ปรบมือลั่น! หนุนไทยชง “สแกมเมอร์” วาระด่วน IPU - รุมตำหนิ "กัมพูชา" (มีคลิป)

19 ตุลาคม 2568 ภายหลังจบการประชุมกลุ่มอาเซียนบวก 3 ซึ่งเป็นวงประชุมเฉพาะชาติสมาชิกในภูมิภาคเดียวกัน ก่อนการประชุมใหญ่สมัชชาสหภาพรัฐสภา หรือ IPU ก็ได้มีการประชุม “กลุ่มเอเชีย-แปซิฟิก” ต่อเนื่องทันที โดยทั้งคณะผู้แทนรัฐสภาไทยและกัมพูชา ต่างก็เป็นสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมทั้งสองกลุ่มพร้อมกัน 

สำหรับการประชุม “กลุ่มเอเชีย-แปซิฟิก” มีผู้แทนจากจีนทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม หนึ่งในวาระสำคัญของการหารือ คือ การเสนอร่างข้อมติที่ชาติสมาชิกต้องการให้เป็น “ระเบียบวาระเร่งด่วน” หรือ ​“Emergency item” เพื่อให้ที่ประชุมใหญ่ IPU ได้ประชุมหารือ และร่วมกันแสดงบทบาท จุดยืนในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติของโลก 

โอกาสนี้ สส.รังสิมันต์ โรม ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทย ได้เสนอร่างข้อมติเกี่ยวกับ “การเสริมสร้างบทบาทของรัฐสภาในการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามพรมแดน“ โดยรอบนี้ สส.รังสิมันต์ ได้นำเสนอร่างข้อมติในรายละเอียด พร้อมยกเหตุผลที่ฝ่ายไทยมองว่าสถานการณ์อาชญากรรมไซเบอร์ข้ามพรมแดน หรือ ”สแกมเมอร์“ กำลังเป็นปัญหาสำคัญไม่ใช่แค่ระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

แต่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก ทั้งการหลอกลวงที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพลเมืองในประเทศต่างๆ, การฉ้อโกง, การหลอกลงทุน รวมไปถึงมีการบังคับใช้แรงงาน หรือ Forced labor, แรงงานทาส, การค้ามนุษย์ และการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทำลายหลักมนุษยธรรมทุกด้าน ส่งผลให้พลเมืองในทั่วทุกมุมโลกต้องเผชิญกับภาวะวิกฤต จึงขอเรียกร้องให้ชาติสมาชิกในกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิก ให้การสนับสนุนร่างข้อมตินี้ร่วมกัน 

ภายหลังจบการนำเสนอของ สส.โรม ปรากฏว่าผู้แทนชาติสมาชิกส่วนใหญ่ในห้องประชุมกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิก พากันปรบมือสนับสนุนด้วยเสียงอันดัง 

จากนั้น ผู้แทนของกัมพูชาได้ขอใช้สิทธิแสดงความคิดเห็น มีสาระสำคัญคือการไม่เห็นด้วยกับการเสนอร่างข้อมติของไทยในเรื่องอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามพรมแดน โดยให้เหตุผลว่าไม่สอดคล้องกับ ”ธีม” หรือหัวข้อหลักของการประชุม IPU ครั้งนี้ ที่มุ่งเน้นเรื่องการรักษามาตรฐานมนุษยธรรมในช่วงที่โลกเผชิญภาวะวิกฤตหลายด้าน

อย่างไรก็ดี หลังจากผู้แทนรัฐสภากัมพูชากล่าวจบ ประธานในที่ประชุมได้เปิดโอกาสผู้แทนชาติสมาชิกอื่นๆ ได้แสดงความคิดเห็น ปรากฏว่าผู้แทนจากชาติสมาชิกส่วนใหญ่แสดงท่าทีสนับสนุนร่างข้อมติของไทยแทบจะเป็นเอกฉันท์ 

เช่น ผู้แทนจากออสเตรเลียได้กล่าวสนับสนุนร่างข้อมติของไทยอย่างเต็มกำลัง และแสดงความเห็นด้วยอย่างเต็มที่ เพราะปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามพรมแดนมีความร้ายแรง และส่งผลกระทบต่อพลเมืองของหลายๆ ประเทศทั่วโลก รวมทั้งออสเตรเลียด้วย 

ขณะที่ผู้แทนจากฟิลิปปินส์ เรียกร้องให้กัมพูชาให้ความสำคัญในเรื่องนี้ พร้อมตำหนิว่าไม่ควรปฏิเสธข้อเสนอเรื่องอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามพรมแดนอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากปัจจุบันเป็นปัญหาใหญ่ที่ทั่วโลกเผชิญร่วมกัน 

ผู้แทนจากมาเลเซียได้แสดงความเห็นสนับสนุนร่างข้อมติของไทย และส่งข้อเรียกร้องไปยังกัมพูชา เช่นเดียวกับที่ฟิลิปปินส์เสนอ คือมองว่ากัมพูชาไม่ควรปฏิเสธเรื่องนี้ตั้งแต่วาระแรก 

หลังจากชาติสมาชิกได้แสดงความคิดเห็นกันพอสมควรแล้ว ประธานในที่ประชุมได้ตัดบท และขอให้จบประเด็นนี้ โดยแจ้งให้ฝ่ายไทยไปหารือนอกรอบกับกัมพูชาต่อไป

ต่อจากนั้นเมื่อถึงวาระหารือเพื่อสรุปในประเด็นการเสนอ “ระเบียบวาระเร่งด่วน” ของกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิก ปรากฏว่าประธานที่ประชุมได้เสนอให้สมาชิกกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิก สนับสนุนร่างข้อมติที่ผ่านการเสนอจากสมาชิกในห้องประชุมนี้ 

พร้อมทั้งให้เสนอตัวร่วมเป็นกรรมการตรวจแก้และปรับถ้อยคำในร่างข้อมติ หากได้รับการโหวตสนับสนุนจากสมาชิกในที่ประชุมใหญ่ IPU ซึ่งปรากฏว่ามีผู้แทนจาก 3 ประเทศที่เสนอตัว คือ จีน กัมพูชา และไทย 

สำหรับการเสนอ “ระเบียบวาระเร่งด่วน” จะมีขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 ตุลาคม ซึ่งจะมีการประชุมเวทีใหญ่ของ IPU ที่เรียกว่า General Debate เป็นวันที่สอง (วันแรกคือวันพรุ่งนี้ 20 ตุลาคม) และจะมีการลงคะแนนจากชาติสมาชิก โดยแต่ละประเทศจะมีจำนวนเสียงโหวตไม่เท่ากัน ขึ้นกับขนาดและจำนวนประชากรของปรเทศนั้นๆ อย่างเช่น ไทย มีคะแนนโหวต 18 คะแนน ส่วนจีนมีคะแนนโหวตราวๆ 23 คะแนน เป็นต้น 
 

ดูคลิป