svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ชูศักดิ์-พริษฐ์" เห็นพ้องแก้กฎหมายประชามติจี้เปิดสภาสมัยวิสามัญถกด่วน

02 พฤษภาคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ชูศักดิ์" แจงต้องแก้กฎหมายประชามติ ปลดล็อกเสียงข้างมาก 2 ชั้น ก่อนเริ่มทำครั้งแรก คาดใช้เวลา 6 เดือนนับจากนี้ ด้าน "ไอติม พริษฐ์" เรียกร้องรัฐบาลเร่งเปิดสภาสมัยวิสามัญ รับห่วงคำถามยังตีกรอบ

2 พฤษภาคม 2567 "นายชูศักดิ์ ศิรินิล" สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือเกี่ยวกับการแก้ไขพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 ว่า หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ทำประชามติ 3 ครั้ง และจะต้องมีการแก้ไขกฎหมายประชามติ และเมื่อกฎหมายเสร็จสมบูรณ์จึงค่อยเสนอ พ.ร.บ.จัดทำประชามติ ซึ่งจะเป็นร่างของ ครม. ที่ดำเนินการโดยคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นประชาชน เกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ

ทั้งนี้ ซึ่งเนื้อหาและหลักการจะไม่แตกต่างกับร่างของพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ในการแก้ไขปัญหาเรื่องการใช้เสียงข้างมากจำนวน 2 ชั้น หรือ Double Majority ที่ตกผลึกร่วมกันว่าจะใช้เสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิ์ เกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ์ 

นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า โดยการเสนอกฎหมายประชามติ จะทำโดย 2 สภา คือ เสนอผ่าน ครม. ส่งไปยังสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา และจากนั้นจะส่งไปยังวุฒิสภาพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งกฎหมายดังกล่าวจะต้องรอวุฒิสภาชุดใหม่ ที่มาจากการเลือกกันเองเข้ามาทำหน้าที่ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือนนับจากนี้ หรือช่วงปลายปีก็มีความเป็นไปได้ ว่าจะมีการจัดทำประชามติครั้งแรก พร้อมย้ำว่าพยายามที่จะเร่งรัดนำกฎหมายเข้าสภา และจะมีการเปิดสมัยวิสามัญในเร็วๆ นี้

 

"การทำกฎหมายประชามติ เมื่อเข้าสู่สภาไปแล้ว และมีการรับหลักการในวาระ 1 ก็จะจัดตั้งคณะกรรมาธิการศึกษา ก็คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน เพื่อเสนอสภาเห็นชอบในวาระ 3 ก่อนที่จะส่งต่อให้วุฒิสภาพิจารณา ปัญหาใหญ่ในขณะนี้ จะต้องรอวุฒิสภาชุดใหม่ และเราคิดว่าวุฒิสภาชุดใหม่ คงจะราบรื่น ไม่ติดขัดอะไร" นายชูศักดิ์ กล่าว

 

ขณะเดียวกัน การจัดทำประชามติไม่ได้กำหนดเงื่อนไขว่า จะต้องไปทำในการเลือกตั้งท้องถิ่น หรือเลือกตั้งนายกฯ อบจ. ซึ่งเป็นโจทย์ของรัฐบาลที่จะต้องดำเนินการเอง และไม่ควรที่จะทำ 3 วาระรวด เพราะมีเนื้อหาสาระหลายประเด็นที่ต้องพิจารณา หรือจะต้องทำเป็นพระราชกำหนด หรือไม่ก็อยู่ที่รัฐบาลพิจารณา

ด้าน "นายพริษฐ์ วัชรสินธุ" สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการแก้ไขกฎหมายใน 3 ประเด็น ว่า

  1. การทำประชามติจะเริ่มนับหนึ่ง เมื่อมีการแก้ไขกฎหมายประชามติแล้วเสร็จ จึงยังไม่สามารถกำหนดกรอบเวลาการทำประชามติครั้งที่ 1 ได้ จึงขอให้รัฐบาลสื่อสารให้กับประชาชนให้ชัดเจน
  2. เมื่อมีร่างกฎหมายประชามติของพรรคก้าวไกล และของพรรคเพื่อไทย เข้าสู่การเสนอต่อสภาแล้ว ก็คาดหวังให้รัฐบาลเสนอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญโดยเร็วที่สุด โดยไม่ต้องรอให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณากฎหมายงบประมาณปี 2568 ในเดือน มิ.ย. 
  3. ยอมรับว่าพรรคก้าวไกลยังกังวลต่อปัญหาในการจัดทำประชามติ ซึ่งขอให้ทบทวนคำถามในการจัดทำประชามติ ให้เป็นคำถามที่เปิดกว้างว่า ท่านเห็นชอบหรือไม่ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าจะทำให้โอกาสที่ประชามติผ่านได้

"เราเข้าใจดีว่ารัฐบาลไม่ต้องการให้แก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 เรามองว่ารัฐบาลสามารถถามคำถามเปิดกว้างแบบนี้ได้ และยังคงรักษาจุดยืนของตัวเอง หากประชามติผ่านความเห็นชอบไปแล้ว รัฐบาลยังมีสิทธิ์ร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับ ส.ส.ร. ที่ไม่ให้แก้ไขหมวดที่ 1-2 จึงมองว่าข้อเสนอนี้ เสนอด้วยความปรารถนาดี เพื่อให้การจัดรัฐธรรมนูญฉบับใหม่สำเร็จ ในการทำประชามติครั้งแรกผ่าน" นายพริษฐ์ ระบุ
 

logoline