
จากโครงการ บ้านเพื่อคนไทย ของรัฐบาล ที่เปิดให้ผู้สนใจลงทะเบียน ผ่าน เว็บไซต์ บ้านเพื่อคนไทย โดยมีผู้สนใจลงทะเบียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ใน 4 ทำเล คือ
21 มกราคม 2568 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยเนชั่นทีวี ว่า อัปเดตยอดจองสิทธิ์ โครงการบ้านเพื่อคนไทย ณ วันที่ 20 มกราคม 2568 ณ เวลา 11.00 น. มีผู้คลิกชม 58 ล้านวิว มีตัวเลขแสดงความจำนง ขอใช้สิทธิเกือบ 200,000 คน ณ วันที่ผ่านการตรวจพรีแอปพลูฟจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เมื่อตอนเช้า เกือบ 120,000 คน วันนี้เรายังเปิดโอกาสให้แสดงความจำนงจองสิทธิ์ ต่อไป ยังไม่ได้ปิด
“ณ วันนี้ จำนวนห้อง 5,000 พันห้อง จำนวนที่ผ่านพรีแอปบลูฟ พบว่า ดีมานด์เกินมหาศาลแล้ว”
รมช.คมนาคม เปิดเผยด้วยว่า จากการเปิดดูข้อมูลหลังบ้าน พบว่า กม.11 เป็นที่ต้องการเยอะที่สุด รองลงมา คือ พื้นที่ธนบุรี และไล่ไปตามลำดับ นี่คือโครงการนำร่อง ต่อไปจะมีเฟสสอง เฟสสาม ในรัฐบาลสมัยนี้ ตั้งใจ 100,000-300,000 คนให้ได้
เมื่อมีดีมานด์ต้องการเยอะขึ้น ทีมงานต้องกลับไปทบทวน เรื่องของการพัฒนาโครงการ เพราะวันนี้เราสร้างดีมานด์ล่วงหน้า และซัพพลายตาม ฉะนั้นโลเกชั่นต่างๆ ต่อไป ก็จะต้องดู 1.ที่ดีมานด์ยังค้าง 2.ตามหัวเมืองใหญ่ๆ ติดระบบราง มีชุมชนที่หนาแน่นไม่สะดวกสบาย ก็จะนำมาพิจารณาเป็นเฟสสอง
“พื้นที่บางซื่อ ยังดำเนินการก่อสร้างโครงการเพิ่มได้ ในเฟสสอง เฟสสาม ทั้งการเพิ่มจำนวนชั้น โดยรอทีมงานในการวางแพลน อีกทั้งขนาดห้อง ข้อมูลเหล่านี้ จะนำมาวิเคราะห์ ว่า จริงๆแล้วตลาดผู้บริโภค และเป้าหมายที่เราวางไว้ ต้องการขนาดไหน"
เมื่อถามว่าเงื่อนไขคุณสมบัติ ที่มุ่งเน้นกับคนวัยทำงาน เป็นการดึงคะแนนจากคนรุ่นใหม่ให้กับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ รมช.คมนาคม กล่าวว่า โปรเจ็กต์นี้ ให้โอกาสกับคนรุ่นใหม่ ไม่ได้เป็นภาระรัฐบาล เพียงแต่ว่า เราดึง ธอส. มาช่วยสินเชื่อเรื่องปกติ แต่ว่าเรานำทุกภาคส่วนมาร่วมกันสร้างโอกาสให้คนรุ่นใหม่
เมื่อถามว่า คนคิดเป็นพรรคเพื่อไทยไหม รมช.คมนาคม ยอมรับว่าใช่ แต่ถ้าพรรคไหนๆมีนโยบยายดีๆ ก็คิดได้ แต่นโยบายนี้เป็นของนายกรัฐมนตรี กระทรวงคมนาคม และท่านทักษิณอาจได้ช่วยแนะนำ วันนี้เราใช้คำว่า ให้โอกาสกับประชาชนทุกมิติดีกว่า บ้านเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ ยารักษาโรค 30 บาทรักษาทุกที่ และบ้าน ที่เราให้ผ่อนได้ในราคา 4,000 บาท โดยไม่ต้องมีเงินดาวน์ ซึ่งจะกระจายไปยังหัวเมืองต่างๆ และต่างจังหวัดด้วย
“เราจะสร้างคนรุ่นใหม่ ให้แข็งแรง เพื่อมาขับเคลื่อนประเทศชาติ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพราะอยู่ในวัยทำงาน ดึงอนาคตมาอยู่ในปัจจุบัน ให้ทันกับค่าใช้จ่าย ผมว่าทุกพรรคดีใจร่วมกันดีกว่า ผลประโยชน์สุดท้ายตกกับคนวัยทำงาน เฟิร์สจ็อบเปอร์หรือเด็กจบใหม่ที่เริ่มทำงาน” รมช.คมนาคม กล่าว
นอกจากนี้ เวลา 15.00 น. นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการคมชัดลึก หัวข้อ เจาะเงื่อนไข “บ้านเพื่อคนไทย” ใครได้สิทธิ์ ทาง NationTV ช่อง 22 ดำเนินรายการโดย วราวิทย์ ฉิมมณี มีเนื้อหาเพิ่มเติมว่า
จากดีมานต์ 120,000 คน กับ 5,000 ยูนิต จะมีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ทำหน้าที่ Random หรือจับฉลาก ตามโลเกชั่นที่ตั้ง เราเน้นความโปร่งใส ทุกอย่าง Random หมด ทุกคนมีสิทธิเท่ากัน แล้วแต่ดวง
กติกา 1 คน จองได้ 1 สิทธิ เฟิร์สจ็อบเปอร์ หรือกลุ่มคนทำงานที่จบใหม่ ใกล้ที่ทำงาน เดินทางสะดวก ลดค่าใช้จ่าย ถ้ารอบแรกตกรอบไป รายชื่อก็ยังอยู่ในตะกร้า ถ้ามีอีกก็เข้าไปลุ้นได้อีกรอบหนึ่ง
ทั้งนี้ รมช.คมนาคม กล่าวด้วยว่า สำหรับ เฟสสอง จะมีการเลือกทำเลที่กลุ่มคนหนาแน่น เอาระบบไปหาดีมานต์ตามหัวเมืองใหญ่ อาทิ นครราชสีมา , ขอนแก่น , อุดรธานี , หาดใหญ่ สงขลา , สุราษฎร์ธานี , นครศรีธรรมราช , กาญจนบุรี รวมทั้งกรุงเทพและปริมณฑล ที่มีระบบขนส่งมวลชนเข้าถึง อย่างรถไฟฟ้า น่าจะตอบสนองให้ได้สัก 300,000 กว่ายูนิต ใน 2 ปี
ในตอนแรก เราไม่รู้ดีมานต์ แต่วันนี้เรารู้ดีมานต์ คิดว่าเฟสแรก เพิ่มที่ กม.11 น่าจะได้รวมๆแล้ว เกือบ 10,000 ยูนิต ถ้าปิดเฟสแรก ตอนนี้พบว่าดีมานต์ทะลุไปไกล เราก็เปิดเฟสสอง
“โครงการนี้ KPI คือ ถ้าเฟิร์สจ็อบเปอร์แข็งแรง มีความสุข ตั้งตัวได้เร็วขึ้น สร้างครอบครัวได้ สามารถเอาเวลามาทำงาน ไม่มาเหนื่อยล้ากับการเดินทาง เอากำลังความคิดทั้งหมดมาพัฒนาประเทศได้”
นอกจากนี้ เมื่อมีผู้อยู่อาศัย ก็จะทำให้พื้นที่ใกล้เคียงเกิดการพัฒนา จะมีการปล่อยเช่า
นอกจากนี้ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม กล่าวถึงโครงการ รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ยืนยันว่าเกิดขึ้นแน่นอน ตอนนี้ขั้นตอนอยู่ที่การออก พรบ.ตั๋วร่วม ของรัฐสภา เดิมทำไม่ได้ เป็นเรื่องของเอกชน เป็นการขอความร่วมมือกับเอกชน ให้ชีวิตคนเดินทางสะดวกขึ้น ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี