เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
การเปิดตัว"พรรคเศรษฐกิจไทย"อย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมานั้นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะกรรมการบริหารพรรคนั้นหลายคนรู้กันแล้วว่า"พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา" เป็นหัวหน้าพรรค "ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า" เป็นเลขาธิการพรรค อดีตส.ส.พลังประชารัฐที่ย้ายพรรคตามผู้กองคนดังเป็นกรรมการบริหารพรรค
รวมทั้งการต่อสายดึงอดีตส.ส.หลากพรรคมาร่วมงานในคราวนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะหากมองลึกๆแล้วพบว่าอดีตส.ส.เหล่านี้ใช่ว่าจะมีสัมพันธ์ที่ดีกับต้นสังกัดเดิม
เพราะบางพรรครู้ตัวล่วงหน้าแล้วว่า ภาคนั้น-จังหวัดนี้ รบไปก็เปลืองแรงเปล่าๆ สู้เก็บแรงไปลุยพื้นที่หวังผลจะดีกว่า
บางพรรคก็งัดกันเองระหว่างขั้วอำนาจเดิม-กลุ่มอำนาจใหม่ของพรรคนั้นๆ ในการจับจองเขตนั้นเขตนี้ว่าใครควรลงสมัคร
ช่องว่างนี้เองที่ทำให้"ผู้กองคนดัง"ฉวยวิกฤตเป็นโอกาส เพื่อหวังผลการเมืองงวดหน้าว่าพรรคเศรษฐกิจไทยต้อง มีส.ส.เพิ่มขึ้น/ครบทุกภาค
ดังนั้นการออกตัวแบบนี้ของ"พรรคเศรษฐกิจไทย" อาจทำให้พรรคน้องใหม่อื่นๆหวั่นใจกันบ้างไม่มากก็น้อย เพราะการเดินเกมใต้ดินของ"ผู้กองคนดัง"บวกกระสุนดินดำนั้น ใช่ธรรมดาที่ไหน
การย้ายค่าย-เบอร์เดิมของอดีตผู้แทนราษฎรเหล่านี้ที่มาปักหลักกับ"ผู้กองคนดัง"จึงพอสร้างราคาให้หลากพรรคที่ต้อง เตรียมประชันกันในยามหน้าต้องคำนึงกันบ้าง เพราะผู้สมัคร ส.ส. 400 เขต และ 100 ปาร์ตี้ลิสต์นั้น "ผู้กองคนดัง" ระบุแล้วว่า"ส่งครบ" รวมทั้งแคนดิเดตสร.1ที่รอเวลาเปิดตัว
"ผู้กองคนดัง" ดีลคนการเมืองทุกระดับจากทั่วทุกพื้นที่ที่พอมีชื่อเสียงมาสวมเสื้อพรรค และน่าจะเน้นเก็บชัยในพื้นที่หวังผล(ผู้กองคนดังน่าจะใช้สูตรยิงลูกโดด คืออัดฉีดในพื้นที่หวังชนะแบบเน้นๆ ส่วนพื้นที่ที่ต้องชนกับของแข็งนั้น น่าจะใช้สูตรส่งครบทุกเขตเพื่อหวังว่าผู้สมัครคนนั้นๆน่าจะมีคะแนนส่วนตัวเพื่อไปเติมแต้มให้ระบบปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคเศรษฐกิจไทยได้บ้าง)
การวางตัว"อาน้อย"เป็นหัวหน้าพรรคแต่ยังไม่ออกตัวว่าจะเป็น 1ใน 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่..เพราะผู้กองคนดังบอกแล้วว่าสร.1ในมุมของร้อยเอกธรรมนัสนั้นสังคมต้องสัมผัสและยอมรับความสามารถได้นั้น ตีความได้หลายมุม
มุมหนึ่งคือ อาน้อยจะเป็นกาวใจไว้ดีลกับลุงป้อมในยามจำเป็น
มุมหนึ่งคือ "อาน้อย"ทำหน้าที่ประมุขของพรรคและน่าจะเป็นผู้สมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ อันดับที่1
อีกมุมหนึ่งนั้น "ผู้กองคน"ดังวางบทบาทอาน้อยไว้บนหิ้งเพื่อเป็นสัญลักษณ์
ร้อยเอกธรรมนัสเดินเกมเองทั้งหมด อาน้อยทำหน้าที่เพียงลงนามตามระบบ เมื่อถึงวันเปิดตัวผู้สมัครส.ส.-แคนดิเดตสร.1ของพรรคเศรษฐกิจไทย อาจย้ายบทอาน้อยจากหัวหน้าพรรคไปเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค(เหมือนช่วงมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ)
แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องมองในระยะอันใกล้คือสัมพันธภาพของ 18 ส.ส.พรรคนี้จะยืนขั้วใดบนเวทีการเมืองกับการเปิดสมัยประชุมรัฐสภา22พ.ค.2565 เพราะส.ส.เหล่านี้มีผลกับการลงมติในวาระต่างๆของสภาเกียกกาย
โดยเฉพาะผลกับฝั่งรัฐบาล เพราะหากตีความจากถ้อยคำของพลเอกวิชญ์- ร้อยเอกธรรมนัส นั้น พบว่า แกนนำพรรคนี้ยืนมุมตรงข้าม"พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา"ชัดเจน แม้ทั้งสองชีวิตออกตัวว่าให้ความเคารพ"พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ"หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐซึ่งตอนนี้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเช่นเดิม
"พล.อ.วิชญ์ บอกชัดแล้วว่าการดินเนอร์งวดหน้าของพรรคร่วมเรือเหล็กนั้น(พรรคภูมิใจไทยเป็นเจ้าภาพ) พรรคเศรษฐกิจไทย ไม่ไป เพราะหัวหน้าพรรคไม่กินข้าวเย็น ตรงนี้ก็สื่อความแบบไม่ต้องแปล"
ยิ่งบวกกับภาพของ"ร้อยเอกธรรมนัส"ไปโผล่กินข้าวเที่ยงกับส.ส.พรรคจิ๋วเมื่อหลายวันก่อน และภาพของส.ส.พรรคจิ๋วไปโผล่แสดงความยินดีกับการประชุมวิสามัญของพรรคเศรษฐกิจไทยเมื่อไม่กี่นาทีก่อนนั้น ก็ยิ่งย้ำว่าพรรคจิ๋วหลายพรรคยังสายตรงกับ"ผู้กองคนดัง" ได้แนบแน่นกว่าการประสานกับ"สุชาติ ชมกลิ่น"คีย์แมนของไทยคู่ฟ้า+พปชร.คนปัจจุบันที่รับการบ้านจาก 3ป.เพื่อทำหน้าที่ดีลกับพรรคจิ๋วแทนผู้กองคนดังในจังหวะข้างหน้า
ลีลาของเสี่ยเฮ้งในการดีลเสียงส.ส.หนุนเรือเหล็กทุกมิติหากต้องเทียบกับจังหวะของผู้กองคนดังในการคว่ำลุงตู่-ครม.บางคน-วาระ/ญัตติสำคัญนั้น จะเป็นเช่นใด
หรือ"ลุงป้อม"จะออกโรงเองหาก"เสี่ยเฮ้ง"ดีลล่ม....ต้องรอชมในยามหน้า
สัญญาใจของลุงป้อม-อาน้อยกับผู้กองคนดังจะแน่นเหนียวในวันข้างหน้าจริงหรือไม่ เพราะวันนี้ลุงป้อมยังยืนข้างกาย"ลุงตู่" แต่ทั้งสองคนจากพรรคเศรษฐกิจไทยย้ำชัดแล้วว่า ยืนคนละมุมกับ"ลุงตู่"
แบบนี้หากถึงจังหวะหน้าสิ่วหน้าขวาน "ลุงป้อม" จะวางใจ"อาน้อย-ร้อยเอกธรรมนัส"ให้มายืนข้าง"ลุงป้อม"ที่ยังปักหลักกับ"ลุงตู่"ได้กระนั้นเชียวหรือ....
อย่าลืมว่าเกมต่างๆที่"ร้อยเอกธรรมนัส"เดินอยู่นั้นมีหรือ"ลุงตู่"และคณะจะอ่านจังหวะไม่ออก จากปรากฏการณ์ปราบกบฏกันยา2564 ยังคงเป็นรอยแผลลึกที่ติดตัว"ผู้กองคนดัง"ไปนานเท่านาน
รอยแผลแบบนี้ คนการเมืองส่วนใหญ่มักจะจดจำเสียด้วยจึงไม่รู้ว่าวันข้างหน้าหากต้องร่วมหอลงโรงด้วยกัน อาการกบฏจะก่อตัวหรือไม่
...ต้องตรึกตรองอย่างลึกซึ้ง....