svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

ต่างชาติทิ้งหุ้น-บอนด์ไทย 6.7 หมื่นล้าน

06 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

แบงก์กรุงศรีฯ ประเมินเงินบาทสัปดาห์นี้ 34.50-35.20 บาทต่อดอลลาร์ จับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ เปิดสถิติ 3 ม.ค.-3 มี.ค. ต่างชาติขายหุ้น-บอนด์ไทย 6.7 หมื่นล้าน แบงก์กรุงไทยคาดตลาดการเงินผันผวน ผู้เล่นในตลาดยังไม่รีบเพิ่มสถานะถือครองสินทรัพย์เสี่ยง

น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยกับ Nation Online ว่า  เงินบาทสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-35.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินบาทอาจย่ำฐานแกว่งตัวออกด้านข้าง เพื่อรอข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ของสหรัฐฯ หลังตัวเลขเดือนม.ค.ออกมาสูงช็อคตลาด

ส่วนภาพใหญ่เงินบาทอาจจะยังกลับมาแข็งค่าได้ไม่ไกล ขณะที่บอนด์ยิลด์สหรัฐฯอายุ 10 ปี ทะลุ 4% อย่างไรก็ดี หากข้อมูลเริ่มบ่งชี้ว่ากิจกรรมเศรษฐกิจและเงินเฟ้อสหรัฐฯกลับมาชะลอลงอีกครั้ง นักลงทุนจะขายดอลลาร์และกลับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง กระแสเงินทุนไหลออกมีแนวโน้มลดลงหรืออาจพลิกกลับเข้ามาบางส่วน เนื่องจากตลาดคาดการณ์ไปแล้วว่าดอกเบี้ยปลายทางของเฟดยกสูงขึ้น

ต่างชาติทิ้งหุ้น-บอนด์ไทย 6.7 หมื่นล้าน

ส่วนการเคลื่อนไหวของสกุลเงินในภูมิภาค 3 ม.ค.-3 มี.ค. พบว่า วอน-เกาหลีใต้อ่อนค่ามากสุด 3.03% รองลงมาคือริงกิต-มาเลเซีย 1.66% ดอลลาร์-สิงคโปร์ 0.56% บาท-ไทย 0.53%   ดอง-เวียดนาม 0.39% หยวน-จีน 0.10%  รูเปียห์-อินโดนีเซีย 1.63% เปโซ-ฟิลิปปินส์ 1.52% รูปี-อินเดีย 0.55%  และดอลลาร์-ไต้หวัน 0.31%

ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปีเงินบาทอ่อนค่า 0.53% ขณะที่สกุลเงินในภูมิภาคปรับตัวไร้ทิศทางโดยกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายกลับทิศจากไหลเข้ามาพักเงินไว้ในสินทรัพย์สกุลเงินบาทตั้งแต่ปลายปี 65 ถึงกลางเดือน ม.ค.

โดยต่างชาติลดพอร์ต หลังเงินบาทแข็งค่าลงมาลึก อีกทั้งตลาดโลกปรับมุมมองเกี่ยวกับดอก เบี้ยเฟด ว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 3 ครั้งในปีนี้สู่จุดสูงสุดที่ 5.4% หนุนค่าเงินดอลลาร์ และกดดันบาทอ่อนอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ 3 ม.ค.- 2 มี.ค. นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 2.8 หมื่นล้านบาท พันธบัตรไทย 3.9 หมื่นล้านบาท

ขณะที่การเมืองในประเทศ มีผลจำกัดต่อค่าเงิน โดยตลาดให้น้ำหนักไปที่แนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯเป็นสำคัญ  แต่ความชัดเจนที่มากขึ้นน่าจะช่วยหนุนค่าเงินบาทได้แม้จะไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม  คงต้องติดตามการฟอร์มรัฐบาลหลังเลือกตั้ง และนโยบายเศรษฐกิจ

ต่างชาติทิ้งหุ้น-บอนด์ไทย 6.7 หมื่นล้าน

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงิน ธนาคารกรุงไทย กล่าวกับ  Nation Online ว่า  ประเมินกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ไว้ที่  34.50 - 35.50 บาทต่อดอลลาร์ (มีโอกาสอ่อนค่าทดสอบแนวต้านได้) โดยปัจจัยที่มีผลต่อค่าเงินบาท คือ การเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์ รวมถึงทิศทางราคาทองคำ เนื่องจากปริมาณการซื้อขายทองคำยังมีผลกระทบต่อเงินบาทพอสมควร

นอกจากนี้ ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ โดยล่าสุดจะเห็นได้ว่า นักลงทุนต่างชาติยังคงเดินหน้าขายสินทรัพย์ไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแรงขายหุ้นไทย ขณะที่แรงขายบอนด์เริ่มมีการชะลอตัวลงบ้าง

อย่างไรก็ดี หากเงินบาทยังไม่มีแนวโน้มจะพลิกกลับมาแข็งค่าได้ชัดเจน นักลงทุนต่างชาติก็อาจจะยังไม่รีบเข้าซื้อสินทรัพย์ไทย โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาขายหุ้นสุทธิ -1 หมื่นล้านบาท ซื้อบอนด์ไทยสุทธิ 3.2 พันล้านบาท

ส่วนไฮไลท์ ข้อมูลเศรษฐกิจนั้น ด้านสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่าน 1. รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ โดยเฉพาะยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) รวมถึงการเติบโตของค่าจ้าง (Wage Growth) และ 2. ถ้อย แถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะ ถ้อยแถลงของประธานเฟดต่อสภาคองเกรส เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของเฟด

ขณะที่ยุโรป ตลาดจะรอประเมินทิศทางเศรษฐกิจยูโรโซน ผ่านรายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนมกราคม พร้อมกับติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) โดยเฉพาะประธาน ECB เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับนโยบายการเงินของ ECB

ส่วนเอเชียไฮไลท์สำคัญ จะอยู่ที่ผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งอาจจะยังไม่เห็นการปรับนโยบายการเงินที่ชัดเจน จนกว่าว่าที่ผู้ว่า BOJ คนใหม่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งไปอีกสักระยะ (อาจเห็นการปรับนโยบายการเงินในช่วงกลางปี)

ขณะที่ไทย ตลาดจะรอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไป CPI เดือนกุมภาพันธ์ ว่าจะชะลอตัวลงมากน้อยเพียงใด

สำหรับปัจจัยกดดันให้ตลาดการเงินยังคงผันผวน คือ ความกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งจะขึ้นกับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ ทำให้ ผู้เล่นในตลาดอาจยังไม่รีบเพิ่มสถานะการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง

นอกจากนี้ในเชิงเทคนิคัล ดัชนี SET ก็ยังอยู่ในช่วงปรับฐาน และราคาอยู่ในระดับต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ซึ่งผู้เล่นในตลาดก็อาจยังไม่รีบเข้าสะสมในช่วงนี้ อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยได้ปรับฐานใกล้โซนแนวรับสำคัญ ทำให้แรงขายอาจเริ่มชะลอลงได้  คาดว่านักลงทุนยังขายหุ้นไทยสุทธิ 5 พันล้านบาท

ส่วนบอนด์เรามองว่า แรงขายบอนด์จากนักลงทุนต่างชาติอาจเริ่มชะลอลงบ้าง โดย นักลงทุนต่างชาติอาจยังไม่รีบกลับเข้ามาซื้อบอนด์ไทย จนกว่าจะเห็นสัญญาณการกลับมาแข็งค่าขึ้นที่ชัดเจนของเงินบาท หรือ ทิศทางบอนด์ยีลด์ในฝั่งสหรัฐฯ เริ่มทรงตัวหรือย่อตัวลงได้บ้าง  ซึ่งประเมินว่าจะมีการขายบอนด์สุทธิ 1-2 พันล้านบาท

 

logoline