ความจริงที่ตาควาย... ไทยจ่อเสียปราสาท? 4 พื้นที่ 5 คำถามคาใจ

9 สิงหาคม 2568 ภาพทหารกัมพูชายังอยู่ภายในปราสาทตาควาย ทำให้ “ข่าวข้นคนข่าว” ต้องตรวจสอบข่าวเป็นการด่วน เพราะเราเป็นสื่อแรกๆ ที่ออกมายืนยันว่า พื้นที่บริเวณช่องตาควาย ทหารไทยไม่ได้ยึดได้แบบเบ็ดเสร็จ แถมยังมีทหารเขมรเข้าไปอยู่ในปราสาทได้

แต่ต่อมา ก่อนหยุดยิง 28 ก.ค. มีการเปิดปฏิบัติการทางทหารเต็มรูปแบบ ทหารไทยสามารถไล่ทหารเขมรออกจากปราสาทไปได้ แต่ทหารเขมรถูกดันขึ้นไปบนเนิน 350 และยึดยอดเนินซึ่งเป็นจุดสูงข่มเอาไว้ ทำให้ทหารไทยไม่สามารถเข้าไปยึดตัวปราสาทได้ เพราะอาจตกเป็นเป้าจากทหารกัมพูชา แต่ฝ่ายไทยควบคุมบริเวณโดยรอบปราสาท และเนิน 350 ได้มากกว่า ข้อเท็จจริงจบอยู่เท่านี้ แล้วก็เข้าสู่ช่วงหยุดยิง
 

ต่อมา “ข่าวข้นคนข่าว” รายงานอ้างข้อมูลที่อ้างอิงจากภาพถ่ายทางอากาศของกองทัพว่า พบทหารกัมพูชามีการขุดคูเลตบริเวณพื้นที่เหนือปราสาทขึ้นไปถัดจากคูเลต เป็นแนวลวดหนาม ถัดจากแนวลวดหนาม เป็น “สนามทุ่นระเบิด” ถัดไปอีกเป็นเหมือนหมู่บ้าน มีการตั้งฐานยิงอาวุธหนัก

ทำให้ฝ่ายไทยทราบว่า ทหารกัมพูชามาปักหลักอยู่นานแล้ว ถึงขั้นสร้างที่พักแบบถาวร ทำให้ประเมินกันว่า ยากที่จะยึดกลับคืน หรือขับไล่ทหารเขมรพ้นเนิน 350 ไปได้ เนื่องจากเรากำลังเผชิญกับ “ทหารบ้าน” ซึ่งมีบ้านอยู่บริเวณนั้น และพร้อมสู้ตาย แถมมีโล่มนุษย์พลเรือน เป็นลูกเมียทหารอาศัยอยู่บางส่วน
 

สถานการณ์ล่าสุด เลวร้ายหนักขึ้นไปอีก เมื่อยังพบทหารเขมรยึดอยู่ภายในปราสาท
 

แหล่งข่าวซึ่งเป็นนายทหาร ทำงานประสานกับ “ศูนย์บัญชาการทางทหาร” ยอมรับว่า มีทหารเขมรอยู่ในปราสาทตาควายจริง ยังไม่ชัดว่า ลอบกลับเข้ามาหลังจากทหารไทยกดดันขับไล่ หรือแฝงตัวอยู่ ไม่ยอมออก เพราะฝ่ายทหารไทยก็เข้าไปไม่ได้เช่นกัน

4 พื้นที่ 5 คำถาม.. ไทยวิ่งตามเขมร หรือเล่นขายของ
 

ข้อมูลล่าสุดที่ “ปราสาทตาควาย” ถือว่าน่าตกใจ และเป็นคำถามย้อนกลับไปที่กองทัพ รวมถึง รมช.กลาโหม ว่า ไทยได้เปรียบทั้งข้อตกลง จีบีซี 13 ข้อ และยังได้เปรียบที่ยึดจุดยุทธศาสตร์สำคัญไว้ได้ถึง 11 จุดนั้น แท้ที่จริงแล้ว เราได้เปรียบแน่หรือไม่ หรือเรามีแต่ “เท่าทุน” กับ “เสียเปรียบ”

เพราะ...

1.พื้นที่ปราสาทตาควาย ก่อนเสียงปืนดังจากการปะทะรอบล่าสุดนี้ไม่นาน ไทยยังเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมจากฝั่งไทยได้ เคยมีมวลชนคนไทยไปร้องเพลงชาติเชิงสัญลักษณ์

**แต่วันนี้เราเข้าปราสาทไม่ได้แล้ว

**การที่บอกว่าเรายึดพื้นที่ที่เป็น “ยุทธบริเวณ” ได้มากกว่า เป็นความได้เปรียบตรงไหน อย่างไร

**ภาพที่ทหารเขมรไปยึด ถ้ามีการนำไปใช้ในศาลโลก หรือ “เวทีอื่นๆ ที่เป็นคนกลาง” จะทำให้ไทยเสียเปรียบหรือไม่ 

2.เนิน 350 ก็เป็นของไทย แต่วันนี้พบหมู่บ้านทหารเขมร และถัดจากเนิน ด้านหลัง ซึ่งเป็นเขตกัมพูชา ก็มีการเติมกำลังเข้ามาอย่างหนาแน่น 

3.ช่องอานม้า เดิมเคยเป็นของไทยโดยสมบูรณ์ ต่อมาฝ่ายกัมพูชามาสร้างตลาด สร้างอนุสาวรีย์ตาอม แต่ฝ่ายไทยก็เข้าพื้นที่ได้

**ปัจจุบัน ทหารทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้า ทหารไทยเข้าไปตรงลานที่เคยเป็นอนุสาวรีย์และตลาดไม่ได้ เพราะกัมพูชาอยู่ตรงจุดสูงข่ม (เนิน 677)

**ฝ่ายกัมพูชาเคยพาทูตทหารต่างชาติเข้ามาสังเกตการณ์ เพราะมั่นใจในความปลอดภัย เนื่องจากฝ่ายตัวเองไม่ยิงแน่นอน กลายเป็นว่าเขมรได้ภาพเป็นเจ้าของพื้นที่หรือไม่

4.ภูมะเขือ ที่บอกว่าได้ยึดได้ จริงๆ เคยเป็นของไทย แต่ถูกเขมรยึด วันนี้เราตีคืนกลับมาได้ ถือว่าได้เปรียบ หรือเท่าทุน

5.เช่นเดียวกับพื้นที่ “เขาพระวิหาร” บางส่วน (ไม่ใช่ตัวปราสาท) ลักษณะเดียวกับภูมะเขือ ไทยถือว่าได้เปรียบหรือเท่าทุน