ยามนี้การเมืองไทยร้อนแรงหลายวาระ และหนึ่งในนั้นที่ยังอลวนว่า จริงหรือเท็จคือคดีฮั้วสรรหาสว.ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และรมว.ยุติธรรม "พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง" นำร่องว่าเคสสว.นั้นมีการกระทำอั้งยี่-ซ่องโจรและฟอกเงิน ซึ่งเป็นความผิดเข้าข่ายฐานล้มล้างการปกครอง
โดยตัวละครนำหนึ่งในนั้น คงไม่มีใครไม่รู้จัก "ณฐพร โตประยูร" อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งตอนนี้เปิดศึกกับพรรคภูมิใจไทย(ภท.)และสว.สายสีน้ำเงิน โดย ณฐพร กล่าวหาว่าคีย์แมนพรรคสีน้ำเงินหลายคนเกี่ยวข้องกับการสรรหาสว. โดยล่าสุด (21พ.ค.2568) ณฐพร เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อพิจารณายุบพรรคภท. กรณีมีความเกี่ยวข้องกับคดีฮั้วเลือก ส.ว. ปี 2567 และก่อนหน้านี้ (20พ.ค.2568) ณฐพรได้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้มีคำสั่งให้ 138 สว.สิ้นสมาชิกภาพ-หยุดปฎิบัติหน้าที่ หลังพบพฤติการณ์ตกอยู่ใต้อาณัติพรรคสีน้ำเงิน/ขัดรธน./ทำระบอบการปกครองถูกเซาะกร่อน บ่อนทำลาย/ แทรกแซงการทำงานองค์กรอิสระ/ ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
ณฐพร ยังกล่าวกับสื่อมวลชนว่า "มี 2ส. คือ ส.นายพลและส.นักธุรกิจเป็นแบ็กอัพคุมองค์กรอิสระร่วมกับพรรคสีน้ำเงิน" พูดง่ายๆณฐพรสื่อความให้สังคมรับรู้ว่า 2ส.ให้ท้ายสว./องค์กรกิสระและพรรคสีน้ำเงินในข้อกล่าวหาดังกล่าว
วาระล่าสุดที่ ณฐพรออกโรงนั้น หากข้อมูลที่ชายคนนี้กล่าวอ้างเป็นจริงก็นับเป็นมุมบวกที่ช่วยสังคมให้กระจ่างเเละพินิจว่าถึงคราวชำระ/ปฏิรูปการเมืองเเบบเต็มร้อยเเล้วหรือไม่ เพราะตอนนี้ไม่ว่าจะเเตะตรงไหน ร้อนตรงนั้นในทุกมุมการเมือง
ดังนั้น การเมืองไทยหากยุ่งขิงเเบบ "ณฐพร" อ้างไว้กับเคสนี้นั้น หากหลักฐานชัดเจนรับรองว่าสังคมไม่ปล่อยไว้เเน่นอน
เเต่..การกล่าวอ้างของณฐพรในคราวนี้ ควรฟังคู่กรณีเคียงข้างเเละพินิจไปพร้อมกันเพื่อสมดุลข่าวเพราะเคสนี้ "อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคสีน้ำเงินโต้กลับแบบเน้นๆกรณีนี้ว่าณฐพรมีหลักฐานที่จะยุบพรรคภูมิใจไทย แต่เนื่องจากมีนาย ส. (ที่เป็นนักธุรกิจ) กับนายพล ส. ที่คุมองค์กรอิสระทั้งหมด จึงทำให้ไม่สามารถยุบพรรคภท.ได้ว่า "คนที่ต้องปกป้องพรรค ภท.ที่สุดชีวิต มีเพียง อ. เดียวเท่านั้น ไม่มีอักษรอื่น คนที่จะทำให้พรรค ภท.เจริญหรือตกต่ำก็ อ.”
เมื่อถามว่า มีการอ้างว่ามีหลักฐานพร้อมเปิดชื่อ 2 ส.นั้น อนุทิน กล่าวว่า "ก็เปิดสิเก็บไว้หาอะไร ไปถึงโรงถึงศาลก็ต้องเปิด กล้าไหมเอ่ยชื่อมาเลยว่า ส.ไหน กลัวจะเป็น ส. แบ็กเขาหรือเปล่า ลองไปเช็กดูว่าเขาถูกใครไล่ออกจากที่ปรึกษากระทรวงมหาดไทย"
เมื่อถามว่า ช่วงนี้ที่กระแสพยายามที่จะทำลายพรรค ภท. มองว่าเป็นเกมทางการเมืองใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ถ้าไม่ใช่เกมการเมืองจะเป็นเกมอะไรล่ะ ชัดเจนอยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้ณฐพรเคยเป็นที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย(สุทธิพงษ์ จุลเจริญ) และน่าจะเป็นส.ที่เสี่ยหนูกล่าวถึงว่าอาจเป็นแบ็กอัพให้ณฐพร และเมื่อปลัดเก่งเกษียณอายุราชการ โดยธรรมเนียมแล้วคณะทำงานทั้งหมดต้องพ้นวาระไปด้วย
แต่สืบความได้จากสิ่งที่เสี่ยหนูตอบโต้ ณฐพร นั้น สายข่าวย่านคลองหลอดรายงานว่า ณฐพร พยายามขอทำงานในกระทรวงคลองหลอดต่อไป แม้"ปลัดเก่ง"พ้นตำแหน่งไปแล้ว แต่เสี่ยหนูไม่โอเค และบวกกับกระแสข่าวย่านคลองหลอดว่าตั้งแต่เสี่ยหนูมาทำหน้าที่รมว.มหาดไทยนั้น อาการเกาเหลาของเสี่ยหนูกับปลัดเก่งชัดเจนยิ่งนักตรงนี้สอดรับกับสิ่งที่เสี่ยหนูระบุถึง”ส.แบ็กอัพ”ของณฐพรหรือไม่ สังคมควรไตร่ตรองให้รอบด้านด้วยเพราะเกมนี้ที่ ณฐพร พาดพิง”2ส.”ที่อาจมีเอี่ยวกับเสี่ยหนูนั้น และ เสี่ยหนูซัดกลับ "ส.แบ็กอัพณฐพร" นั้นมันอาจไม่ใช่เรื่องเล็ก.....
ขณะที่ ในเพจของ สุทธิพงษ์ จุลเจริญ Suttipong Juljarern หรือสื่อมวลชนเรียกกันว่า ปลัดเก่ง เพราะเคยเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ว่า มีน้องที่ยังรับราชการอยู่ส่งข้อความมาในเพจ Suttipong Juljarern ซึ่งผมใช้สื่อสารกับคนในสังคมมายาวนานแล้วว่ารายการข่าว..ข่าวข้นคนข่าว… ได้นำเสนอข่าวโดยมีการพาดพิงชื่อผมด้วย …
ผมเองไม่ได้ดูรายการข่าวนี้แต่อย่างใด แต่ภาพหน้าจอทีวีที่น้องเขาส่งมาให้ผมทราบด้วยนั้นมีรูปผมกับ ดร.ณฐพร โตประยูร พร้อมกับข้อความประกอบภาพว่า “ณฐพร“ใช่อื่นไกลอดีตที่ปรึกษา …
ซึ่งก็พอทำให้คาดเดาว่าที่พาดพิงชื่อผมในรายการข่าวก็คงเอาไปเสนอว่าท่าน ดร. ณฐพร โตประยูร เคยเป็นที่ปรึกษาผมเมื่อครั้งผมดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เมื่อ 5 ปีที่แล้ว …ซึ่งก็เป็นจริงๆ เพราะในช่วงนั้นการขับเคลื่อนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่โคก หนอง นา ได้รับความกรุณาจากรัฐบาลภายใต้การนำของท่านพลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา ได้อนุมัติงบประมาณมาดำเนินการ ภายใต้คำแนะนำของ ศอญ. (ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสา) จึงได้แต่งตั้งท่าน ดร.ณฐพร โตประยูรมาเป็นที่ปรึกษาอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เพื่อให้ท่านช่วยติดตามตรวจสอบการดำเนินโครงการให้เป็นไปด้วยความโปร่งใส เกิดประโยชน์ตามวัตถุประสงค์เพิ่มเติมจากการตรวจสอบโดยส่วนราชการและภาคประชาสังคม ซึ่งตลอดระยะเวลาท่านก็ได้ช่วยเหลือมาเป็นอย่างดียิ่ง
ส่วนเมื่อผมดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ขอให้ท่านเป็นคณะกรรมการร่างกฎหมายโดยมีท่าน ดร.จรัญ ภักดีธนากุล และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงานกฤษฎีกา อัยการสูงสุด และอื่นๆเพื่อช่วยปรับปรุงกฎหมายในอำนาจหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยที่มีอยู่มากและล้าสมัยเนื่องจากใช้มานาน เช่น กฎหมายการพนัน ที่การพนันออนไลน์ยังไม่มีบัญญัติไว้ว่าเป็นการพนันผิดกฎหมาย เป็นต้น
ย้อนประวัตินักร้องเรียนที่ชื่อ”ณฐพร โตประยูร”นั้น แน่นอนว่าสังคมรู้จักชายคนนี้จากการร้องเรียนให้เอาผิดแกนนำพรรคและยุบพรรคสีส้มสองเวอร์ชั่นในข้อหาปฏิปักษ์การปกครอง โดยบางคดีสำเร็จ(ยุบพรรคอนาคตใหม่)/บางคดียกคำร้อง(ยุบพรรคก้าวไกล ข้อหาร่วมชุมนุมทางการเมืองและประกันตัวผู้ชุมนุม) และล่าสุดเสนอยุบพรรคสีน้ำเงิน
แต่ที่ลึกกว่านั้นคือ ประวัติบางด้านของชายชื่อ"ณฐพร" นั้นหลายคนอาจลืมไปแล้ว เเละอาจเป็นมุมหนึ่งที่เสี่ยหนูขุดขึ้นมาเพื่อดักทาง!?!หลังจากโยงกรณีคลองหลอดล่าสุด
ช่วง ปี2559 จะพบว่ามีกระแสข่าวว่าณฐพร ต้องเผชิญการตรวจสอบความไม่โปร่งใสหลายวาระและเป็นคดีความที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมสอบสวนคดีพิเศษ- ปปง.-สำนักงานอัยการสูงสุด นั่นคือ กรณีมีชื่อ ณฐพรไปพัวพันคดีฟอกเงินการขายที่ดิน ‘ศุภชัย ศรีศุภอักษร’ อดีต ประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น 477 ล้านบาท รวมทั้งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เล็งตั้งสอบข้อเท็จจริง "ณฐพร โตประยูร" ปมคุณสมบัตินั่ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิบริหารเงินกู้ ช.พ.ค. ที่มีวงเงินหมุนเวียนหลักหมื่นล้านบาท
แต่คดีต่างๆที่พัวพันณฐพรตามที่สื่อมวลชนเคยเสนอข่าวไปหลายปีก่อนนั้นกลับเงียบหายจากหน่วยราชการที่รับผิดชอบว่าคดีเดินหน้าเพียงใดและคล้ายว่าณฐพรยังไม่เคยปริปากอธิบายข้อกล่าวหาดังกล่าวว่าจริงหรือไม่
และยามนี้ที่ ณฐพรออกมาเล่นบทอัศวินประชาธิปไตยแบบนี้..ถามว่าวันนี้และวันวาน "ณฐพร โตประยูร" สวมเสื้อเกราะสีทองหรือสีเทากันแน่...
สังคมพึงสดับใช้วิจารณญาณ อ่านหมากเกมตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นมุมน้ำเงิน เเละมุม ณฐพร หากทุกอย่างกระจ่าง เชื่อว่า เมืองไทยและประชาธิปไตยจะได้โปร่งใสขึ้นอีก