ส่องช่องทาง"ทักษิณ"กลับบ้าน-ต้องทำอย่างไร?

แม้จริงๆ เรื่องนี้ จะไม่ใช่เรื่องใหม่ เพียงแต่การพูดครั้งก่อนๆ ไม่ได้ถี่มากมายนัก และเป็นการพูดเพื่อหวังผลทางการเมืองอย่างชัดเจน เช่น ปลุกใจเสื้อแดง 

 

"ถ้าเมื่อไหร่เสียงปืนแตก ทหารยิงประชาชน ผมจะเข้าไปนำพี่น้องเดินเข้ากรุงเทพฯทันที" โดยประโยคนี้พูดตอนม็อบ เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2552 

 

แต่ระยะหลัง "พี่โทนี่" เริ่มพูดถี่ ตอบบ่อยมากในคลับเฮาส์ ทั้งกลับแบบเท่ๆ ออกทางสนามบินสุวรรณภูมิ  และล่าสุดพูดกับมวลชนคนเสื้อแดง จะกลับปีหน้า

 

 

ซึ่งปีหน้า คาดว่าเป็นปีเลือกตั้งพอดี จึงน่าคิดว่ามีอะไรเชื่อมโยงกันหรือไม่ เพราะ "คุณทักษิณ" ก็อยากให้เพื่อไทยชนะแบบแลนด์สไลด์ คือ พูดบ่อยพอๆ ไม่แพ้กลับบ้าน

ขณะเดียวกัน น่าคิดว่า ช่องทางที่คุณทักษิณจะกลับบ้านได้ มีอะไรบ้าง และอุปสรรคปัญหาที่จะทำให้การกลับบ้าน เป็นแค่เรื่องจริงหรือแค่ความฝัน คือ อะไร "ข่าวข้นคนข่าว" ได้ไปหาคำตอบจากกูรูด้านกฎหมาย 

 

โดย รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก คณบดีคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ การที่ทักษิณ จะกลับประเทศไทยได้ มีด้วยกัน 2 วิธี

 

 

วิธีแรก เอาแบบสุดโต่ง คือ นิรโทษกรรม

 

วิธีที่สอง คือ กลับมาติดคุก แล้วดำเนินการตามกระบวนการ ทำตัวเป็นนักโทษชั้นดี คดีที่ติดๆ อยู่ ก็มาสู้กันไป ซึ่งจริงๆ แล้วหากกลับมา ก็ไม่น่าจะติดคุกนานนัก เพราะบางคดีก็ตัดสินไปแล้ว และโทษไม่หนัก แต่อยู่ที่ว่าจะเลือกวิธีนี้หรือไม่

 

สำหรับการออกกฎหมายนิรโทษกรรมนั้น สามารถดำเนินการได้เลยทุกขั้นตอน หมายถึงไม่จำเป็นต้องนิรโทษเฉ​พาะคดีที่จบไปแล้ว ศาลตัดสินแล้ว แต่คดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ก็สามารถนิรโทษได้ ซึ่งแตกต่างจากการอภัยโทษ 

ขณะที่ รศ.สุขุม นวลสกุล อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ และอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง บอกว่า การออกมาพูดทำนองจะกลับบ้านของคุณทักษิณนั้น ใจจริงก็คงอยากจะกลับ แต่เป้าหมายหลักๆ ตอนนี้เชื่อว่า เป็นการหวังผลทางการเมืองมากกว่า โดยพยายามจะดึงเสียงประชาชนที่สนับสนุนให้ออกมาเทคะแนนให้พรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า 

 

 

ส่วนทางกลับทางเดียวจริงๆ คือ เพื่อไทยต้องชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์เท่านั้น แต่ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าจะกลับได้เร็วๆ นี้หรือไม่ เพราะฝ่ายตรงข้าม ก็ต้องคิดแก้เกมโดยใช้กฎหมายเหมือนกัน เรื่องนี้เป็นการต่อสู้ทางการเมือง

 

จากความเห็นของ 2 นักวิชาการ สรุปได้ว่า "พี่โทนี่" จะกลับบ้านได้ ต้องออกกฎหมายนิรโทษกรรม เพราะการกลับมาติดคุกระยะหนึ่ง ไม่ยอม 

 

ส่วนการจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมได้ใหม่นั้น ต้องทำให้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์เสียก่อน เพื่อให้มีความชอบธรรมในการดำเนินการ ลบล้างปัญหาการออกฎหมายนิรโทษกรรมแบบ "ลักหลับ" ในอดีต ที่นำมาสู่การชุมนุมของ กปปส. และการรัฐประหาร 

 

 

อุปสรรคขวากหนามที่สำคัญในการกลับประเทศไทยของคุณทักษิณ คือ คดีความต่างๆ ที่ตนเองโดนดำเนินคดี และตัดสินแล้ว รวมๆ ก็นับสิบคดี 

 

1.คดีที่ดินรัชดาฯ จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ตัดสินตามกฎหมายเก่า ขาดอายุความแล้ว (หลบหนีอยู่ต่างประเทศนานจนคดีขาดอายุความ) 

 

2.คดีทุจริตโครงการหวยบนดิน ลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา 

 

3.คดีให้ธนาคารเอ็กซิมแบงก์ ปล่อยกู้ให้รัฐบาลเมียนมา 4,000 ล้านบาท โดยจำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา 

 

4.คดีให้นอมินีถือหุ้น "ชินคอร์ป" เข้าไปมีส่วนได้เสียในกิจการโทรคมนาคม ซึ่งจำคุกรวม 5 ปี ไม่รอลงอาญา 

 

5.คดีสั่งกระทรวงการคลังบริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ทีพีไอ แต่ยกฟ้อง 

 

6.คดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้เครือกฤษดามหานคร ซึ่งก็ได้ยกฟ้อง 

 

จะเห็นได้ว่า คดีที่ขาดอายุความไปแล้ว และคดีที่ยกฟ้อง ก็จะไม่มีปัญหา แต่คดีที่ตัดสินแล้ว เจ้าตัวหลบหนี ไม่ยอมมารับโทษ ตามกฎหมายใหม่ ไม่ให้นับอายุความ คดีเหล่านี้จึงคาอยู่ คุณทักษิณกลับมา ก็ต้องติดคุกก่อน / ยกเว้นจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ยกพวง สุดซอย 

 

 

ปัญหายังไม่จบแค่นั้น เพราะคุณทักษิณ ยังโดนคดีใหม่ๆ อีกหลายคดี ซึ่งน่าจะไม่สามารถนิรโทษกรรมได้ 

 

1.อนุมัติจัดซื้อเครื่องบินโดยมิชอบ เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งทำให้การบินไทยล้มละลาย 

 

2.คดีทุจริตระบายข้าว จีทูจี ล็อต 2 / คดีนี้ ป.ป.ช.แจ้งข้อหาคุณทักษิณไปแล้ว 

 

ถ้าคุณทักษิณกลับมา ก็ต้องมาโดนไต่สวนคดีเหล่านี้ เจ้าตัวจะว่าอย่างไร แล้วถ้าสุดท้ายคดีพวกนี้มีความผิดอีก ต้องหนีไปต่างประเทศอีกหรือไม่ เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ นอกจากเจ้าตัว

 

ที่สำคัญ ต้องไม่ลืมว่า การออกกฎหมายนิรโทษกรรมครั้งก่อน ก็ทำให้เกิดม็อบ กปปส. และรัฐประหารตามมา ถ้าจะยังมีการนิรโทษกรรมอีกครั้ง จะเกิดเหตุการณ์เดิมซ้ำรอยหรือไม่