
รูดม่านเก็บฉากไปแล้วสำหรับศึกซ้อมย่อย "อภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ" เมื่อวันที่17-18ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากนี้เตรียมติดตามว่า "การอภิปรายไม่ไว้วางใจ" จะบังเกิดวันใด เพราะ "สภาเกียกกาย" จะเปิดประชุมอีกครั้งในเดือนพ.ค. เมื่อถึงช่วงนั้นหากฝ่ายค้าน "ยื่นญัตติ" ศึกซักฟอกครม.เรือเหล็กงวดสุดท้ายใน "วันใด" ห้วงเวลาสี่เดือนข้างหน้านั้น "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" จะยุบสภาไม่ได้จนกว่าจะมีการลงมติเสร็จสิ้น
ศึกซ้อมย่อยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา พบว่า ฝ่ายค้านมีทั้ง "การบ้านข้อเดิม-การบ้านข้อใหม่-แนวข้อสอบ" มารีวิวเรียกน้ำย่อยชาวบ้าน-คนการเมือง เป็นการส่งสัญญาณไปว่าครม.ชุดนี้และคนแวดล้อม "โปร่งใส+มีน้ำยา" เพียงใด....เพราะบางเรื่องก็มี "กลิ่นแปลกๆ" โชยออกมาให้พอเป็นกระสัยบ้างแล้ว รวมทั้งข้อสอบชุดใหม่ที่รอเปิดออกมาจะสะเทือนบัลลังก์ครม.ชุดนี้หรือไม่
วันนั้น (หากไม่มีการยุบสภาเสียก่อน) จะกระจ่างว่า "ลุงตู่และทีมงาน" จะได้ไปต่อหรือไม่...
ถึงวันนั้นจะรู้หมู่รู้จ่าว่า ผู้แทนราษฎรคนใด-ขั้วใด มีมติ "ปักหลัก-ปันใจ" กับต้นสังกัด-ว่าที่พรรคใหม่กันแน่
จะทราบว่า "กระแสนิยมลุงตู่" จากส.ส.ทั้งสภามีจำนวนแต้มเท่าใด
และวันนั้นจะแจ้งชัดว่า เส้นทางแห่งอำนาจในอนาคตของการเมืองไทยนั้น " ใคร-พรรคใด-มุ้งไหน" จะเป็นผู้ร่วมชี้ชะตา...
แม้สร.1ยืนยันไม่ "ลาออก" แต่กระแส "ยุบสภา" กลับกระหึ่มเมือง อีกทั้งไม่มีการยืนยันจากสร.1เป็นที่แน่ชัด บวกกับกระแสข่าวว่าแกนนำแต่ละมุ้งกำลังเช็กยอดส.ส.เพื่อรองรับสถานการณ์ที่คาดลำบากในยามนี้
ขณะที่กระแสข่าวจากส.ว.บางคนลือกันไปอีกแขนงหนึ่งว่า "ลุงตู่"น่าจะยืนยาวไปจนเกือบครบวาระก็เป็นกระแสข่าวที่ย้อนแย้งกันอย่างยิ่งกับสถานการณ์การเมืองในยามนี้
หากให้อ่านใจ3ป.นั้น แน่นอนว่า การเลือกตั้ง "ผู้ว่าฯกทม.-นายกเมืองพัทยา" ที่จะมีขึ้นในเดือนพ.ค.นั้น รอเพียงเคาะว่า "จะหย่อนบัตรวันที่เท่าใด" ระหว่าง"วันที่1-8-15-22-29 พ.ค." เพราะสองเวทีนี้ การหย่อนบัตรต้องเกิดขึ้น ผลคะแนนที่ปรากฏ จะเป็นดัชนี้ชี้วัดขั้นต้นว่า "กระแสเบื้องต้นจากชาวกรุงนั้นจะให้ใจกับผู้สมัครคนใด-พรรคไหน อาจจะเป็นข้อมูลขั้นต้นประเมินสำหรับสนามส.ส.สี่ร้อยเขตสำหรับ 3ป. และพปชร. ว่าควรเดินหมากการเมืองรูปแบบใด"
ไทม์ไลน์การเมืองตอนนี้ สื่อหลากสำนักเจาะลึกกันว่าแต่ละพรรค แต่ละมุ้ง จ่อขยับโยกย้าย- ปักหลักฐานเดิมหรือไม่ เพราะสองเดือนข้างหน้านี้อาจจะมีสัญญาณบ่งชี้บางอย่างว่า "การยุบสภาจะเกิดเมื่อใด...."จากปฏิกริยาของสร.1
เนื่องจากเกิดกระแสข่าวปูดขึ้นว่า "ไม่กี่วันข้างหน้า อาจมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนฯสมัยวิสามัญเพื่อเคาะร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่..) พ.ศ. ... " ก่อนกำหนด
โดยตามหลักแล้วร่างกฎหมายสองฉบับนี้ต้องเข้าสู่วาระการพิจารณาของสภาผู้แทนฯในช่วงเดือนพ.ค.เป็นต้นไป และน่าจะเสร็จสิ้นในสมัยประชุมหน้า(คาดว่าเดือนก.ค.จะเสร็จสิ้น) "
ดังนั้นหากเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง(เปิดประชุมสมัยวิสามัญเพื่อเคาะร่างกฎหมายสองฉบับนี้) ไม่ต้องคิดเยอะ เพราะแปลตรงๆว่า "ยุบสภาก่อนกำหนด(ก่อนยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ+ก่อนครบวาระสี่ปี)แน่นอน หลังร่างกฎหมายสองฉบับนี้ผ่าน"
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจเคียงข้างไทม์ไลน์การเมืองข้างต้นคือ "สาย สัมพันธ์ของคนในค่ายพลังประชารัฐ" ซึ่งเป็นพรรคสนับสนุนหลัก3ป. ตอนนี้คล้ายว่า"สะบั้นไปแล้วบางส่วนและเริ่มสะบั้นอีกบางส่วน" รวมทั้งการเช็กชื่อส.ส.แต่ละคนว่ายืนมุ้งใดกันแน่...
สะบั้นไปแล้วคือ "ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า" ที่หิ้วอดีตส.ส.พปชร.18 คน ไปตั้งพรรคเศรษฐกิจไทย( สืบทราบว่า ร้อยเอกธรรมนัสเดินเกมใต้ดินโดยเดินสายเชื่อมไมตรีกับอดีตส.ส.-คนการเมืองหลายชีวิตที่พอมีลุ้น ให้มาร่วมวงไพบูลย์กับพรรค ) จึงยังไม่รู้เลยว่าศึกซักฟอกงวดหน้า ส.ส.เหล่านี้จะลงมติเช่นใดให้ครม.เรือเหล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคะแนนของ"สร.1" แม้ "พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ" หัวหน้าพรรคพปชร.จะย้ำว่าผู้กองคนดังและคณะจะยังสังกัดขั้วรัฐบาลก็ตาม แต่คล้ายว่า"ลุงตู่"อ่านจังหวะของ"ร้อยเอกธรรมนัส" ได้แทบทุกจังหวะและออกอาการไม่เชื่อคำมั่นซึ่ง"ลุงป้อม"สื่อความออกมา
สะบั้นไปแล้วคือ"เสกสกล อัตถาวงศ์"ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่แยกไปตั้งพรรครวมใจสร้างชาติกับอดีตคนเสื้อแดงบางส่วน นัยว่าจะหนุน"ลุงตู่"ต่อไปและเดือนมี.ค.นี้แรมโบ้อีสานจะเปิดตัวแกนนำพรรค... แต่เมื่อมองลึกๆกับเกมนี้ซึ่งแรมโบ้อีสานออกตัวแรงนั้น ใครบางคนมองลีลาดังกล่าวว่า "ดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน"
ส่วนการส่อแววสะบั้นนั้น ตอนนี้บางมุ้งเริ่มฉายแววแล้ว เพราะ "กลุ่มคุณปลื้ม"ที่นำโดย"สนธยา คุณปลื้ม" นายกเมืองพัทยา ซึ่งตอนนี้ปะทะหนักกับ"สุชาติ ชมกลิ่น" รักษาการผอ.พรรค เรื่องการวางตัวผู้สมัครส.ส.ชลบุรี เนื่องจากงวดหน้าจังหวัดนี้จะมีส.ส.สิบคน (ปัจจุบันแปดคน) โดยมีการแฉว่าทรยศ เป็นการ "ทับรอย"วางตัวผู้สมัคร ส.ส.ซ้ำกัน ไม่ให้น้ำหนักกับพรรค วิวาทะหนักๆจากทั้งสองฝ่าย แม้เดือนมี.ค.นี้"ลุงป้อม"จะเรียกประชุมพรรคสมัยวิสามัญเพื่อปรับโครงสร้างพรรคหลังเสียเลขาธิการพรรคคนล่าสุดและกระชับอำนาจแต่ละมุ้งกันใหม่เพื่อมิให้พรรคแตกก็ตาม แต่เมื่อเคสนี้บังเกิดแล้วก็อาจมีเคสอื่นๆตามติดมาก็เป็นได้
เริ่มปรากฏแววสะบั้นคือแกนนำบางคนเริ่มยุทธการตกปลาในบ่อเพื่อน (ดีลส.ส.มุ้งอื่นๆให้ย้ายมามุ้งตัวเอง รวมทั้งสำทับส.ส.ในมุ้งมิให้ปันใจ ด้วยการเสนอหลากโครงการในช่วงปีสุดท้ายของรัฐบาล) นัยว่าเสริมแกร่งให้มุ้งตัวเองมีราคา เพราะมีกำลังพลที่แน่ชัดพอที่จะยื่นเงื่อนไขที่ไม่อาจปฏิเสธได้ไปให้3ป.รับรู้ ส่วนการยืนยันตัวตนนั้นไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ สังคมรับรู้จากภาพข่าวว่า ส.ส.ปักษ์ใต้พปชร.บันทึกภาพคู่ลุงตู่ ณ สภาเกียกกายนั้น คล้ายเป็นการบอกใบ้ว่า ส.ส.คนนี้-ส.ส.คนนั้นยืนขั้วใดในพรรคและชูแขนหนุน"ลุงตู่"หรือไม่
ดังนั้นเกมวัดกำลังในพปชร. การหย่าศึกและการเช็กยอดส.ส.นั้น คือภารกิจหลักที่"ลุงตู่-ลุงป้อม"ต้องดำเนินการให้ลุล่วงในเร็ววันนี้ หากแก้มิได้ โอกาสไปต่อส่อแววรอดต่ำ