
29 มิถุนายน 2568 แม้จะยังไม่เห็นหน้าตาอย่างชัดเจน สำหรับ ครม.แพทองธาร 2 หลังจากมีรายงานข่าวว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีการทูลเกล้าฯ รายชื่อ โผครม. ที่คาดว่าจะมีการปรับครม.ไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อุปสรรคเฉพาะหน้าของรัฐบาลนายกอิ๊งค์ 2 ที่คาดว่า จะปรากฏโฉมในอีกไม่กี่วัน ไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ ต้องบอกว่า “ไม่มีเวลาฮันนีมูน” แม้แต่วินาทีเดียว
เพราะรัฐบาลใหม่ (แต่คนหน้าเก่าเกือบหมด) ต้องเผชิญกับอุปสรรคใหญ่ 4 เรื่องด้วยกัน คือ
หมายถึงการพิจารณาคำร้องสอยนายกฯ สอยรัฐบาล โดยองค์กรอิสระ ขณะนี้มียื่นไว้ 4 ช่องทาง 4 แพลตฟอร์ม
- คดีอาญา ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 119 ความมั่นคงแห่งรัฐ - แจ้งความ ต่อสู้กัน 3 ศาล - งานระยะยาว
- กกต. คุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นคำร้องต่อ กกต. ว่านายกฯขาดคุณสมบัติ เพราะไม่ซื่อสัตย์สุจริต - งานระยะยาว คาดว่า กกต.รอศาลรัฐธรรมนูญชี้มูลก่อน
- ป.ป.ช. คุณศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ว่านายกฯขาดคุณสมบัติ เพราะไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ละเมิดมาตรฐานจริยธรรม ช่องทางนี้ ป.ป.ช.ทำหน้าที่พนักงานสอบสวน และสรุปสำนวนส่งศาลฎีกา - ใช้เวลาพอสมควร หากศาลฎีการับ จึงจะหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยอัตโนมัติ
- ศาลรัฐธรรมนูญ สว.ยื่นคำร้อง ข้อหาเดียวกับ กกต. และ ป.ป.ช. - ช่องทางนี้เร็วที่สุด วันที่ 1 กรกฎาฯ อาจเห็นหน้าเห็นหลัง ถ้าโชคร้าย วันที่ 1 กรกฎาคม อาจเป็นวันสุดท้ายที่นายกฯจะได้ทำงานในฐานะผู้นำประเทศ (ร้ายสุดๆ คือ โดนสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ และสุดท้ายศาลวินิจฉัยให้พ้นตำแหน่งไปเลย แม้ขณะนี้จะมีความเป็นไปได้ไม่มากนัก แต่ก็มีความเสี่ยง)
นี่คืออุปสรรคว่าด้วย “นิติสงคราม” ที่รอคิว และเชื่อว่านายกฯ อยู่ไม่เป็นสุขแน่ รวมทั้งอาจต้องลงจากตำแหน่งก่อนเวลา
โดยเสียงปริ่มน้ำ มาจากการถอนตัวของพรรคภูมิใจไทย 69 เสียง ทำให้รัฐบาลมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งอย่างเป็นทางการไม่ถึง 10 เสียง ไม่นับงูเห่า และ สส.กล้าธรรม ที่แฝงตัวอยู่ในพรรคอื่น
การอยู่ในสถานะ “รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ” เป็นสภาพการเมืองแปลกใหม่ของพรรคชินวัตร เพราะไม่เคยเป็นมาก่อน ปกติเคยแต่ตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก แบบล้นเกิน บางครั้งพรรคตัวเองก็แลนด์สไลด์มาด้วย
แต่ครั้งนี้ มีพรรคร่วมรัฐบาลมากกว่า 10 พรรค และยิ่งเสียงปริ่มน้ำ ทุกเสียงย่อมมีความสำคัญ และขู่ถอนตัว ขู่กรรโชก ขู่เขย่า กันได้ทุกวัน เรียกว่า เป็น “เสียงสำลักน้ำ” ไม่ใช่แค่ปริ่มน้ำ และจมน้ำตายได้ทุกเมื่อ
ล่าสุดคือกรณีของ รวมไทยสร้างชาติ...
เสียงปริ่มน้ำ..ลุกลามกว่าที่คิด วิกฤติ “อิ๊งค์ 2”
ปัญหาของพรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องบอกว่าเป็นตัวอย่างของความปวดหัว ที่จะเกิดตามมาไม่หยุด จากสถานการณ์ “รัฐบาลปริ่มน้ำ”
- ปัญหาของพรรคนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่เกิดมาแล้ว และขู่มาแล้วหลายครั้ง
- ก่อนหน้านี้ ตอน “เสี่ยเฮ้ง” ไม่ได้ขยับตำแหน่ง ก็ขู่ถอนตัว โดยอ้างเสียง “18 อรหันต์”
- ก่อนหน้านั้นอีก ตอนมีปัญหาคลิปเสียงฮุนเซน “หัวหน้าพี” และแกนนำพรรคสาย “หัวหน้าพี - เลขาฯขิง” ก็ใช้เรื่องนี้ในการยืนยัน ขอคำมั่นให้นั่งตำแหน่งเดิม คือ กระทรวงเศรษฐกิจเกรดเอ ทั้งพลังงาน และอุตสาหกรรม
- ปัญหานี้จะไม่จบง่าย เป็น “ยาดำ” ในรัฐบาลต่อไป ทั้งๆ ที่รวมไทยสร้างชาติไม่มีแนวโน้มถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล เนื่องจาก… ***ถ้าจะถอน ต้องถอนไปตั้งแต่ครั้งประชุมพรรค 19 มิ.ย.
- สภาพ...ของการเมืองที่ควบคุมด้วยเสียงข้างน้อย (พรรคเล็กมีอำนาจต่อรองเหนือพรรคใหญ่ หรือพรรคแกนนำ) ทำให้เกิดภาวะ “น่าอึดอัดทางการเมือง” อย่างเช่นข่าวล่าสุดของรวมไทยสร้างชาติที่เกิดขึ้น
***ถ้าจริง ประชาชนก็ด่าว่าทำไมพรรคนี้ไม่ยอมหยุดเสียที ประชาชนให้โอกาสบริหารประเทศต่อ แต่ยังต่อรองเก้าอี้กันไม่จบ
***ถ้าไม่จริง ก็แปลว่ามีคนหาประโยชน์ หาแสง หรือกระทั่งหากิน กับข่าวความขัดแย้งในรัฐบาล สร้างปัญหาไม่รู้จบ
- เสียงสนับสนุนของรัฐบาลยังไม่นิ่ง โดยเฉพาะเสียงของพรรคเพื่อไทย 142 สส. เพราะ **เพิ่งมี สส.ท่านหนึ่ง เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว คือ สส.อมรเทพ สมหมาย สส.ศรีสะเกษ
**มี สส.ในพรรคบางคนไม่ยอมโหวตหนุนรัฐบาล คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และไม่ยอมลาออกจากพรรคด้วย
- เสียงสนับสนุนรัฐบาล จากพรรคอื่นก็ยังไม่นิ่ง
**รวมไทยสร้างชาติ ยังมีปัญหากลุ่ม สส.ประชาธิปัตย์เก่า ที่ใกล้ชิดหัวหน้าพี และเคยเสนอให้พรรคถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล อาจแปรพักตร์ไปหนุนฝ่ายค้านได้ กลุ่มนี้มี 2-4 เสียง เช่น คุณจุติ ไกรฤกษ์ คุณวิทยา แก้วภราดัย
**รวมไทยสร้างชาติ ยังมีกลุ่ม สส.ชุมพร ที่เคยจัดชุมนุมเรียกร้องให้นายกฯ ลาออก น่าคิดว่าในอนาคตเสี่ยงแปรพักตร์หรือไม่ เพราะมีข่าวว่า ไม่ได้มองอนาคตร่วมกับพรรคสีธงชาติอีกต่อไป
**พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มปูชนียบุคคล 4 เสียง ไม่สนับสนุนให้ร่วมรัฐบาลตั้่งแต่ต้น
- ฉะนั้นแม้รัฐบาลจะอยู่ต่อไปได้ แต่ก็ต้องอาศัยเสียง “งูเห่า” ทั้ง “งูเห่าเปิดเผย” และ “งูเห่าอีแอบ”
- เมื่อมี “งูเห่า” ก็ต้องมี “แจกกล้วย” ตามมา / อย่าลืมว่า “แจกกล้วย” แล้วไม่ได้จบ เพราะข่าวกระฉ่อนแจกกล้วยในสภาชุดที่แล้ว ล่าสุด ป.ป.ช.ตั้งคณะกรรมการไต่สวน สส.และอดีต สส. 46 คน ที่เกี่ยวข้องถูกกล่าวหา “รับกล้วย”
**นี่คือวังวนการเมืองไทยที่ไม่ได้ก้าวหน้าไปไหน แต่ยังย่ำอยู่ที่เดิม แม้จะมีรัฐบาลใหม่ แต่คนส่วนใหญ่หน้าเดิม ก็ตาม
เรื่องนี้เป็น “เชือกรัดคอรัฐบาล” และรัฐบาลก็อยู่ในภาวะ “ขว้างงูไม่พ้นคอ” ด้วย เนื่องจากหาเสียงเอาไว้เยอะว่าเก่งแก้เศรษฐกิจ แต่พอมาเจอของจริง กลับทำอะไรไม่ได้ ทั้งๆ ที่ผ่านมาถึง 2 ปีแล้ว
โดยเฉพาะม็อบ ซึ่งได้แสดงพลังให้เห็นเป็นประเดิมไปแล้ว