
จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานชมรมทหารเรือ เป็นประธานพิธีเทิดพระเกียรติ “เสด็จเตี่ย” องค์บิดาของทหารเรือไทย พร้อมร่วมพิธีการเปลี่ยนธงราชนาวี บริเวณพระตำหนักพระอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีทหารเรือ ผู้บริหารท้องถิ่น ข้าราชการ และประชาชนร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง
จ่าเอกยศสิงห์ ระบุว่า แม้วันนี้ทำหน้าที่ในระดับบริหารประเทศ แต่ “ราก” ของการทำงาน ยังยืนอยู่บนความเป็นทหารเรือ และยก “เสด็จเตี่ย” เป็นแบบอย่างของผู้นำที่ไม่ทิ้งหน้าที่ ไม่ทิ้งประชาชน และไม่ทิ้งชาติ
ทั้งนี้ จ่าเอกยศสิงห์ เติบโตมาจากรากของราชนาวีไทย เป็นอดีตลูกประดู่ที่ยังรักษาท่าที วินัย และทำงานจริง เป็น “ลูกชาวนา ตามองดาว เท้าติดดิน” ก่อนขึ้นสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เส้นทางของเขาถูกมองเป็นแบบอย่างของ “นักฝันผู้ไม่ย่อท้อ” ที่ไม่ปล่อยให้โชคชะตาเป็นผู้กำหนดปลายทาง
จ่าเอกยศสิงห์ ยังคงมีวิธีเดินทาง และวิธีคิดแบบทหารเรือที่ย้ำว่า งานใหญ่ไม่สำเร็จด้วยคำพูด วินัยคือคำสัญญาที่ต้องทำให้เห็นทุกวัน และความรับผิดชอบคือการยืนอยู่สู้กับปัญหา ไม่ใช่ยืนหนีปัญหา
จ่าเอกยศสิงห์ ยังระบุว่า แม้ชั้นยศ จะดูน้อยนิดในสายตาใครบางคน แต่สำหรับตน ถือเป็นยศพระราชทาน ที่มีความหมายมากกว่าตัวอักษรบนบ่า แต่คือ ตรารับรองของหน้าที่ และเกียรติของการรับใช้ชาติ ที่ยืนอยู่บนความไว้วางพระราชหฤทัย จึงเป็นความภาคภูมิใจของตนเอง และครอบครัวเสมอมา เป็นเครื่องเตือนใจว่า เกียรติไม่ได้วัดที่ความสูงของตำแหน่ง แต่วัดที่ความซื่อตรงต่อหน้าที่ในทุกวัน
จ่าเอกยศสิงห์ ยังหวังว่า การเข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ จะสามารถส่งสารเชิงคุณค่าไปถึงกำลังพลทุกนายว่า เกียรติของการรับใช้ชาติ และศักดิ์ศรีของเครื่องแบบ ไม่ได้เป็นแค่คำพูดในพิธี แต่เป็นพลังที่พาชีวิตคนคนหนึ่งไปไกลได้จริง เมื่อยืนหยัดในหน้าที่ และในวันที่โลกเต็มไปด้วยความผันผวน คนไทยจำนวนมากอาจลืมไปว่า “ความสงบ” ไม่ได้เกิดขึ้นเอง แต่เกิดจากคนที่ยังยืนเวร ยืนยาม ยืนหน้าที่ ทั้งในทะเล บนบก และในภารกิจที่ไม่มีใครเห็น
จ่าเอกยศสิงห์ ยังให้กำลังใจทหารเรือในการทำหน้าที่ โดยมั่นใจว่า ทุกคนทำได้ เริ่มจากทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ด้วยวินัย ความซื่อสัตย์ และหัวใจที่ยืนหยัดเพื่อส่วนรวม ให้สมกับเกียรติของ “ลูกทะเล” เพราะเมื่อไหร่ที่คนไทย “ไม่ทิ้งกัน” ประเทศนี้จะยืนอยู่เหนือทุกคลื่นลมเสมอ
ทั้งนี้ 19 ธันวาคม เป็นวันคล้ายวันประสูติ กรมหลวงชุมพรฯ เป็นวันที่ทำให้ทหารเรือทั้งประเทศหวนกลับไปหา “ต้นแบบ” ของคำว่า ผู้นำเสด็จเตี่ยถูกจดจำว่าเป็น “พ่อของทหารเรือไทย” เพราะทรงลงมาร่วมกับกำลังพลจริง วางรากฐานระบบงาน วางมาตรฐานการฝึก สร้างวินัย สร้างความรู้ และสร้าง “ความมั่นใจ” ให้ทหารเรือยืนได้ด้วยตัวเอง วางแนวคิดเชิงยุทธศาสตร์ที่คิดเผื่อคนรุ่นหลัง ซึ่งสะท้อนความเป็น “พ่อที่สร้างบ้านให้ลูกมีที่ยืน”