
11 ตุลาคม 2568 อ.กฤษฎา บุญเรือง นักวิชาการจากสหรัฐฯ วิเคราะห์กรณีที่ ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า สหรัฐฯ จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 100% “เพิ่มบนอัตราภาษีนำเข้าใดๆ ที่จีนกำลังจ่ายอยู่ในปัจจุบัน” โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป รวมถึงจะขึ้นภาษีนำเข้า “ซอฟต์แวร์สำคัญใดๆ ก็ตาม” ด้วย โดยการประกาศของประธานาธิบดีทรัมป์ครั้งนี้ มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เขาขู่ว่าจะ “ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนครั้งใหญ่” เพื่อตอบโต้มาตรการควบคุมใหม่ ที่จีนบังคับใช้กับการส่งออกแร่หายากจากจีน
อ.กฤษฎา ระบุว่า
No Nobel, No ASEAN, No APEC…
อาจเป็นเพราะไม่ได้รางวัลโนเบลสันติภาพ วันนี้ทรัมป์จึงมีอารมณ์ขุ่นมัวมากเป็นพิเศษ
หันไปทะเลาะกับจีน ประกาศจะลงโทษจีนโดยขึ้นภาษีศุลกากรอย่างหนัก
ทรัมป์กล่าวหาว่าจีนเตะถ่วงเรื่องการเจรจาส่งออกแร่หายาก rare earths metals resources ซึ่งอเมริกาต้องการมากในการพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูงและจีนผูกขาดการแปรรูปและส่งออก (จีนมีส่วนแบ่งการตลาด 70% ของโลก)
APEC-
ทรัมป์ขู่ว่าคงจะไม่ไปร่วมประชุมAPEC ที่เกาหลีใต้ในอีกสองสัปดาห์นี้ (31 ต.ค.-1 พ.ย. 2025) ซึ่งเดิมทีหวังว่า จะพบตัวต่อตัวกับสีจิ้นผิง
ตลาดหุ้นอเมริการ่วงแดงเต็มกระดานทันที เนื่องจากนักลงทุนตั้งความหวังไว้ว่า ประธานาธิบดีทั้งสองของสหรัฐฯ และจีน พบกันตัวต่อตัวจะนำมาสู่ข่าวดี หุ้นเทคโนโลยีและหุ้นที่เกี่ยวกับจีนถูกเทขายเฉียบพลัน
ASEAN-
ส่วนเรื่องการประชุมอาเซียนที่มาเลเซีย ในวันที่ 26-28 ตุลาคมนี้ ก็คงหมดหวังที่จะเห็นทรัมป์ มาเป็นประธานพิธีลงนามความตกลงสันติภาพ ระหว่างกัมพูชากับไทย ซึ่งเป็นความประสงค์อย่างกระตือรือร้น ของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และกัมพูชาเป็นพิเศษ