svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ประมง 'ปิดอ่าว' 3 เดือนเพื่อคุ้มครองแม่พันธุ์ปลาทู

16 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เพื่อคุ้มครองพ่อแม่พันธุ์ปลาทูและสัตว์น้ำมีไข่ให้แพร่ขยายพันธุ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำได้อย่างยั่งยืน กรมฯจะประกาศปิดอ่าวไทยทุกปีต่อเนื่อง ครอบคลุมพื้นที่บริเวณอ่าวไทยทั้งหมด

เฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง ระบุ เพื่อคุ้มครองพ่อแม่พันธุ์ปลาทูและสัตว์น้ำมีไข่ให้แพร่ขยายพันธุ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำได้อย่างยั่งยืน กรมฯจะประกาศปิดอ่าวไทยทุกปีต่อเนื่อง ครอบคลุมพื้นที่บริเวณอ่าวไทยทั้งหมด แบ่งเป็น

บริเวณพื้นที่อ่าวไทยตอนกลาง 2 ช่วงระยะเวลา ได้แก่ ระหว่างวันที่ 15 ก.พ. – 15 พ.ค. 2566 ตั้งแต่ปลายแหลมเขาม่องไล่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ถึงอำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี และระหว่างวันที่16 พ.ค. – 14 มิ.ย. 2566 ในบริเวณอาณาเขตตามแผนที่แนบท้ายของประกาศปิดอ่าวไทยตอนกลางและเขตต่อเนื่องตั้งแต่ปลายแหลมเขาม่องไล่ ถึงอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ประมง \'ปิดอ่าว\' 3 เดือนเพื่อคุ้มครองแม่พันธุ์ปลาทู

บริเวณพื้นที่อ่าวไทยรูปตัว ก 2 ช่วงระยะเวลา ได้แก่ ระหว่างวันที่ 15 มิ.ย. – 15 ส.ค. 2566 ในพื้นที่อ่าวไทยตอนในฝั่งตะวันตกของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร และระหว่างวันที่ 1 ส.ค. – 30 ก.ย. ในพื้นที่อ่าวไทยตอนในด้านเหนือของจังหวัดสมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และชลบุรี

 

“มาตรการปิดอ่าวไทยในปีที่ผ่านมา จากข้อมูลทางวิชาการ พบว่า การประกาศใช้มาตรการปิดอ่าวไทย ทำให้พ่อแม่พันธุ์ปลาทูมีความสมบูรณ์เพศและมีการแพร่กระจายของลูกปลาทูและสัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดอื่นในพื้นที่ที่ประกาศใช้มาตรการอย่างชัดเจน”

ส่วนพื้นที่อ่าวไทยบริเวณบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเปรียบเทียบองค์ประกอบของลูกปลาทูและสัตว์น้ำชนิดอื่น พบว่า ระยะเวลาและพื้นที่บังคับใช้มาตรการ มีการปรับปรุงประกาศให้สอดคล้องกับสภาวะทรัพยากรและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงเวลา

 

ทั้งนี้ ในการติดตามประเมินผลทางวิชาการของมาตรการฯ พบว่าในห้วงเวลาก่อนการประกาศปิดอ่าวไทยตอนกลาง ช่วงวันที่ 1 – 14 ก.พ. พบพ่อแม่ปลาทูมีความสมบูรณ์เพศในอัตราที่สูง ติดต่อกัน 2 ปี (2564- 2565) โดยในปี 2564 พบมากถึง 90.60%เป็นเพศเมีย 90.37% เป็นเพศผู้ และ ปี 2565 พบเป็นเพศเมีย 100 % และเพศผู้ 87.04 % ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปลาทูมีความสมบูรณ์เพศก่อนช่วงมาตรการปิดอ่าวไทยตอนกลาง และพบความยาวเฉลี่ยของ พ่อ-แม่ ปลาทูอยู่ที่ 18.5 เซนติเมตร พร้อมสืบพันธุ์วางไข่

ประมง \'ปิดอ่าว\' 3 เดือนเพื่อคุ้มครองแม่พันธุ์ปลาทู

จึงมีข้อเสนอแนะทางวิชาการว่าเห็นควรปรับปรุงมาตรการปิดอ่าวไทยตอนกลางให้สอดคล้องกับสภาวะทรัพยากรและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง

โดยสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยได้มีข้อเสนอว่าควรปรับช่วงเวลาปิดอ่าวตั้งแต่วันที่ 1ก.พ. ในปี พ.ศ. 2567

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ประกาศปิดอ่าว ช่วงวันที่ 15 ก.พ.- พ.ค. เป็นระยะเวลา 90 วัน นั้น กลุ่มเรือประมงขนาดเล็ก จะได้รับอนุญาตให้ทำประมงได้ แต่ต้องเป็นเครื่องมือที่เหมาะสม ไม่กระทบกับมาตรการปิดอ่าวไทยตอนกลาง เช่น เครื่องมืออวนลากแผ่นตะเฆ่ อวนลากคานถ่างที่ใช้ประกอบเรือกลที่มีขนาดความยาวไม่เกิน 16 เมตร เครื่องมืออวนติดตาปลาที่ใช้ประกอบเรือกลที่มีขนาดต่ำกว่า 10 ตันกรอส มีช่องตาอวนตั้งแต่สองนิ้วขึ้นไป  เครื่องมืออวนปู อวนลอยกุ้ง เครื่องมืออวนครอบ อวนช้อน หรืออวนยกหมึก ลอบปู ลอบหมึก ซั้ง คราดหอย อวนรุนเคย เป็นต้น

สำหรับช่วงที่ วันที่16 พ.ค. – 14 มิ.ย. รวม 30 วัน อนุญาตให้เครื่องมืออวนลากแผ่นตะเฆ่ ถ่าง แต่ไม่ได้จำกัดความยาวของเรือที่ใช้ทำการประมง และเวลาในการทำการประมง สามารถทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่งของพื้นที่บางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี และ อวนลากคานถ่าง เครื่องมืออวนครอบ อวนช้อน หรืออวนยกปลากะตัก ที่ใช้ประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ประกอบเรือกล ที่มีขนาด 10 ตันกรอส อนุญาตให้ทำการประมงได้นอกเขตทะเลชายฝั่ง เฉพาะบริเวณเขตต่อเนื่องปลายแหลมเขาม่องไล่ ถึงอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ประมง \'ปิดอ่าว\' 3 เดือนเพื่อคุ้มครองแม่พันธุ์ปลาทู

หากผู้ใดฝ่าฝืนจะเป็นความผิดตามตามมาตรา 70 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษ ปรับตั้งแต่ 5,000 บาทถึง 30 ล้านบาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดของเรือประมง หรือปรับจำนวน 5 เท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำการประมง แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า และต้องได้รับโทษทางปกครองอีกด้วย

 

แม้มาตรการปิดอ่าวไทยฯ จะสร้างข้อจำกัดต่อการประมงในบางช่วงเวลาแต่ผลที่ได้ก่อให้เกิดกระบวนการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับวงจรชีวิตปลาทูแต่ละช่วงวัย ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้ชาวประมงเกิดความตระหนักในการทำประมงได้อย่างเหมาะสมเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรให้คุ้มค่าและเกิดความยั่งยืนของทรัพยากรสัตว์น้ำและเกิดความสมดุลกับการประกอบอาชีพของชาวประมง

logoline