“ทูตรัศม์” ติงคำพูด "อนุทิน" บอกไทยล้ำแดนกัมพูชา อันตราย

4 พฤศจิกายน 2568 ที่พรรคเพื่อไทย นายรัศม์ ชาลีจันทร์ หรือ ทูตรัศม์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวแสดงความห่วงใยถึงคำสัมภาษณ์ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระหว่างการเดินทางไปประเทศมาเลเซียเนื้อหาระบุว่ากัมพูชาล้ำดินแดนฝั่งไทยและไทยรุกล้ำดินแดนฝั่งกัมพูชา ว่า เรื่องนี้ส่วนตัวเห็นว่าคำพูดนี้อันตรายมากและไม่ควรหลุดออกจากปากคนระดับนายกรัฐมนตรีไทยออกมาต่อสาธารณชนอย่างเด็ดขาด และมีการนำเสนอผ่านสื่อโดยเชื่อว่าฝ่ายกัมพูชาก็คงจะเห็นเช่นเดียวกัน

ตามหลักการและกฎหมายระหว่างประเทศนั้นคำพูดของนายกรัฐมนตรีรวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สามารถถูกนำไปอ้างอิงเป็นพยานหลักฐานทั้งในศาลและเวทีระหว่างประเทศ ถือว่าสิ่งนี้เป็นหน้าที่สำคัญของนายกรัฐมนตรีต้องพึงรู้และตระหนักตลอดเวลาว่าคำพูดของตนเองสามารถนำไปเป็นพยานหลักฐานได้  ซึ่งในอดีตคำพูดในลักษณะนี้ไม่เคยหลุดออกจากปากผู้นำของไทยไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีไม่เคยมีรัฐบาลไหนของไทยที่ออกมาประกาศว่าไทยล้ำดินแดนฝ่ายกัมพูชา

ทั้งนี้ไทยถือว่าการอ้างสิทธิ์ของไทยเป็นไปตามหลักการที่ถูกต้องตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการกำหนดเขตแดนขั้นสุดท้ายของทั้งสองประเทศไทย-กัมพูชา จะเป็นไปตามผลการเจรจาของทั้งสองฝ่ายที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ และท้ายที่สุดผลการเจรจาก็ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาให้ความเห็นชอบ และคำพูดที่ขาดความรับผิดชอบของนายอนุทินจะส่งผลกระทบในทางลบต่อการเจรจาของไทยซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการในขณะนี้เป็นการยอมรับว่าไทยไปล้ำดินแดนของกัมพูชา ซึ่งจะทำให้กัมพูชานำเรื่องนี้ไปอ้างอิงว่าไทยโดยนายกรัฐมนตรียอมรับว่าไทยไปล้ำดินแดน

ทูตรัศม์ ยังกล่าวอีกว่าความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างต่ำๆคือการลดทอนความแข็งแกร่งของท่าทีไทยในการเจรจาในเรื่องเขตแดน และสามารถทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงที่จะนำไปสู่การเสียเปรียบอื่นๆในอนาคตหากมีการยกระดับสู่เวทีพหุภาคี อาจนำไปสู่การทำให้คนไทยเจ็บปวดที่สุด เพราะมองว่าการออกมาขอโทษของนายอนุทินยังไม่เพียงพอ เพราะเป็นเรื่องของนโยบายต่างประเทศ

"คำถามคือนายอนุทิน จะรับผิดชอบต่อความเสียหายนี้อย่างไร? การแค่ออกมาขอโทษเฉยๆ ไม่น่าจะเป็นสิ่งเพียงพอต่อความเสียหายระดับนี้ และที่สำคัญ อะไรจะเป็นหลักประกันว่าจะไม่ทำให้เสียหายไปมากกว่านี้อีก ไม่ว่าทั้งไม่ได้จงใจ หรือจงใจ เพราะแค่ขอโทษคงไม่เพียงพอ เพราะนี่คือนโยบายการต่างประเทศของผู้นำ ที่ล้มเหลวผิดพลาด" ทูตรัศม์ กล่าว