
4 ธันวาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงกรณีที่ปรากฏในภาพถ่าย ร่วมกับนายเบน สมิธ หนึ่งในเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติว่า ทุกคนก็เห็นอยู่ว่าภาพถ่ายตั้งแต่เมื่อไหร่ และที่สำคัญที่สุดเมื่อวานนี้(3 ธ.ค.68) ตนก็ได้แถลงข่าว ใครมีเส้นใครมีสาย ซึ่งตนก็บอกว่าเป็นใครก็ดำเนินการตามกฎหมายทุกอย่าง พร้อมยอมรับว่า "รู้จักกับนายเบน สมิธ แต่ไม่สนิท" ซึ่งภาพที่ปรากฏ เป็นการเจอกับนายนายเบน สมิธ ครั้งแรก
ส่วนมองว่าเป็นเกมการเมืองหรือไม่ ที่มีการปล่อยภาพออกมาในช่วงนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็แล้วแต่คิด แต่โดยปกติ ไม่ได้มีธุรกิจ ธุรกรรมเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว พร้อมย้อนถามสื่อมวลชนว่า ตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่า ทำไมเขาถึงไม่ได้สัญชาติไทย และยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นหนึ่งในเหตุ และหนึ่งในข้อหาที่ตนโดนขอให้ออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งขณะนั้นตนไม่ได้โดนปลดจากรัฐบาล แต่โดนขอให้ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งตนไม่เอา
"เขาไม่ได้ปลดผมออกจากรัฐบาล แต่ผมขอเป็นคนขอออกเอง ขอพูดให้แฟร์ๆ ให้เสนอข่าวให้ชัดเจนว่า ภูมิใจไทยไม่ได้โดนปลดออกจากรัฐบาล ภูมิใจไทยได้รับการขอให้ออกจากมหาดไทย และไปอยู่สาธารณสุข และภูมิใจไทยก็ปฏิเสธ" นายอนุทิน กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้เหมือนเป็นความพยายามดึงให้นายกรัฐมนตรีลงเหว ในขณะที่พยายามกู้ภาพลักษณ์นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ก็ต้องคิดวิเคราะห์ และแยกเรื่องให้ถูก
เมื่อถามว่า นายกฯรู้หรือไม่ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็รู้หมดแหละ นักข่าวก็รู้
ส่วนจะมีการขยายผล และออกหมายจับนายเบน สมิธ หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ไปถามตำรวจ แต่ในทางสืบสวนสอบสวนตนก็บอกแล้วว่า ให้ปิดชื่อ ถือพฤติกรรม และตอนที่นายเบน สมิธ เข้ามาก็ไม่ได้บอกว่าจะมาทำธุรกิจอะไร ซึ่งนายเบน สมิธ อยู่ในวงเพื่อนของเพื่อนที่รู้จักกัน ซึ่งตนก็รู้จักและหลังจากนั้นเจอกันก็ทักทาย พร้อมถามว่า การเจอกันกี่ครั้งหมายความว่าอย่างไร ก็เจอกันตามงาน เพราะเขาก็มีแวดวง ซึ่งตนได้เจอ 5-6 ครั้ง
เมื่อถามย้ำว่า นายเบน สมิธ รู้จักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราดีใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีหัวเราะพร้อมกล่าวว่า ก็เห็นภาพอยู่ จะมาเอาอะไรกับรูปถ่ายเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว
เมื่อถามว่า เมื่อมีภาพปรากฏออกมาฝ่ายค้านออกมาระบุว่า นายกรัฐมนตรี ไม่กล้าแตะเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรี ถึงกับหันกลับมาหาผู้สื่อข่าว พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่เยาะเย้ยว่า "ผมนี่เหรอไม่กล้าแตะ You know me little go คุณรู้จักผมน้อยไป เออ" ก่อนที่จะเดินเข้าห้องประชุมในทันที