
16 ธันวาคม 2568 ที่พรรคประชาชาติ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร แกนนำพรรคประชาชาติ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะ หัวหน้าพรรคประชาชาติ, นายซูการ์โน มะทา เลขาธิการพรรคประชาชาติ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดยะลา พรรคประชาชาติ พร้อมด้วย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของพรรคประชาชาติ และคณะกรรมการบริหารพรรค ประชุมร่วมกัน ในวาระต่าง ๆ
อาทิ วาระเรื่องการประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. ฯลฯ โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรคในจังหวัดชายแดนใต้เข้าร่วมประชุมออนไลน์อย่างพร้อมเพรียง เพื่อหารือสถานการณ์ทางการเมือง และการเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึง โดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ได้กล่าวขอบคุณ อดีต สส. , คณะกรรมการบริหารพรรค และบุคลากรของพรรคทุกคน ที่ทำให้ประชาชนทุกคนรู้ว่า พรรคประชาชาติ ของเรายังอยู่
ขณะที่ พันตำรวจเอกทวี กล่าวในที่ประชุมโดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรวมพลัง ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านทางการเมือง โดยระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคประชาชาติพร้อมประกาศตัวเป็น "พรรคหลัก" ของประเทศ ซึ่งคำว่าพรรคหลักในที่นี้ ไม่ได้วัดกันที่จำนวนตัวเลขของผู้แทนฯ ที่มีจำนวนมากเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงการทำหน้าที่เป็น "หลัก" ในสถาบันนิติบัญญัติตลอด 2 สมัยที่ผ่านมา
"ในระบอบนิติบัญญัติปัจจุบัน ที่ผ่านมาพรรคประชาชาติได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ส.ส. ของพรรคทุกคนได้ทำหน้าที่เป็นหลักให้กับฝ่ายนิติบัญญัติอย่างแท้จริง โดยเฉพาะท่านอาจารย์วันนอร์ที่ได้ทำหน้าที่ประธานสภาฯ อย่างสมเกียรติ" พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าว
นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังได้มีการหารือถึงวาระสำคัญ ในการปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรค จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการคัดเลือก และแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ เพื่อให้การบริหารงานพรรค เป็นไปอย่างต่อเนื่องและถูกต้องตามกฎหมาย เตรียมพร้อมขับเคลื่อนพรรคสู่สนามเลือกตั้งอย่างเต็มภาคภูมิ ภายใต้อุดมการณ์ "เติบโตด้วยศรัทธา ยั่งยืนเพื่อประชาชน"
นอกจากนี้ พันตำรวจเอก ทวี ยังได้กล่าวปลุกพลังสมาชิกพรรคให้ร่วมกันสร้างพรรคประชาชาติให้เป็น "สถาบันทางการเมือง" ที่ยั่งยืน ข้ามพ้นวัฏจักรเดิมๆ ของการเมืองไทย โดย กล่าวเน้นย้ำถึงจุดเปลี่ยนสำคัญที่พรรคประชาชาติ ต้องก้าวข้ามไปให้ได้ โดยระบุว่า หากพรรคสามารถผ่านจุดนี้ไปได้ พรรคประชาชาติจะไม่ใช่แค่พรรคการเมืองธรรมดา แต่จะกลายเป็น "สมบัติที่แท้จริงของประชาชน" และเป็นความรู้สึกร่วมของพี่น้องประชาชนทุกคน ที่ช่วยกันก่อร่างสร้างตัวกันมา