ถอด 3 องค์ประกอบหลัก ศาลตัดสินยกฟ้อง “ทักษิณ” ไม่ผิด ม.112
จากคดีที่ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 กรณีให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา
เปิดข้อกฎหมาย องค์ประกอบและเหตุผล ที่ศาลตัดสินยกฟ้อง
ป.อาญา ม.112 ระบุว่า ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี
1.หมิ่นประมาท + ดูหมิ่น
- แม้โจทก์ไม่มีคลิปให้สัมภาษณ์ของจำเลยฉบับเต็มมาเป็นหลักฐาน
- แต่จำเลยก็ไม่มีพยานหลักฐานมายืนยันว่าเป็นคลิปตัดต่อ
- จำเลยยอมรับบุคคลในภาพและเสียง เป็นตัวเอง
- ศาลเชื่อ ให้สัมภาษณ์นักข่าวที่เกาหลีจริง ไม่มีการตัดต่อ เสริมแต่งเพื่อใส่ร้าย
- ถ้อยคำที่สัมภาษณ์ไม่ได้เจาะจงถึงสถาบันเบื้องสูงโดยตรง ไม่ได้ใช้ราชาศัพท์
- ใช้คำว่า “เขา” และยังพูดถึง องคมนตรี ทหาร Palace Circle
- พยานโจทก์มีอคติต่อจำเลย เคยร่วมชุมนุมขับไล่จำเลย
- พยานโจทก์ไม่ถือเป็น “วิญญูชนทั่วไป”
- เพราะข้อความหมิ่นประมาท ดูหมิ่น เมื่อวิญญูชนต้องเข้าใจว่าจะส่งผลให้ผู้ถูกกระทำเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง
- เมื่อคลิปถูกเผยแพร่ในระบบคอมพิวเตอร์ คนที่ได้รับฟังคลิป เข้าใจตรงกันว่าเป็นการให้สัมภาษณ์โจมตีการยึดอำนาจ พาดพิงสุเทพ ทหารชั้นผู้ใหญ่และองคมนตรี
2.อาฆาตมาดร้าย
- ไม่มีการนำพยานหลักฐานมานำสืบเลย
3.พ.ร.บ.คอมพ์ฯ
- ข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ พ้นไปโดยปริยาย เมื่อคำให้สัมภาษณ์ไม่เข้าข่ายกระทำผิด ม.112