขาย ส่วนสาขาในพื้นที่ท่องเที่ยวเติบโตแข็งแกร่งประกอบกับการขยายสาขาเมกาโฮมเพิ่มขึ้น และอัตราค่าไฟที่ปรับลงในเดือน พ.ค. จึงคาดปีนี้กำไรยังจะทำจุดสูงสุดใหม่เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 18 บาท
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ระบุว่า SET ในสัปดาห์นี้ เปิดซื้อขายแค่ 2 วันทำการ ขณะที่ตลาดยังดูขาดปัจจัยหนุน และรอประชุมเฟดวันที่ 2-3 พ.ค. ทำให้คาดดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบ แนวต้าน 1,540-1,545 จุด ไปจนถึงปรับตัวลงได้ต่อ โดยเฉพาะหากต่ำกว่าจุดต่ำเดิมบริเวณ 1,520 จุด จะเป็นสัญญาณลบต่อ และมีแนวรับถัดไปที่ 1,509 จุด
หุ้นเด่นวันนี้แนะนำ BDMS (ราคาเป้าหมาย 34.00 บาท) 1Q66 คาดกำไรปกติ 3.4 พันล้านบาทลดลง 1%YoY แต่เพิ่มขึ้น 9%QoQ จากรายได้บริการผู้ป่วยชาวต่างชาติที่แข็งแกร่งขึ้น ขณะที่พัฒนาการในตลาดต่างประเทศใหม่ๆ คาดจะช่วยสนับสนุนให้กำไรเติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2566 คาดกำไรเติบโต 12%YoY สู่ 1.4 หมื่นล้านบาท
หุ้นเด่นตัวต่อมาคือ OR (ราคาเป้าหมาย IAA consensus 26.11 บาท) 1Q66 คาดผลการดำเนินงานจะพลิกกลับมามีกำไรและฟื้นตัวแรง QoQ โดยมีแรงหนุนจากค่าการตลาดฟื้นตัว กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการเดินทางกลับมาดีขึ้น รวมทั้งยังจะรับรู้ผลขาดทุนสต็อกที่ลดลงจาก 4Q65