“ทวี สอดส่อง” เยี่ยมนักโทษชายแดน ส่ง เสก โลโซ ร้องเพลงให้กำลังใจ

9 สิงหาคม 2568 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจผู้อพยพด้วย และเดินทางไปที่เรือนจำกลางอุบลราชธานี พร้อมกับ นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ โดยมี ผู้บัญชาการเรือนจำกลางอุบลราชธานี , ร้อยตรีกรกฎ ประเสริฐวงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.จังหวัดอุบลราชธานี ให้การต้อนรับ ก่อนจะเข้าไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ต้องราชทัณฑ์ ภายในเรือนจำ และในวันนี้ มี เสก โลโซ ซึ่งเป็นผู้ต้องขังจากเรือนจำมีนบุรี มาร่วมเล่นดนตรีพูดคุยสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักโทษด้วย

   

 

โดย พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า วันนี้เดินทางมาเยี่ยมประชาชนตามศูนย์อพยพต่างๆ เนื่องจากรัฐบาลต้องเตรียมการให้ประชาชนกลับบ้าน ทั้งนี้เมื่อมีวิกฤตของประเทศ กรมราชทัณฑ์ก็มีโครงการผู้ต้องราชทัณฑ์ ไปให้กำลังใจไปให้ความสุข เพื่อให้เกิดความผ่อนคลาย และมีนักจิตวิทยาเข้าไปช่วยดูแล โดยวันนี้มีเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมลงพื้นที่มาหลายส่วน รวมถึงทางเรือนจำมีนบุรี ซึ่งมี เสก โลโซ เป็นผู้ต้องราชทัณฑ์ ก็มาสร้างเสียงเพลงให้เกิดความผ่อนคลายและให้กำลังใจทหารกับประชาชน

 

ส่วนของเรือนจำกลางอุบลราชธานี ถือว่ามีผู้ต้องราชทัณฑ์มากที่สุดกว่า 5,500 คน คนกลุ่มนี้เป็นมนุษย์ที่มีคุณค่า มีศักดิ์ศรี และมีความสำคัญ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้ตั้งความฝันว่าหนึ่งผู้ต้องราชทัณฑ์หนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ ให้ได้ เช่น หากมีความสามารถด้านดนตรี วันนี้ก็จะให้ เสก โลโซ  ซึ่งมีความสามารถทางดนตรี มาร่วมเทรนด์ เพื่อหวังให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ออกไป สามารถนำไปพัฒนาใช้ความสามารถนี้ได้

  

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี ยอมรับว่า มีความเป็นห่วงเรือนจำในพื้นที่สู้รบบางแห่ง เพราะมีการอพยพการย้ายผู้ต้องราชทัณฑ์ในเรือนจำไปตามที่ต่างๆ อย่างที่จังหวัดศรีสะเกษ ด้วย วันนี้จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายส่วนมาร่วมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ เนื่องจากเห็นว่า วิกฤตข้างหน้าของประเทศอยู่ที่คุณภาพของคน ดังนั้นเรือนจำในบทบาทเดิมยังเข้มแข็งอยู่ บทบาทใหม่ก็จะเป็นสถานที่สร้างคนเพื่อให้คนกลุ่มนี้ไปสร้างชาติ สร้างสังคม

 

ส่วนผู้ต้องราชทัณฑ์ที่มีครอบครัวมีญาติพี่น้องอยู่ตามแนวชายแดนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็จะทำความเข้าใจ บอกให้ผู้ต้องราชทัณฑ์เกิดความสบายใจ เพราะหากเขาสามารถออกไปได้ เขาก็จะออกไปปกป้องครอบครัว ซึ่งเขาย่อมมีความห่วงใยครอบครัวที่อยู่ตามแนวชายแดนอยู่แล้ว ดังนั้น กระทรวงยุติธรรม ก็จะต้องมาเล่าให้เขาฟังว่า รัฐบาลดูแลประชาชนอย่างไร และอีกส่วนหนึ่งก็เหมือนเป็นการนำคนหลังกำแพง ไปเป็นตัวแทนพบกับคนนอกกำแพงที่มาอยู่ศูนย์อพยพ เพื่อแลกเปลี่ยนเรื่องราวเล่าสู่กันฟัง

 

ส่วนการเยียวยาของกระทรวงยุติธรรมนั้น พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ของกระทรวงยุติธรรม เป็นกฎหมายกลาง คือ จะเยียวยาผู้เสียชีวิตประมาณ 200,000 บาท ผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 100,000 บาท ซึ่งวันนี้ได้สั่งให้ดำเนินการเร่งเยียวยา แต่การจ่ายเงินในแต่ละจังหวัด ก็จะขอให้ผู้ว่าฯได้มีการประชุมหารือกันก่อน เมื่อมีข้อมูลแล้วก็จะดำเนินการจ่ายเงินทันที อย่างน้อยการจ่ายเงินส่วนนี้ก็เป็นมาตรฐานขั้นต่ำ แต่การจ่ายเงินของรัฐบาลเป็นการเยียวยาเฉพาะกิจสำหรับผู้เสียชีวิต ประชาชน 8 ล้านบาท และทหาร 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากการสู้รบ

   

 

ส่วน กรณีที่มีนักกฎหมายออกมาให้ความเห็นว่า การเยียวยาตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนของกระทรวงยุติธรรม อาจจะเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายนั้น พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า เพื่อไม่ให้ผิดกฎหมายและให้เหยื่อเป็นผู้เสียหายนั้น ในกฎหมายของกระทรวงยุติธรรมเมื่อมีการแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตายอและข้อหาทำร้ายร่างกาย ไม่ว่าใครจะเป็นคนทำ ตามกฎหมายจะจ่ายเงินทั้งคนไทยและคนต่างประเทศที่มาอยู่บนแผ่นดินไทยทั้งหมด ดังนั้นหากเป็นผู้เสียหายซึ่งถือว่าเป็นไปตามกฎหมายอยู่แล้ว

     

ส่วนของรัฐบาลเมื่อปี 2559 มีระเบียบขึ้นมาโดยการจ่ายเงินจะต้องมีคณะกรรมการทั้งสำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง สมช. และฝ่ายปกครอง ซึ่งระเบียบต่างๆได้ออกมารองรับความกังวลใจว่าอาจจะทำไม่ถูกระเบียบเรียบร้อยแล้ว

 

 

พ.ต.อ.ทวี ยืนยันด้วยว่า การเยียวยาของกระทรวงยุติธรรม หากไปแจ้งความ ก็จะเป็นผู้เสียหายทางคดีอาญา ที่สามารถจ่ายเงินเยียวยาได้ เพราะเราใช้มาตรฐานนั้น โดยจะต้องเอาหลักฐานการแจ้งความมารับเงินเยียวยา อาจจะทำให้รู้สึกช้าไปหน่อย แต่ตอนนี้ยุติธรรมจังหวัดได้ดำเนินการไปแล้ว ดังนั้นยืนยันว่า รัฐบาลเข้าใจความทุกข์ของประชาชนเมื่อประชาชนมีความทุกข์เรื่องของการจ่ายเงินเยียวยาก็จะต้องรวดเร็ว

 

“ผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการสู้รบควรที่จะได้รับเงินทันทีหลังจากเกิดเหตุเพราะถือว่าเป็นสิทธิ์ตามกฏหมาย ดังนั้นหากรัฐบาลทำช้า ถือว่ารัฐบาลบกพร่อง รวมถึงรัฐบาลจะต้องไปดูเรื่องของการเสียโอกาสและทรัพย์สินด้วย อาจจะไม่เหมือนภาคใต้ที่หากเป็นเรื่องทรัพย์สินอาจจะเยียวยาได้เร็วกว่า จึงยืนยันว่า รัฐบาลเข้าใจความทุกข์ของประชาชน เมื่อประชาชนมีความทุกข์ เรื่องของการจ่ายเงินเยียวยาก็จะต้องรวดเร็ว”พ.ต.อ.ทวี กล่าว