“พานทองแท้ ชินวัตร” บุตรชาย “ดร.ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กเผยแพร่คลิปวิดีโอ ชื่อ "Long distance call" โดยระบุว่า “เป็นคลิปที่ โอ๊ค เอม อิ๊ง ตั้งใจทำให้คุณพ่อในวันคล้ายวันเกิด และได้เปิดให้คุณพ่อดูสดๆร้อนๆดังที่เห็นใน Teaser โพสต์ที่แล้ว”
คลิปนี้เปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นของบันทึกความทรงจำตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จนกระทั่งอายุครบ 73 ปีในวันนี้ โดยคลิปจะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆของคุณพ่อ ในหลากหลายบทบาท ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี นักธุรกิจ ผู้ลี้ภัย คุณพ่อ และคุณตา ซึ่งในอนาคตคนรุ่นลูกรุ่นหลาน จะสามารถย้อนกลับมาดูได้ว่า ใครคือผู้ที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศที่แท้จริง ผ่านแพลตฟอร์มสมัยใหม่ต่างๆ ที่จะทำขึ้นต่อจากคลิปนี้
พานทองแท้ ระบุว่า “เคยมีคำกล่าวเดิมๆบอกไว้ว่า #คนชนะคือผู้ที่เขียนประวัติศาสตร์ ในยุคปัจจุบันนี้อาจไม่เป็นจริงเสมอไป เพราะคนที่ชนะด้วยการปล้นประชาธิปไตยจากประชาชน ได้พยายามเขียนประวัติศาสตร์ และยัดเยียดความผิด ให้กับคุณพ่อผมซึ่งถูกปล้นอำนาจบริหารประเทศไป โดยพยายามมา 16 ปี ผ่านการรัฐประหาร 2 ครั้งแล้ว ยังลบความทรงจำ “ทักษิณ ชินวัตร” จากใจของประชาชนไม่ได้ หวังว่าพี่น้องคงจะได้ประโยชน์จากการชมคลิปนี้ ได้ร่วมระลึกถึงและร่วมอวยพรวันเกิดคุณพ่อไปพร้อมกัน พร้อมทิ้งท้ายด้วยว่า “สุขสันต์วันเกิดครับพ่อ”
ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ Thaksinofficial เผยแพร่คลิปวิดีโอดีดังกล่าวที่ โดยเป็นบทสัมภาษณ์บันทึกฉากชีวิตของ ดร.ทักษิณ ที่ต้องจากแผ่นดินเกิดมาเป็นเวลากว่า 10 ปี โดยมีลูกหลานบินมาเยี่ยมในต่างประเทศอยู่เสมอ พร้อมตอบคำถามว่า มีแผลในใจหรือไม่จากประสบการณ์ที่ถูกกระทำ ดร.ทักษิณ ระบุว่า “ชีวิตที่ผ่านมาความโง่มันมาก่อนความฉลาดโดยเฉพาะเรื่องคน เพราะว่าประสบการณ์เป็นคนบ้านนอก มาอยู่กรุงเทพฯ ชีวิตก้าวกระโดด มันผ่านสังคมกรุงเทพฯ น้อยไป สังคมของอีลิทน้อยไป เลยกลายเป็นคนซื่อบื้อ อันนี้เป็นสิ่งผมต้องเรียนรู้ แต่ไม่คิดจะเรียนรู้แล้ว ไปสอนหนังสือไปอบรมลูกหลาน"
ดร.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่ได้ถึงกับเจ็บปวดแต่เสียดายตัวเองที่น่าจะเป็นประโยชน์ให้กับบ้านเมืองมากกว่านี้ ตนไม่เคยกลัวตาย เพราะถูกลอบสังหารมา 4 รอบ เฉยๆ ตนคิดว่าคนเราถ้าจะตายก็ตาย ยังไม่ตายก็คือไม่ตาย เป็นเรื่องที่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ตนไม่เคยเชื่อเรื่องชาติที่แล้วและชาติหน้า ไม่รู้กรรมและเวร ไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ เรื่องลอบสังหารตนเอง คนในครอบครัวรู้หมด
ถามว่าเวลายืนมองกระจกกำลังเห็นใคร ดร.ทักษิณ กล่าวว่า เห็นคุณหญิงพจมาน ผมสงสารคุณหญิงพจมาน ผมตัดสินใจกลับเมืองไทย เพราะว่าคุณหญิงรับภาระแทนผมมาเยอะ สงสาร
"ถ้าผมกลับไปแล้วทุกสิ่งทุกอย่างได้กลับไปอยู่ครอบครัวแล้ว มันก็จบทุกอย่าง ซึ่งวันนั้นผมกลับไปอยู่กับครอบครัวแล้วต้องทำตัวให้แข็งแรงเพื่อชดเชยเวลาที่หายไป ผมอาจต้องเล่นกับเทคโนโลยีให้มากขึ้น เพราะเราไม่สามารถเดินทางได้เยอะเหมือนเมื่อก่อน เพื่อให้ตัวเองไม่บกพร่อง หลานผมจะเซ็ตเวลาและสถานที่เพื่อบอกวันที่เท่านั้น เวลานั้นไปอยู่ตรงนั้นได้เห็นภาพผมและเสียงผมเหมือนอวยพรวันเกิดทุกปี เราต้องการให้"
ในช่วงท้ายของคลิปวิดีโอ ดร.ทักษิณ ระบุว่า ผมสั่งครอบครัวผมแล้วนะ ตายไปไม่เผา ให้เก็บร่างไว้ไม่ให้เผา นี่คือสิ่งที่ผมต้องการให้การต่อสู้ของผมให้ชีวิตผมเป็นอมตะของครอบครัวของลูกหลาน