
29 มิถุนายน 2568 เป็นภาพที่ไม่ได้เห็นมานาน แต่ก็เป็นภาพที่ชินตา กับการเมืองไทย การม็อบหรือการชุมนุมที่ วานนี้ (28 มิ.ย.) มีการชุมนุมเวทีรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยไทย ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และมีมวลชนจำนวนมากมาเข้าร่วม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลการแสดงพลัง หรือขับไล่นายก แพทองธาร ชินวัตร หรือเหตุผลอื่นๆ อะไรก็แล้วแต่ โดยภายหลังเสร็จสิ้นการชุมนุม เบื้องต้นสามารถวิเคราะห์การชุมนุมได้ดังนี้
- การนัดชุมนุมอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย. ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่า จะมีมวลชนตัวจริง เดินทางมาประมาณ 6,000 - 8,000 คน
- จะมีมวลชนจัดตั้งจากแกนนำ และฝ่ายการเมืองมาสนับสนุนอีกจำนวนหนึ่ง
**ยอดรวมอยู่ที่หลักหมื่นคน
- การชุมนุมจะไม่ยืดเยื้อ ชุมนุมกันแค่ 1 วัน แล้วประกาศเลิกชุมนุม เพื่อประเมินสถานการณ์
- การเลือกสถานที่ชุมนุมเป็นอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หวังเรียกความสนใจจากคนสัญจรเพื่อให้มวลชนดูเยอะขึ้น และหวังใช้เป็นสาเหตุให้มีทางถอย ในการหยุดพักการชุมนุมชั่วคราว เนื่องจากมีโรงพยาบาลรายล้อมอยู่หลายแห่ง
- ยอดเงินบริจาคสูงจริงตามที่แกนนำประกาศ เพราะประชาชนที่ร่วมบริจาคหวังส่งต่อเป็นทุนสนับสนุนทหารกองทัพภาคที่ 2 เพื่อปกป้องอธิปไตย
- การชุมนุมที่ไม่ยืดเยื้อ เพราะด้านหนึ่งเชื่อว่า เส้นทางของ “นิติสงคราม” ในการสอยนายกฯ แพทองธาร ยังคงมีโอกาสสูง
- แกนนำม็อบเชื่อว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวค่อนข้างแน่ โดยหากไม่มีคำสั่งในคราวประชุมสัปดาห์หน้านี้เลย ก็น่าจะสั่งไม่เกินกลางเดือน ก.ค.
- จากนั้นทางผู้ชุมนุมอาจแสวงโอกาสจัดม็อบใหญ่อีกครั้ง เพื่อหาเหตุถวายฎีกา เปิดทางหรือปูทางสู่การตั้งรัฐบาลแห่งชาติ หรือรัฐบาลเฉพาะกาล ในระยะต่อไป
**ขณะนี้มีการล่าชื่อถวายฎีกา จากแกนนำม็อบบางส่วนแล้ว
- การชุมนุมจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกดดัน หรือตอกย้ำให้องค์กรอิสระ ตัดสินใจให้นายกฯพ้นตำแหน่งเท่านั้น
- จะไม่มีการชุมนุมเพื่อเรียกทหารออกมายึดอำนาจ
- แกนนำบางส่วนเชื่อว่า จะมีสถานการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น อาจจะมาจากประเด็นการเมืองภายในประเทศเอง หรือความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชา
**สุดท้ายเชื่อว่า ทหารจะประกาศกฎอัยการศึก และควบคุมให้เกิดความสงบเรียบร้อย โดยอาจมีสถานการณ์ที่เหมาะสมในการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลเพื่อไทย สู่รัฐบาลแห่งชาติ
- อาจมีผลจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับคำร้องตามมาตรา 144 ล้มกระดานฝ่ายการเมืองทั้งหมด แล้วเซ็ตซีโร่กันใหม่
**ทั้งหมดนี้ทำให้เชื่อได้ว่า การชุมนุมใหญ่ของม็อบไล่นายกฯแพทองธาร จะไม่บานปลายขยายวง เพราะเป้าหมายที่แท้จริงในการ “สอยนายกฯลง” คือ นิติสงคราม
มีคำถามเสมอเวลามี “ม็อบการเมือง” ก็คือ “ม็อบจุดติดหรือยัง” ครั้งนี้ก็เช่นกัน?
แหล่งข่าวซึ่งเป็นอดีตหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงระดับชาติ บอกกับ “ข่าวข้นคนข่าว” ว่า คำว่า “ม็อบจุดติด” ต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันว่า มี 2 ความหมายคือ
1.”จุดติด” ในแง่การสร้างกระแสความไม่พอใจรัฐบาล หรือตัวผู้นำ ในหัวใจและความรู้สึกของประชาชน
ถ้าในความหมายนี้ สถานการณ์ปัจจุบันถือว่า “ม็อบจุดติดแล้ว” กล่าวคือการรณรงค์ให้ประชาชนต่อต้านรัฐบาล ไม่เห็นด้วยกับการกระทำต่างๆ และตรวจสอบทุกนโยบายอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะสถานการณ์ปัจจุบัน คือ นโยบายชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีผู้นำทางความคิดซึ่งเป็นแกนนำการชุมนุม เป็นผู้นำกระแส / ถ้าในบริบทนี้ ถือว่าจุดติดแล้ว / และแนวโน้มจะมีการยกระดับต่อไป หากรัฐบาลทำผิดพลาดในเรื่องเดิม หรือเรื่องอื่นๆ อีก
2."จุดติด" ในแง่ของจำนวนมวลชนออกมาชุมนุมอย่างมหาศาล จนเกิดแรงกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทั้งจากรัฐบาลเอง หรือจากนิติสงคราม หรืออำนาจนอกระบบ
ถ้าในความหมายนี้ ถือว่า “ยังจุดไม่ติด” เพราะจำนวนมวลชนที่ออกมาชุมนุมยังไม่มากพอ ไม่สามารถจัดชุมนุมยืดเยื้อ หรือมีกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อสร้างแรงกดดันให้หนักขึ้นได้ ประกอบกับสถานการณ์ยังไม่สุกงอมพอ
แหล่งข่าวคนเดิม บอกด้วยว่า ถึงแม้ความนิยมของรัฐบาลจะตกต่ำลงมาก จากปัญหาต่างๆ ที่ปรากฏ ทั้งเศรษฐกิจ ความมั่นคง และชายแดน โดยเฉพาะความขัดแย้งกับกัมพูชาที่ถูกนำไปผูกโยงกับความสัมพันธ์ของตระกูลชินวัตร กับตระกูลฮุน / แต่การต่อต้านของประชาชนถึงขั้นมีการชุมนุมใหญ่ระดับ 1-2 หมื่นคนขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง มีความเป็นไปได้น้อย สาเหตุเพราะ
- สถานการณ์ปัจจุบัน กระบวนการยุติธรรมยังดำเนินไปตามครรลองที่ชอบธรรม ไม่เป็นคุณกับอดีตนายกฯทักษิณ และนายกฯแพทองธาร
- สถานการณ์ในสภา มีความพยายามตรวจสอบจากพรรคฝ่ายค้านน้องใหม่อย่าง “ภูมิใจไทย” ทำให้กลไกสภาดูมีความหวัง
- บทบาทของกองทัพ สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ว่า ไทยจะไม่เสียดินแดน และหรือเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำกัมพูชา
ด้วยเหตุนี้ กระแสสังคมส่วนใหญ่จึงรอผลจากนิติสงคราม การตัดสินขององค์กรอิสระ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง / รวมไปถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไปที่ประชาชนจะให้บทเรียนกับพรรครัฐบาลในปัจจุบันทุกพรรค โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย