กินรวบการเมืองไทย “ครูใหญ่” บุรีรัมย์ จับจังหวะรุกฆาต... ตัดตอน ”เขากระโดง”
18 กันยายน 2568 แถลงการณ์ของกรมที่ดินเมื่อวานนี้ (17ก.ย.2568) คืออีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อน “ความเหนือชั้่นทางการเมือง” ของ “ครูใหญ่ เขากระโดง” เรายกประเด็น “ถูก-ผิด-ชอบ-ไม่ชอบ” เอาไว้ก่อน มาดูความเคลื่อนไหวนี้ในบริบทของ “เกมการเมือง”
1.ทำไมกรมที่ดินต้องชิงแถลงเรื่องนี้ก่อน ครม.หนู 1 ได้รับโปรดเกล้าฯ
คำตอบคือ...
- ต้องการตัดตอนไม่ให้เรื่องนี้โยงถึงฝ่ายการเมือง คือ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีข่าวจะนั่งควบ รมว.มหาดไทย
- การวินิจฉัยของกรมที่ดินเกิดขึ้นก่อน “คนภูมิใจไทย” เข้ากระทรวง ฉะนั้นจึงไม่ใช่ความผิดของฝ่ายการเมือง และฝ่ายค้าน (เพื่อไทย / ประชาชน) ไม่สามารถขยายผลยื่นซักฟอกได้ถนัดนัก
2.กรมที่ดินอ้างว่าปฏิบัติตามกฎหมาย และคำพิพากษาของศาลครบหมดแล้ว ซึ่งก็ถูกต้องในมุมของกรมที่ดิน
- คำพิพากษาศาลฎีกาที่ให้การรถไฟฯ ชนะคดีเอกชน 35 แปลง กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์หมดแล้ว
- คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ที่ให้การรถไฟฯชนะคดีเช่นกัน กรมที่ดินก็เพิกถอนเอกสารสิทธิ์หมดแล้ว
- คำพิพากษาศาลปกครอง ที่ให้กรมที่ดินไปดำเนินการกับที่ดินรถไฟฯ 5,083 ไร่ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ปรากฏว่ากรมที่ดินก็ดำเนินการตามมาตรา 61 คือ ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน และสรุปผลสอบสวนว่า การรถไฟฯไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าที่ดินของตัวเองมีขอบเขตแค่ไหน และไม่มีแผนที่มาแสดง
- บทสรุปของคณะกรรมการสอบสวน ตามมาตรา 61 อธิบดีกรมที่ดินในขณะนั้น (คุณพรพจน์ เพ็ญพาส) เห็นพ้องด้วย และฟันธงว่า “ไม่เพิกถอนโฉนดและหนังสือแสดงสิทธิ์ที่ดินเขากระโดงแปลงอื่นๆ” ประเด็นนี้จึงถือเป็น “คำสั่งทางปกครองใหม่” โดยอธิบดีกรมที่ดิน
- ไม่ปิดทาง “การรถไฟฯ” ยื่นฟ้องแย้ง ซึ่งขณะนี้ก็ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองแล้ว และศาลรับฟ้องบางประเด็น กรมที่ดินก็พร้อมชี้แจง
3.ประเด็นที่กรมที่ดินไม่ได้บอกกับสังคม แต่เป็นความแยบยลอย่างยิ่งก็คือ
- ศาลปกครองรับฟ้องก็จริง แต่ก็รับวินิจฉัยแค่บางคำขอของการรถไฟฯเท่านั้น หลักๆ คือ คำสั่งของอธิบดีกรมที่ดินที่ “ไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์” ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
- หากศาลปกครองมองว่า กระบวนการที่คณะกรรมการสอบสวน ตามมาตรา 61 ดำเนินการมา เป็นไปโดยชอบแล้ว จะกลายเป็นการรับรองเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดงแปลงอื่นๆ ทันที
นี่คือความได้เปรียบในแง่กฎหมาย ที่พลิกมาเป็นความได้เปรียบทางการเมือง กล่าวคือ ชิงดำเนินการก่อนที่รัฐมนตรีภูมิใจไทยรับหน้าที่ และเข้ากระทรวง ฉะนั้นเรื่องนี้จึงเกิดขึ้นใน “รัฐบาลรักษาการของพรรคเพื่อไทย” ไม่ใช่เกิดใน “รัฐบาลภูมิใจไทย”
4. กรมที่ดินอ้างได้เต็มปากว่า ดำเนินการตามกฎหมายทุกประการ ในมุมของกรมที่ดิน
- อธิบดีคนปัจจุบัน ก็เป็นคนที่รัฐมนตรีมหาดไทยของพรรคเพื่อไทย และประชาธิปัตย์ แต่งตั้ง
- ในฐานะ “กรมที่ดิน” ซึ่งออกเอกสารสิทธิ์ ทั้งโฉนด และหนังสือแสดงสิทธิ์ในที่ดิน หรือ นส.3 บริเวณเขากระโดงไปเป็นจำนวนมาก หลายร้อยแปลง จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสรุปว่า "ที่ดินเขากระโดงเป็นที่ดินของการรถไฟฯ" หากไม่มีคำพิพากษาให้เพิกถอนรายแปลง เพราะจะเท่ากับเป็นการยอมรับว่า การดำเนินการที่ผ่านมาของกรมที่ดิน ผิดกฎหมายทั้งหมด ซึ่งจะกระทบกับอดีตอธิบดี ผู้บริหาร และข้าราชการในสังกัดกรมที่ดินจำนวนมาก
** พูดง่ายๆ คือ เป็นไปไม่ได้เลยที่กรมที่ดินจะยอมรับว่า ที่ดินเขากระโดงเป็นที่ดินรถไฟฯ เพราะมิฉะนั้นก็จะเท่ากับสรุปว่าตัวเองเป็นคนผิดมาตลอด
"นี่คือสาเหตุและความชอบธรรมของการ “เปิดเกมนี้ก่อน” และโยนความกดดันไปที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ว่าจะเอาอย่างไร "
นับจากนี้ ก็แค่ท่องคำตอบให้เหมือนเดิมทุกครั้งว่า คดีอยู่ในศาลปกครอง ให้รอคำพิพากศาลปกครอง ซึ่งหากศาลปกครองยกฟ้องของการรถไฟฯ ก็จะเท่ากับ คำสั่งทางปกครองของอธิบดีกรมที่ดินที่ไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์บริเวณเขากระโดง ถูกต้องไปโดยปริยาย