
วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองในห้วงนี้ เรื่องการปรับ ครม.ที่ข่าวเริ่มเงียบไป แท้จริงเป็น “ความสงบสยบความเคลื่อนไหว” เพราะ “นายใหญ่ - ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย“ ปักหมุดปรับใหญ่ ครม.ในเดือนมิถุนายนนี้
1.พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ผ่านสภาวาระแรกแล้ว (เข้าสู่โซนปลอดภัย เพราะวาระสาม ทุกพรรคอยากให้ผ่าน)
2.คดีชั้น 14 ที่ “องค์คณะไต่สวน” ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจง รวมถึงอดีตนายกฯทักษิณ นั้น มีการประเมินกันทั้งหน้าฉาก หลังฉากแล้ว มั่นใจว่า สุดท้ายผลออกมาจะเป็นบวกกับอดีตนายกฯ
ตามที่ “ข่าวข้นคนข่าว” เคยวิเคราะห์เอาไว้ว่า กระบวนการไต่สวนนี้เปรียบเหมือนทางสองแพร่ง คือถ้าอดีตนายกฯรอด จะส่งผล “ฟอกขาว” คดีชั้น 14 และ องค์กรอิสระน่าจะไม่สามารถตรวจสอบได้อีก และปิดเกมเรื่องนี้อย่างถาวร
3.มีแนวโน้มที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะยื่นฟ้อง 44 สส.พรรคก้าวไกลเดิม ต่อศาลฎีกา ในคดีเสนอแก้มาตรา 112 และจะมี สส.ปัจจุบันของพรรคประชาชน ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ 25 คน ทำให้เสียงกึ่งหนึ่งในสภาลดลง เป็นช่องว่างให้ปรับ ครม.ได้ง่ายขึ้น และลดแรงกระเพื่อมกรณี “เขย่าแรง”
4.มีการตกลงกันเรียบร้อยว่าจะมีการปรับ ครม. โดยตำแหน่งที่ลูกขอเว้นไว้ ก็คือ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กับ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ
5.คดีฮั้ว สว. จะถึงจุดรุกฆาต และสามารถนำมาต่อรองทางการเมืองได้ ทั้งกับพรรคภูมิใจไทย และ ผู้สนับสนุนหลักของพรรค
6.จับอาการ “ผู้กองธรรมนัส” ยังไม่ยอมเปิดตัว สส.ฝ่ายค้าน ที่ยอมเปลี่ยนโปรฯ ย้ายค้ายมาเข้าสังกัดพรรคกล้าธรรม แปลว่าได้สัญญาณมา ให้เปิดตัวในช่วงไคลแม็กซ์ทางการเมือง เพื่อสกัดการขยับเขยื้อนของอีกฝ่าย
สำหรับตำแหน่งที่จะมีการปรับ จะมีทั้งรัฐมนตรีในโควต้าของเพื่อไทย กล้าธรรม และพรรคร่วมรัฐบาลอื่น โดยเฉพาะ พรรคภูมิใจไทย และพรรครวมไทยสร้างชาติ
กระทรวงที่อยู่ในข่ายถูกปรับ ครม. ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน กระทรวงดีอีเอส และกระทรวงมหาดไทย หรือที่ถูกขนานนามว่า "กระทรวงคลองหลอด" ด้วย
ข่าวแจ้งว่า มีการวางตัว “ขุนพลคนใหม่” ของเพื่อไทย ไปนั่ง “ว่าการมหาดไทย” แทนพรรคภูมิใจไทยแล้ว และไม่ใช่ “บิ๊กอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย ด้วย