"เดี๋ยวดูก่อน ผมเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ ไม่สามารถปรับ ครม.ได้ ต้องรอให้การตัดสินออกมาก่อน หากนายกฯ อยู่ต่อ นายกฯก็จะมาทำเอง"
"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกรัฐมนตรีในฐานะรักษาการนายกฯ ตอบคำถามล่าสุด ว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่ ภายหลัง "นายนิพนธ์ บุญญามณี" ขอลาออกจากตำแหน่งรมช.มหาดไทย เมื่อเช้าวันที่ 5 ก.ย.65
กล่าวได้ว่า สถานการณ์รัฐนาวา ภายใต้การนำของ "ลุงป้อม" ยามนี้ กำลังตกอยู่ในสถานการณ์คับขันเต็มทน ลำพัง กัปตันเรือเหล็ก "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ปมนายกฯ 8 ปี ทำให้อำนาจที่อยู่ในมือ"ลุงตู่"หดหายไป เเละตอนนี้"ลุงป้อม"ก็ลุยงานเเบบไม่มีล้าจนหลายคนมองว่า "ว่าที่สร.1คนใหม่" กำลังฝึกงานเเละพร้อมรับไม้ในเวลาที่เหลืออยู่...
หากตรวจเช็กสภาพภายในครม.เรือเหล็กลำนี้ พบว่าลูกเรือ/ฝีพายที่ช่วยให้เรือเหล็กไปถึงตลอดรอดฝั่งกำลังหดหายไปทีละคนสองคน ไม่ใช่แค่ "นิพนธ์" ที่ไขก๊อกรมช.มหาดไทย โควต้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อไปต่อสู้คดีปมเกี่ยวพันจัดซื้อรถเอนกประสงค์ขององค์การบริหารจังหวัดสงขลา เพราะอย่าลืมว่าก่อนหน้านั้น ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำสั่งให้ "กนกวรรณ วิลาวัลย์" รมช.ศึกษาธิการ โควต้าพรรคภูมิใจไทย หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง รมช.จากปมการออกเอกสารสิทธิในที่ดินป่าสงวนโดยมิชอบ
ท่ามกลางกระแสข่าวสะพัดว่า"ครูโอ๊ะ"ถูกกดดันหนัก เเละอาจตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งรมช.ศึกษาธิการ เเต่หัวหน้าพรรคสีน้ำเงิน"อนุทิน ชาญวีรกูล" ย้ำเเล้วว่า พรรคยังไม่ปรับครม. (ลือกันว่าโควต้ารมต.พรรคสีน้ำเงินนั้น คนโตอีสานใต้ซึ่งเป็นตัวจริง เสียงจริงของพรรคนี้เคยบอกว่า หากมุ้งใดมีส.ส.สามคนขึ้นไป จะได้สิทธิ 1 เก้าอี้รมต.เเละมุ้งปราจีนบุรีสายครูโอ๊ะทำได้)
ส่วนพรรคแกนนำรัฐบาลคือ"พรรคพลังประชารัฐ" น่าจะหนักหนาสาหัสกว่า เนื่องจากกำลังหลักในรัฐสภา ต้องคดีในศาล จนถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ไม่ว่าเป็น "วิรัช รัตนเศรษฐ" จากคดีสนามฟุตซอล และอดีตส.ส.รายอื่นๆ ถูกศาลตัดสินไปแล้วเช่น"สิระ เจนจาคะ /ปารีณา ไกรคุปต์ "เเละรอลุ้นอีกหนึ่งคนคือ"ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์" เท่านี้ก็บอบช้ำสำหรับชื่อเสียงของพรรคลุงป้อม... เเละไหนจะต้องลุ้นว่าหลังกลางเดือนกันยายนไปเเล้ว ผู้เเทนฯคนใดในพปชร.จะย้ายสังกัดกันบ้างตรงนี้วุ่นยิ่งกว่าวุ่น...
ครั้นกลับมาดูที่ตำแหน่งฝ่ายบริหาร เป็นที่ทราบกันดี นับแต่ พล.อ.ประยุทธ์ สั่งปลด "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า " พ้นเก้าอี้ รมช.เกษตรฯ และ "นฤมล ภิญโญสินวัฒน์" พ้นเก้าอี้รมช.แรงงาน ผ่านมาถึงบัดนี้ โควต้าพปชร.บนสองเก้าอี้รมช.ว่างอยู่ ท่ามกลางการจับจ้องของคนในพรรคว่าเมื่อไหร่จะมีสัญญาณปรับครม. จะได้เสนอตัวแย่งชิงกันฝุ่นตลบ !?!
เเละยิ่งมองเหตุปัจจุบัน/สถานการณ์ยามนี้ หากโฟกัสไปที่เก้าอี้รมต. พอสรุปได้ว่า หายไปแน่นอนแล้ว 3 + 1 คือ 3 เก้าอี้รมช.( ว่างแน่นอน ) บวกกับการลุ้นเคส "กนกวรรณ" ซึ่งเป็นรมช. แต่เหมือนไม่ได้เป็น เพราะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่(คล้ายเคสลุงตู่) จนกว่าศาล จะมีคำพิพากษา เรียกว่า"ครูโอ๊ะ"ตกอยู่ในอาการลูกผีลูกคนบนเก้าอี้รมช. แม้แกนนำพรรคภูมิใจไม่ออกมาการันตี "จะยังไม่มีการขยับหรือหาคนเข้าสวมสิทธิแทนในตำแหน่งที่ว่าง" เเต่คลื่นใต้น้ำในพรรคสีน้ำเงินย่อมมีอยู่....
หันมองไปยังพรรคสีฟ้าบ้าง รู้กันอยู่ว่ายามนึ้ในพรรคปชป.นั้น อดีตมท.2 คนนี้รัศมีเบ่งบานเเค่ไหน
"คณะกรรมการบริหารพรรคยังไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องตำแหน่งรมช.มหาดไทย หลังนายนิพนธ์ ลาออก เพราะมีข้อบังคับระบุถึงการคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างชัดเจนอยู่แล้ว และมีบุคลากรของพรรคที่มีความรู้ความสามารถมีความเหมาะสม ว่ากันไปตามขั้นตอนหลักการที่ระบุไว้ในข้อบังคับต่อไป "
คือคำยืนยันของ "ราเมศ รัตนเชวง" โฆษกพรรคปชป. แถลงเมื่อวันที่ 5 ก.ย.2565 หากถอดถ้อยคำแถลงของโฆษกพรรคสีฟ้านั้น บ่งบอกไม่ได้ปิดประตูตายหาคนมาแทนอดีตมท.2 แต่มีกระบวนการข้อบังคับพรรค ที่จะต้องพิจารณาร่วมกัน เเต่เอาจริงๆเเล้วโควต้านี้น่าจะขึ้นอยู่กับอดีตมท.2ที่จะชี้เบื้องต้นว่า ใครควรมารับไม้เเทน?
เมื่อเหตุของสองพรรคร่วมเรือเหล็กเป็นแบบนี้ เเรงบีบบี้เก้าอี้ ครม.ตกหนักที่"พรรคพลังประชารัฐ" เพราะหลายมุ้งในพรรคกำลังให้ยาหอมการทำหน้าที่ของ "ลุงป้อม" ในฐานะรักษาการนายกฯ ชนิดที่เรียกว่าขอดูแล"ลุงป้อม" เป็นพิเศษ ด้วยหวังผลถึงการมีลุ้นในตำแหน่งสองเก้าอี้รมต.ในห้วงเวลาที่เหลืออยู่ว่าเป็นห้วงเวลาที่เหมาะอย่างยิ่ง ในการเสนอตัวกับ"ลุงป้อม"เเบบพูดคุยรู้เรื่อง มากกว่า เจรจา”ลุงตู่”
อย่าลืมว่าแรงเขย่าให้มีการปรับครม. มีมาอย่างต่อเนื่อง ยิ่งในช่วงก่อนลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบล่าสุด จำไม่ได้หรือว่า มีความพยายามของกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ ให้มีการปรับครม.บนเก้าอี้มท.1ของ"พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา" กอปรกับกระแสการหายไปของรมช.ในช่วงนี้ ยิ่งเพิ่มแรงเขย่าให้ปรับเปลี่ยนเก้าอี้รมต.ดังเพิ่มขึ้นอีก
ทว่า ช้าก่อน เมื่อพิจารณาจาก ข้อกฎหมายด้วยว่ารอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับสถานะสร.1ของลุงตู่ให้เกิดขึ้นก่อนว่า "ลุงตู่" ได้ไปต่อหรือจอดป้ายนี้เพราะ
1. หากได้ไปต่อ (ยังไม่ตัองลุ้นว่าได้ไปต่อสองปีหรือสี่ปี) "ลุงตู่"จะกลับคืนสู่สถานะเดิม มีอำนาจยุบสภา/ลาออก/ปรับครม. หากไปถึงตอนนั้นคนที่ถวิลหาเก้าอี้รมต.ค่อยไปหาวิธีไล่บี้"ลุงตู่"เพื่อให้ตัวเองสมหวังกันเอาเอง....
2.หากลุงตู่จอดป้ายนี้ สถานะรักษาการสร.1ของ "ลุงป้อม" ก็รักษาการต่อเพื่อบริหารราชการเเผ่นดิน ( เว้นเรื่องสำคัญไว้รอรัฐบาลอำนาจเต็มมาบริหาร ) จนกว่าการสรรหาสร.1คนใหม่จะเสร็จสิ้น สร.1คนใหม่จะหารือพรรคร่วมเรือเหล็กว่าใครมีคุณสมบัติบ้าง....กับการทำหน้าที่รมต.ในเวลาที่เหลืออยู่ของเรือเหล็ก
สรุป....เเน่นอนว่าการปรับครม.ช่วง"ลุงตู่" หยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น "ลุงป้อม" ไม่ทำ(ให้เกียรติลุงตู่)?เเละทำไม่ได้( กฎหมายระบุไว้ชัดเเจ้ง ) !"
ดังนั้นนักปั่นหุ้นเก้าอี้รมต.ควรพิเคราะห์เเละยุติกระบวนการได้เเล้ว...ทราบเเล้วเปลี่ยน!