svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ไทยโชว์แก้ปม “เหยื่อรับบุตรบุญธรรมผิด กม.” - กัมพูชาหมอบ

ไทยโชว์แก้ปม “เหยื่อรับบุตรบุญธรรมผิด กม.” ในการประชุม IPU – กัมพูชาหมอบ สร้างความกังขา? จริงใจร่วมแก้ปัญหาที่ประชาคมระหว่างประเทศให้ความสำคัญหรือไม่?

20 ตุลาคม 2568 มีรายงานในการประชุมของคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ภายใต้ สหภาพรัฐสภาโลก หรือ ​IPU มีหลายหัวข้อที่น่าสนใจ และมีผู้แทนจากรัฐสภาไทย เข้าร่วมเสนอญัตติที่เป็นประโยชน์ในมิติต่างๆ และได้รับความสนใจจากชาติสมาชิกอย่างมาก โดยทุกเวที “ทีมไทยแลนด์” ต้องเฝ้าระวังการแสดงความเห็น และบทบาทของผู้แทนรัฐสภากัมพูชา เพราะอาจฉวยโอกาสหยิบยกประเด็นขึ้นโจมตีประเทศไทย แม้การประชุมนั้น จะไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง หรือข้อพิพาทของทั้งสองประเทศเลยก็ตาม 

อย่างเช่น การประชุมคณะกรรมาธิการสามัญสหภาพรัฐสภา ว่าด้วยประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ผู้แทนรัฐสภาไทย นำโดย ดร.นพดล อินนา สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และ สส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สส.เชียงราย ซึ่งเป็นประธานชมรมสตรีสัดส่วนของผู้หญิงในรัฐสภาไทย ก็ได้เข้าประชุมร่วมกับผู้แทนจากกัมพูชา และต้องเฝ้าระวังท่าทีของกัมพูชาอย่างใกล้ชิดเช่นกัน 

ไทยโชว์แก้ปม “เหยื่อรับบุตรบุญธรรมผิด กม.” - กัมพูชาหมอบ


 

ระหว่างการประชุม ดร.นพดล อินนา ได้เสนอขอแก้ไขถ้อยคำ ในร่างข้อมติที่เกี่ยวข้องกับการรับบุตรบุญธรรมที่ผิดกฎหมาย  และแนวทางการแก้ไขปัญหาในภาพรวมอย่างครบวงจร โดยข้อเสนอของไทยได้รับการสนับสนุน และการรับรองจากที่ประชุม รวมทั้งจากผู้ร่วมเสนอรายงาน (co-Rapporteurs) ด้วย 

โอกาสนี้ ดร.นพดล ได้อภิปรายร่างข้อมติ หัวข้อ “การรับรองและสนับสนุนเหยื่อของการรับบุตรบุญธรรมระหว่างประเทศที่ผิดกฎหมาย และการดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันการปฏิบัติดังกล่าว” ซึ่งได้รับความสนใจจากชาติสมาชิก ที่เข้าร่วมประชุมอย่างกว้างขวาง 

ดร.นพดล แสดงจุดยืนของรัฐสภาไทย ที่ให้การสนับสนุนเป็นพิเศษต่อการรับรองสถานะของ “เหยื่อทุกกลุ่ม” ไม่ว่าจะเป็นตัวบุตรบุญธรรมเอง, พ่อแม่โดยสายเลือด หรือครอบครัวผู้รับบุตรบุญธรรม ซึ่งล้วนต้องเผชิญผลกระทบ และความบอบช้ำที่แตกต่างกันและยาวนาน 

ขณะเดียวกัน ไทยยังสนับสนุนประเด็นการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ ผ่านกลไกด้านกฎหมายระหว่างประเทศที่สำคัญ พร้อมย้ำถึงความจำเป็นของมาตรการเยียวยาที่มีประสิทธิผล โดยเฉพาะการเปิดให้เข้าถึงเอกสารสำคัญ, การให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย และการสนับสนุนด้านจิตวิทยา เพราะสะท้อนถึงความรับผิดชอบทางศีลธรรมอย่างแท้จริง 

 

ดร.นพดล เน้นย้ำว่า จากนี้ไปหน้าที่สำคัญจะตกอยู่ที่รัฐสภาของแต่ละประเทศ ที่จะต้องผลักดันให้พันธกรณีเหล่านี้ ให้ได้รับการนำไปปฏิบัติ ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
 

“เราจำเป็นต้องทบทวนกฎหมายภายในประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแล และทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงเพื่อความจริง การเยียวยา และความยุติธรรมที่ยั่งยืน” ดร.นพดล ระบุ พร้อมประกาศสนับสนุนร่างข้อมตินี้ รวมทั้งเชิญชวนให้ที่ประชุมรับรองร่างข้อมติโดยเร็วที่สุดด้วย
 

เป็นที่น่าสังเกตว่า ในขณะที่ผู้แทนรัฐสภาไทยเสนอแก้ไขถ้อยคำในร่างข้อมตินี้ และได้รับเสียงชื่นชมจากชาติสมาชิก แต่ฝ่ายกัมพูชากลับเงียบ โดยไม่เสนอขอแก้ไขร่างข้อมติแม้แต่ประเด็นเดียว ทั้งๆ ที่กัมพูชาเผชิญปัญหานี้ไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งแม้จะเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ คือไม่เสนอแก้ไขอะไรเลย แต่ท่าทีแบบนี้ก็สร้างความประหลาดใจให้กับบางฝ่ายที่จับตาดูอยู่ว่า กัมพูชามีความตั้งใจจริงในการร่วมแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ประชาคมระหว่างประเทศให้ความสำคัญหรือไม่ หรือพุ่งเป้าช่วงชิงจังหวะและความได้เปรียบระหว่างการประชุม เพื่อพูดหรืออภิปรายในเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในที่ประชุมเพียงอย่างเดียว เพื่อหวังผลประโยชน์ด้านอื่นๆ ของตนเอง

ทั้งนี้ หลังจบการประชุม มีผู้แทนจากหลายประเทศ เข้ามาขอบคุณผู้แทนไทยที่ให้ความสนใจเรื่องนี้ เช่น ผู้แทนจากรัฐสภาฟินแลนด์ ซึ่งได้มีการถ่ายภาพร่วมกันด้วย ส่วนประธานในที่ประชุมจากประเทศออสเตรเลีย ก็กล่าวชื่นชมบทบาทและความตั้งใจของไทยมากเช่นกัน 

ไทยโชว์แก้ปม “เหยื่อรับบุตรบุญธรรมผิด กม.” - กัมพูชาหมอบ