svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“พิพัฒน์” ปลดล็อกอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทางทะเลทั่วประเทศ

“พิพัฒน์” ลุยอ่าวบ้านดอน ปลดล็อกอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทางทะเลทั่วประเทศ กรมเจ้าท่าเตรียมออกประกาศภายใน 60 วัน อนุญาตสร้าง “ขนำเฝ้าแปลง” ได้ถูกต้องตามกฎหมาย

11 ตุลาคม 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจติดตามการบริหารจัดการพื้นที่ อ่าวบ้านดอน ซึ่งเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงหอย ที่สำคัญของประเทศ พร้อมด้วยนายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ร่วมรับฟังปัญหาและข้อเสนอของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงหอยและสัตว์น้ำชายฝั่ง ซึ่งได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดทางกฎหมายมานานกว่า 10 ปี 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า หลังจากรับฟังปัญหาของเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง บริเวณแปลงเพาะเลี้ยงหอยและสัตว์น้ำทางทะเล รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้ กรมเจ้าท่า เร่งหาทางออกที่ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

โดยกรมเจ้าท่าจะออก “ประกาศภายใน 60 วัน ” เพื่ออนุญาตให้เกษตรกรสามารถ สร้างสิ่งปลูกสร้างชั่วคราว (ขนำ) สำหรับเฝ้าดูแลและเก็บอุปกรณ์ในแปลงเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทางทะเลได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยเงื่อนไขของสิ่งปลูกสร้างที่อนุญาตเบื้องต้น ดังนี้

• ขนาดไม่เกิน 25 ตารางเมตรต่อ 1 แปลง

• ใช้เพื่อ “เฝ้า–เก็บ–ดูแลอุปกรณ์” เท่านั้น

• ต้องยื่นขออนุญาตผ่าน คณะกรรมการสิ่งล่วงล้ำลำน้ำจังหวัดสุราษฎร์ธานี

มาตรการนี้จะช่วยเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่ 1,701 แปลง ที่อ่าวบ้านดอน และจะเป็น “ต้นแบบแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ” เพื่อให้ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในจังหวัดชายฝั่งอื่น ๆ เช่น จันทบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ สามารถประกอบอาชีพได้อย่างมั่นใจ ถูกต้องตามกฎหมาย และไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือการเดินเรือ 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเข้าใจดีว่าพี่น้องเกษตรกรที่ทำงานสุจริต และเลี้ยงชีพด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น ต้องการเพียงโอกาสในการทำอาชีพอย่างถูกต้อง ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ปล่อยให้ประชาชนเดือดร้อน เพียงเพราะข้อจำกัดทางกฎหมายภายใน 60 วันนี้ พวกเขาจะกลับมาทำมาหากินได้อย่างสบายใจอีกครั้งหนึ่ง ในการดำเนินการครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของกรมเจ้าท่า กรมประมง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อกำหนดแนวเขตและหลักเกณฑ์ในการใช้พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง ให้สมดุลระหว่างการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการสร้างรายได้ให้ประชาชน

สำหรับอ่าวบ้านดอน ถือเป็น “หัวใจเศรษฐกิจทะเลของภาคใต้” มีเกษตรกรกว่า 1,700 แปลงเพาะเลี้ยงหอยนางรมและหอยแครง รวม7 อำเภอ กว่า 85,608 ไร่  สร้างรายได้หมุนเวียนกว่า 8,000 ล้านบาทต่อปี โดยในอดีตเกษตรกรประสบปัญหาข้อจำกัดทางกฎหมาย ทำให้ไม่สามารถสร้างสิ่งปลูกสร้างเฝ้าแปลงได้อย่างถูกต้อง
 

ครั้งนี้ถือเป็น “ข่าวดีของชาวสุราษฎร์ธานี” และยังเป็น “ข่าวดีของเกษตรกรชายฝั่งทั่วประเทศ” เพราะรัฐบาลสามารถปลดล็อกอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทางทะเลได้จริง โดยใช้แนวทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย และสอดคล้องกับนโยบาย “คมนาคมเพื่อพี่น้องประชาชน” ที่มุ่งให้ทุกอาชีพสามารถดำรงชีวิตและทำมาหากินได้อย่างมั่นคง 
 

“พิพัฒน์” ปลดล็อกอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทางทะเลทั่วประเทศ