เปิดใจที่แรก"สว.นางฟ้า"เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว.คะแนนสูงสุด กับ สารพัดคำครหา

ศาสตราจารย์ ดร. แพทย์หญิง "เกศกมล เปลี่ยนสมัย" แพทย์เวชศาสตร์ป้องกัน แขนงสุขภาพจิตชุมชน และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงามได้รับเลือกให้เป็น"สมาชิกวุฒิสภา" กลุ่มที่ 19 (กลุ่มวิชาชีพอิสระ)  ด้วยคะแนนสูงสุดระดับประเทศ 79 คะแนน 

 

"คะแนนนี้มาอย่างไร เป็นหมอจริงหรือ ใครสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ทำไมเลือกลงสมัครกลุ่ม 19 (อาชีพอิสระ)  เป็นสว.มีสี  ปริญญาเก๊ มหาวิทยาลัยห้องแถวหรือไม่" 
 

วันนี้( 10 กรกฎาคม ) "หมอเกศกมล" มาเปิดใจเล่าเบื้องหลังกว่าจะได้เป็นสว. กับสารพัดข้อครหากับ"ทีมข่าวเนชั่นทีวี" 

"เกศกมล เปลี่ยนสมัย"  ผู้เคยได้รับฉายาทางโลกโซเชียลว่า "หมอนางฟ้า" แต่อีกไม่กี่วันเมื่อได้เข้าไปทำหน้าที่เป็นสมาชิกวุฒิสภา ก็มีฉายาตามมาแน่ " สว.นางฟ้า" เพราะด้วยบุคลิก หน้าตา ที่ใครเห็นต้องสะดุดตา กอปรกับความรู้ความสามารถที่เรียนจบแพทยศาสตร์ ม.รังสิต  ปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต การบริหารจัดการองค์การ ม.เกริก และได้รับปริญญาเอก ต่างประเทศ   

"หมอเกศ" เริ่มต้น เล่าเบื้องหลังการตัดสินใจลงสมัครสว. คือ การที่เราได้ทำหน้าที่ผ่านการเป็นแพทย์เวชศาสตร์ป้องกัน แขนงสุขภาพจิตชุมชน และเคยเป็นอดีตที่ปรึกษากรรมาธิการกฎหมายและการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทน  จึงอยากนำสิ่งที่เราได้สัมผัสกับสภาพปัญหาของสังคม ไปสะท้อนความคิดความเห็นและข้อเสนอผ่านการทำงานในสภา 

 

แม้เป็นแพทย์ แต่เธอกับเลือกลงสมัครสว.กลุ่มที่ 19 (กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ หรืออื่นๆในทำนองเดียวกัน ) สร้างความสงสัย ว่าทำไมเลือกลงสมัครกลุ่มนี้  "หมอเกศกมล" กล่าวอย่างตรงไปตรงมา เป็นการเลือกลงสมัครโดยวาง"กลยุทธ์" 

 

 

"ตอนแรกก็คิดวางแผนไว้หลายเดือนจะลงสมัครกลุ่มใด  เพราะจะลงกลุ่ม 4 (กลุ่มสาธารณสุข อันได้แก่ ผู้เป็นหรือเคยเป็นแพทย์ทุกประเภท เทคนิคการแพทย์ สาธารณสุข พยาบาล เภสัชกร หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน )  หรือ กลุ่ม 14  (กลุ่มสตรี)  ก็ลงได้ แต่หมอเลือกมาลงกลุ่ม 19  เพราะกลุ่ม 4 มีคุณหมออาวุโสหลายท่าน หมอเลี่ยงกลุ่มสาธารณสุข เช่นเดียวกับ กลุ่มสตรี ก็มีจำนวนมาก จึงมาลงที่กลุ่ม 19  " 

 

"เกศกมล เปลี่ยนสมัย" หรือ “ สว.นางฟ้า “ เปิดเผยว่า คิดด้วยความรอบคอบแล้ว ก่อนที่จะลงสมัคร สว.ว่าจะถูกตรวจสอบ โดยไม่ทราบว่าฝ่ายตรวจสอบ ต้องการทำเรื่องนี้เพื่อจุดประสงค์ใด  

"สำหรับประเด็นวุฒิทางการศึกษา มีการร้องเรียนตั้งแต่เลือกสว.ระดับอำเภอแล้ว กกต.จังหวัด(เพชรบุรี) ก็เรียกหมอมาสอบถาม ซึ่งหมอแสดงเอกสารข้อเท็จจริง เรื่องก็ส่งผ่านมาที่กกต.ส่วนกลางด้วย ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร"

"เกศกมล" เปิดเผย ถูกร้องเรียนตรวจสอบตั้งแต่ระดับอำเภอแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาถูกเพจแห่งหนึ่งแฉวุฒิการศึกษาในรอบสว.ระดับประเทศ 

 

"ความจริงก็คือความจริง มหาวิทยาลัยที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ไม่ใช่มหาวิทยาลัยห้องแถว ภาพที่มีสื่อโซเชียลถ่าย เป็นภาพมุมเดียวแถวตึกอธิการบดี ไม่ได้ถ่ายภาพมหาวิทยาลัยทั้งหมด  มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ได้รับการยอมรับจากกระทรวงศึกษาธิการ สหรัฐ  โดยงานวิจัย ทำมาด้วยตนเองไม่มีการซื้อ และกว่าจะจบต้องผ่านความยากลำบาก และงานวิทยานิพนธ์  ยังได้รับการติดอันดับ ที่ไม่ใช่ทำกันได้ง่ายๆ" 

"คุณหมอเกศกมล" กล่าวพร้อมนำเอกสารใบปริญญา ผลงานวิจัยที่ได้รับการรับรองจากมหาวิทยาลัย ของสหรัฐอเมริกา ยืนยันกับ"เนชั่นทีวี"

 

ส่วนตำแหน่ง”ศาสตราจารย์” เป็นตำแหน่งตามภาษาของต่างประเทศที่ถูกต้อง และหมอได้นำเสนอตำแหน่งนี้ ตามที่ต่างประเทศระบุไว้ หมอเข้าใจดี ไม่อาจเอื้อมที่จะสื่อถึง ตำแหน่ง "ศาสตราจารย์" ของไทย ตรงนี้ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงก่อนรับสมัครแล้ว

เคยคิดถอดใจ หลังคุณพ่อคุณแม่เครียดจนล้มป่วย

 

"หมอเกศกมล" กล่าวกับทีมข่าว"เนชั่นทีวี" ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ว่า หมออยากเล่าสิ่งที่ได้รับผลกระทบ จากกลุ่มบุคคล หรือใครก็ตามทางสื่อโซเชียล ที่นำเสนอข้อมูลผิดๆ และมีการโพสต์ให้หมอได้รับความเสียหาย 

"หมอทราบดีว่า เมื่อเราเข้ามาทำหน้าที่ สว. ที่ตนเองคิดว่านี่ไม่ใช่ ตำแหน่งทางการเมือง แต่เป็นงานอาสา มีอุดมการณ์ที่จะมาเป็นตัวแทนให้ประชาชนผ่านสภาสูงได้อีกทางหนึ่งเท่านั้นเอง หมอยังเคยพูดกับเพื่อนๆว่า เมื่อเข้ามาเป็นสว. จะนำเงินเดือนสว.ไปทำซีเอสอาร์ ช่วยสนับสนุนหรือบริจาค เบื้องต้นได้มีการคุยกับส่วนงานกรมราชทัณฑ์ไว้บ้างแล้ว " 

 

แต่พอเราเข้ามาเป็นสว. ไม่ทราบว่า เจตนาของผู้ที่ให้ข้อมูลเท็จ สร้างความเข้าใจผิด ต้องการทำลายหมอ หรืออะไรกันแน่ แต่ ครอบครัวของหมอกำลังได้รับผลกระทบ

 

“ทุกอย่างที่หมอทำไป ถูกต้องหมดทุกอย่าง ไม่ได้เครียดเรื่องนี้เลย แต่สิ่งที่เครียด หมออ่านทุกคอมเมนท์นะ ส่วนตัวหมอเป็นสุขภาพจิตชุมชน รู้จักวิธีการทำใจหรือยอมรับกับมันได้ประมาณหนึ่ง แต่ถามว่าเสียใจไหม ก็เสียใจมาก ทำไมเราถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้เลยหรือ"

 

ทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แต่สิ่งที่รู้สึกเสียใจมากที่สุด (เริ่มเสียงสั่นเครือ) คุณพ่อและคุณแม่ เข้าโรงพยาบาลนะ คุณแม่กลายเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ เพราะเขาไม่เคยมารับรู้อะไรแบบนี้ มาอ่านข่าวโดนคอมเม้นท์เค้าก็เครียด นอนไม่หลับ ส่วนพ่อ อดทนมาก คือ วันเลือกระดับจังหวัดเสร็จเรียบร้อยเข้ารอบประเทศ วันนั้นพ่อบอกไม่ไหวแล้ว เข้ารพ. คือเป็นโรคหัวใจตัน ไม่ใช่ตีบนะ เดินไม่ได้ 99 เปอร์เซนต์ ที่ผ่านมาไม่เคยมีอาการแบบนี้ เขาเครียด สงสารลูก ไม่ไหวแล้ว ไปรพ. ตอนนี้ยังเครียด เมื่อคืนเขาก็นอนไม่หลับเครียดเรื่องลูก หมอก็พยายามอธิบายเขาอยู่ “

"หมอเกศกมล" เล่าพร้อมน้ำตาซึมก่อนสารภาพด้วยว่า เคยคิดจะถอดใจอยู่เหมือนกันว่า เรามีความตั้งใจดีที่จะเข้ามาทำงาน  ไม่ได้มาจากกลุ่มก้อน หรือสีไหน แต่ทำไมต้องมาเผชิญสถานการณ์แบบนี้

"คำถามว่าหมอเป็นสว.มีสีหรือไม่ อยากให้เรามองไปที่ผืนธงชาติไทย มีแถบสีอะไรที่เป็นขนาดใหญ่ที่ประชาชนเคารพเทิดทูน และหมอยึดมั่นกับสีนี้อยู่ในหัวใจ" 

แม้ว่ามีเสียงวิพากษณ์วิจารณ์ สว.อีกหลายท่าน เข้ามาตรงตามวิชาชีพหรือไม่ หรือเป็นเครือข่ายพรรคการเมือง  แต่หมออยากให้มองอีกมุมหนึ่ง ตอนที่มีการเลือกแนะนำตัว ได้เห็นถึงความสามารถของแต่ละท่าน เราได้ความหลากหลายจากกลุ่มวิชาชีพต่างๆ ฉะนั้น หมออยากให้ทุกคนให้โอกาสให้กำลังใจทุกคนด้วย 

 

อย่างไรก็ดี  "หมอเกศ"  บอกด้วยว่า หลังจากนี้  1-2 วัน  หมอคงต้องใช้สิทธิ ปกป้องเกียรติยศศักดิ์ศรี และชี้แจงข้อเท็จจริง  โดยล่าสุด มอบหมาย "คุณเดชา  กิตติวิทยานันท์"  หรือ ทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ดำเนินการรวบรวมข้อมูลของบุคคล กลุ่มบุคคล เพจ ที่นำเสนอข้อมูลบิดเบือน ไม่เป็นความจริง สร้างความเสียหาย ในการดำเนินคดีฟ้องร้องต่อไป"

 

 

สำหรับ"คุณหมอเกศกมล" ถือว่าได้รับเลือกเป็นสว.จากกลุ่ม 19 (กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ หรือ อื่นๆ ในทำนองเดียวกัน ) โดยได้รับคะแนนสูงสุดของประเทศ 79 คะแนน

 

ชมคลิป

ดร.แพทย์หญิงเกศกมล  เปลี่ยนสมัย เปิดใจที่แรกผ่าน"เนชั่นทีวี"