svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"อนุทิน" ไม่สนลอกนโยบายเพื่อไทย ดันโครงการแก้หนี้ต่ำแสน

“อนุทิน" ไม่สนเสียงวิจารณ์ลอกนโยบายพรรคเพื่อ เดินหน้าดันโครงการแก้หนี้ประชาชนต่ำแสนบาท-เดินหน้าคนละครึ่งพลัสเฟส 2

5 พฤศจิกายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แสดงวิสัยทัศน์ในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2025 หัวข้อ “Thailand’s Next Frontier : A National Economic Vision – วิสัยทัศน์ประเทศไทยในโลกใหม่” โดยระบุว่า รัฐบาลในระยะเวลา 4 เดือนนี้จะเน้นนโยบาย “Quick Big Win” เพื่อสร้างผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรมทันที

นายอนุทิน กล่าวถึงนโยบาย “คนละครึ่งพลัส” และ “โครงการแก้หนี้ประชาชนต่ำแสนบาท” ว่า เป็นมาตรการเร่งด่วน ที่รัฐบาลเดินหน้า โดยไม่สนเสียงวิจารณ์ว่าเป็น “ของลอกเลียนแบบ” จากรัฐบาลก่อน
 

“ผมไม่สนว่าใครจะพูดว่านโยบายนี้เลียนแบบหรือไม่เลียนแบบ คิดแค่เพียงว่าประชาชนได้อะไร ถ้าได้ และมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ นั่นคือประโยชน์ของชาติ ไม่ใช่การแจกฟรี แต่เป็นการให้ประชาชนมีส่วนร่วม ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ win-win” 
 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า โครงการ “คนละครึ่งพลัส เฟส 2” จะเดินหน้าแน่นอน ก่อนยุบสภา โดยคาดว่าจะเริ่มได้ในช่วงครึ่งหลังของเดือนธันวาคม พร้อมย้ำว่า “รัฐบาลไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงนโยบายแก้หนี้ครัวเรือนที่ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กำลังเร่งผลักดัน ได้แก่ โครงการปรับโครงสร้างหนี้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย สำหรับประชาชนรายย่อย โดยระบุว่า เรื่องนี้สำคัญมากสำหรับคนหาเช้ากินค่ำ รัฐบาลจะทำให้เห็นผลเป็นรูปธรรม

นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมยุบสภาไม่เกินวันที่ 31 มกราคม 2569 พร้อมยืนยันว่า ช่วงเวลาที่เหลือจะเร่งทำงานเพื่อประชาชนให้มากที่สุด

"ฐิติมา" เสียดาย "รบ.พท." ทำใกล้สำเร็จ มาเสร็จ "รบ.ภท."
 

ขณะที่ นางฐิติมา ฉายแสง สส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่า นโยบายซื้อหนี้เสีย เป็นหนึ่งในนโยบายของพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลนายกอิ๊งค์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ผลักดันจนใกล้สำเร็จ รอคิวเข้าสู่ ครม.ไฟเขียว

นายทักษิณ ชินวัตร ยังเคยพูดเรื่องนี้บนเวทีเนชั่น เกี่ยวกับเรื่องซื้อหนี้ประชาชนทั้งหมดออกจากระบบธนาคาร แล้วให้ประชาชนค่อย ๆ ผ่อน ไม่ต้องชำระเต็มจำนวน ให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ยกออกจากเครดิตบูโร ให้เป็นคนบริสุทธิ์ผุดผ่อง ทำมาหากินใหม่

แต่สุดท้ายเรื่องนี้ยังติดขัดตรงที่พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคคอยดึงขา พอจะทำอะไรก็โดนนิติสงคราม ขาประจำค้าน ยื่นร้องเรียน ทำให้นโยบายไม่ต่อเนื่องโครงการแก้หนี้ถูกภูมิใจไทยนำไปทำจริง

ทั้งนี้ นางฐิติมา ฉายแสง บอกว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ค.2568 ระหว่างการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2569 เธอเคยเสนอแนวคิดให้ตั้ง “กองทุนล้างหนี้คนจน” โดยใช้งบเพียง 4,000 ล้านบาท เพื่อซื้อหนี้จากธนาคาร 1% ของมูลหนี้ทั้งหมด ซึ่งจะช่วยคนได้มากถึง 4 ล้านราย ลดภาระของรัฐและคืนโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อย

โดย สส.ฐิติมา เสนอให้แบ่งกลุ่มลูกหนี้เป็น 3 ระดับ ได้แก่

 

หนี้ไม่เกิน 10,000 บาท — หากชำระครบ ยกล้างหนี้ทันที

 

หนี้ 10,000–30,000 บาท — ผ่อน 3 ปี ไม่มีดอกเบี้ย ชำระครบยกล้างหนี้

 

หนี้ 30,000–50,000 บาท — ผ่อน 3 ปี และเมื่อครบล้างเครดิตบูโร

 

พร้อมเงื่อนไขว่า ผู้เข้าร่วมต้องไม่เป็นหนี้จากการพนันหรือแชร์ลูกโซ่ แต่เป็นหนี้ในระบบ เช่น ธนาคารพาณิชย์ ธ.ออมสิน หรือ กยศ. และมีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน
 

นางฐิติมา กล่าวอย่างสะเทือนใจว่า เราอภิปราย เสนอแนวทางนี้ตั้งแต่ 29 พฤษภาคม ตอนนั้นแทบไม่มีใครสนใจ แต่พอวันนี้รัฐบาลนายอนุทินนำไปทำจริง ดิฉันก็พูดไม่ออกค่ะ และขอแสดงความยินดีที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายที่เป็นต้นคิดจากพรรคเพื่อไทย
 

นางฐิติมา ฉายแสง สส.พรรคเพื่อไทย