svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"เรืองไกร-ธีรยุทธ" ยื่น กกต. ยุบพรรคก้าวไกล หลังศาลตัดสินล้มล้างการปกครอง

01 กุมภาพันธ์ 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"เรืองไกร -ธีรยุทธ" บุก กกต. ยื่นยุบพรรคก้าวไกล หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้นโยบายหาเสียงแก้ ม.112 เท่ากับล้มล้างการปกครอง ขณะที่ "ตะวัน-แบม" มาแสดงเชิงสัญลักษณ์ ขอให้ศาลลงโทษประหาร ด้านสนธิญา จ่อ ยื่น ป.ป.ช. ฟันจริยธรรม

1 กุมภาพันธ์ 2567 รู้ผลคำตัดสินไปเป็นที่เรียบร้อยวานนี้ (31ม.ค.) หลังศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติเป็นเอกฉันท์ วินิจฉัยให้ "นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล รวมถึงพรรคก้าวไกล ใช้นโยบายหาเสียงรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 เป็นการล้มล้างการปกครอง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง พร้อมทั้งสั่งให้ยุติธรรมการกระทำดังกล่าว ตามมาตรา 49 วรรคสอง

ล่าสุด "นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ" สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางเดินมายื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสิน โดยระบุว่า พิจารณาแล้วเห็นว่า การยกเลิกมาตรา 112 เป็นการกระทำที่ไม่ควร อีกทั้งการแก้ไขกฎหมายก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ จึงถือเป็นกระบวนการที่ไม่ชอบ 

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ

 

"วันนี้จึงเดินทางมายื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค เช่นเดียวกับกรณีการสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ เนื่องจากพรรคก้าวไกลได้กระทำการผ่าฝืน พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) และเข้าข่ายจะต้องเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรรมการบริหารพรรคก้าวไกลหรือไม่" นายเรืองไกร ระบุ 

อย่างไรก็ตาม ย้ำว่า กกต. ต้องทำตามหน้าที่และอำนาจ ไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพราะถือเป็นความที่ปรากฏแล้ว  ดังนั้น จะอยู่เฉยไม่ได้ ทั้งนี้ กกต.ไม่ได้ผิดที่เคยยกคำร้องก่อนหน้านี้ เพราะเป็นดุลยพินิจในชั้นของนายทะเบียน จากนี้จึงขอให้ไปดำเนินการต่อ และหลังจากนี้ตนก็จะไปร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อไป

ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองอื่น รวมถึงพรรคเพื่อไทยมีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ด้วยนั้น ขณะนี้กำลังเก็บรวบรวมหลักฐานอยู่ ไม่ต้องห่วง หากมีน้ำหนักพอ ก็จะยื่นเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ซึ่งรวมถึง "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และ "น.ส.แพทองธาร ชินวัตร" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เคยหาเสียงในประเด็นแก้ไขมาตรา 112 ด้วย

\"เรืองไกร-ธีรยุทธ\" ยื่น กกต. ยุบพรรคก้าวไกล หลังศาลตัดสินล้มล้างการปกครอง

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่นายเรืองไกร กำลังให้สัมภาษณ์และยื่นคำร้องอยู่นั้น "น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์" หรือ "ตะวัน กลุ่มทะลุวัง" และ "น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ "แบม" สองนักกิจกรรมการเมือง ได้เดินทางมาเรียกร้องให้ประหารชีวิตตนเอง โดยได้ใช้เชือกผูกพันธนาการที่ข้อมือและลำคอ เพื่อทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ พร้อมกล่าวว่า เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญได้มีการกล่าวอ้างถึงชื่อของตน 2 คน ถึงพฤติกรรม รวมถึงกิจกรรมก่อนหน้านี้ ที่ได้ดำเนินการจัดทำแผ่นป้าย ข้อความ "คิดว่ามาตรา 112 ควรแก้ไขหรือยกเลิก"

ขณะเดียวกัน ยังได้นำสติ๊กเกอร์มาให้ติดเพื่อแสดงความเห็น ซึ่งรวมถึงการเชิญชวนให้นายพิธา นำสติ๊กเกอร์ไปแปะด้วย ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง ล้มล้างการปกครอง จึงขอให้ เปาบุ้นจิ้น ได้ทำการประหารตนแทนคนอื่นๆ ที่ทำกิจกรรมการเมืองแล้วถูกจับติดคุกอยู่ตอนนี้ด้วยเถิด

\"เรืองไกร-ธีรยุทธ\" ยื่น กกต. ยุบพรรคก้าวไกล หลังศาลตัดสินล้มล้างการปกครอง

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีกลุ่ม ศปปส. ที่เดินทางมาติดตามการยื่นคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ที่จะให้ กกต. พิจารณายุบพรรคก้าวไกลเช่นกัน  

สำหรับบรรยากาศที่ศูนย์ราชการ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ มาคอยดูแลความปลอดภัย เพื่อป้องกันความวุ่นวาย

สนธิญา จ่อยื่นป.ป.ช. 2 ก.พ. ฟันจริยธรรม 44 สส.ก้าวไกล แก้112

นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (2 ก.พ.67) เวลา 10.30 น. ตนจะเดินทางไปสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อร้องสอบจริยธรรม สส. 44 คนของพรรคก้าวไกล ที่ร่วมกันเข้าชื่อเสนอแก้ไขร่างพ.ร.บ.พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่..) พ.ศ. ... เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

เนื่องจากกรณีดังกล่าวเคยยื่นคัดค้านการจดทะเบียนพรรคอนาคตใหม่ เมื่อปี 2561 ไปแล้ว ซึ่งขณะนั้น นายปิยบุตร แสงกนกกุล ได้มีแนวคิดที่จะแก้มาตรา 112 หาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับจดทะเบียนพรรคการเมือง จะทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยต่อสถาบัน

“เป็นจริงดังที่ผมคัดค้านตั้งแต่เริ่มต้น มรดก 112 จึงมาถึงพรรคก้าวไกล แล้วถูกศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยเป็นการกระทำที่ล้มล้างการปกครอง และตนเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่นักการเมืองที่มีส่วนร่วมเหล่านี้ทั้งหมด ต้องยุติการทำงานการเมืองไปตลอดชีวิต จึงจะไปร้อง ป.ป.ช. ในวันพรุ่งนี้ (2 ก.พ.67)” นายสนธิญา กล่าว

\"เรืองไกร-ธีรยุทธ\" ยื่น กกต. ยุบพรรคก้าวไกล หลังศาลตัดสินล้มล้างการปกครอง

"ธีรยุทธ" จี้ กกต. ยุบพรรคก้าวไกล

ขณะที่นายธีรยุทธ สุววรรณเกษร ในฐานะผู้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและพรรคก้าวไกล กระทำการล้มล้างการปกครองฯ เดินทางไปยื่นคำร้องต่อประธานกกต.และกกต.เพื่อขอให้พิจารณาดำเนินการกับพรรคก้าวไกล ตามอำนาจหน้าที่เพื่อให้เป็นไปตามคำวิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ได้อ่านเมื่อวันที่ 31 ม.ค.2567 (เรื่องพิจารณาที่ 19/2566) 

นายธีรยุทธ กล่าวว่า จากการศึกษารายละเอียดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสอง คือ นายพิธาในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล รวมถึงพรรคก้าวไกล เป็นการกระทำใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลนี้มีผลผูกพันกกต.ด้วย

ดังนั้นเนื่องจากตนเป็นคนหลักที่ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องดังกล่าว จึงมองว่าเป็นเรื่องผูกพันที่จะต้องดำเนินการให้ครบถ้วนตามสิทธิที่พึงมีตามรัฐธรรมนูญจึงได้ทำคำร้องเพื่อนำเสนอต่อกกต.พร้อมเอกสารกว่า 100 หน้า มายื่นต่อกกต. เพื่อบังคับการกับพรรคก้าวไกลให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ให้เป็นไปตามพ.ร.ป.ว่า ด้วยพรรคการเมือง 2562 มาตรา 92 วรรค 1 ซึ่งบัญญัติว่าเมื่อ คณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น โดยอนุ 1 กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ดังนั้นตนเห็นว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของกกต.ที่ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ โดยยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้ศาลพิจารณาสั่งยุคพรรคก้าวไกล ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2562 มาตรา 92 วรรค 1

เมื่อถามความเห็นต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา นายธีรยุทธ กล่าวว่า กรณีที่ศาลมีคำวินิจฉัย ออกมาเมื่อวานนี้(31 ม.ค.) ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐานซึ่งเกิดขึ้นจากการกระทำ ของนายพิธาและพรรคก้าวไกลเอง

ปัดเปิดทางร้อง "ยุบพรรคก้าวไกล"

เมื่อถามว่า มีการมองว่า การยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญของนายธีรยุทธจะเป็นตัวเปิดเส้นทางให้มีการยื่นคำร้องให้ในการยุบพรรคก้าวไกล เดิมทีวัตถุประสงค์เพื่อให้ยุบ หรือแค่ต้องการให้ยุติการกระทำ นายธีรยุทธ กล่าวว่า เบื้องได้ยื่นคำร้องต่อศาลโดยคิดว่าขอให้ศาลท่านโปรดเมตตาพิจารณาสั่งการเพื่อให้หยุดการกระทำเหล่านั้น แต่เนื่องด้วยหลายปัจจัย

อีกทั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนได้นั่งอ่านคำวินิจฉัยของศาลอย่างละเอียดเห็นว่า เมื่อศาลได้โปรดพิจารณาวินิจฉัยให้แล้ว ในขณะที่เราอยู่ในฐานะผู้ร้องก็เห็นว่า มีความผูกพันตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นโดยตรง กระบวนการต่อไปก็ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามที่วินิจฉัยนั้น จึงทำหน้าที่ตามหน้าที่ที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดว่าผู้ใดทราบเหตุก็ให้ยื่นคำร้องต่อเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตนจึงได้เดินทางมายื่นต่อกกต.ในวันนี้ 

เมื่อถามว่า ในอนาคตหากกกต.มีการส่งศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณายุบพรรคก้าวไกล กังวลหรือไม่ว่าจะทำให้เกิดความวุ่นวายอีกครั้ง นายธีรยุทธ กล่าวว่า ตนไม่ได้กังวลใจ เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมาเป็นการวางบรรทัดฐานการเมืองการปกครองของประเทศไทย ดังนั้นเมื่อพรรคก้าวไกล หรือสมาชิกพรรค หรือผู้สนับสนุน หรือผู้นิยมชื่นชอบพรรคก้าวไกล อยู่ในฐานะที่จะต้องปฏิบัติและยึดถือบรรทัดฐานการเมืองการปกครองของไทยซึ่งแม้ว่าจะเกิดขึ้นจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ตนก็เชื่อว่าหลักการนี้ก็ปรากฏอยู่ในข้อบังคับของพรรคก้าวไกลด้วยอยู่แล้ว  ดังนั้นการที่จะมีผลกระทบหรือจะกระทบกระทั่งกันอย่างไรก็เป็นเรื่องปัจเจกบุคคล ที่คนนั้นควรจะพิจารณาระลึกถึงบ้าง

ไม่ปิดปิดประตูแก้ 112

เมื่อถามว่า มีนักวิชาการบางคนมองว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญสร้างบรรทัดฐานใหม่ ว่าจะแก้ไขมาตรา 112 ไม่ได้อีกทั้งในและนอกสภา นายธีรยุทธ กล่าวว่า แสดงว่านักวิชาการท่านนั้นไม่ได้อ่าน หรือไม่ได้ฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญโดยละเอียด อาจจะฟังแบบผิวเผิน ตนก็ได้แต่บอกว่าขอให้กลับไปฟังให้หลายๆ รอบ เพราะบรรทัดสุดท้ายห้วงก่อนจะจบ ท่านวินิจฉัยโดยบอกว่าไม่ได้ปิดประตู แต่การจะแก้ไขต้องเป็นไปตามครรลองนิติบัญญัติโดยชอบ ซึ่งคำว่านิติบัญญัติโดยชอบ คือต้องเป็นฉันทามติเลยอย่างแรก

คนที่คิดจะแก้ไขมาตรา 112 นั้นศาลท่านก็วินิจฉัยชัดเจนอยู่ว่ามีเจตนาซ่อนเร้น อย่างอื่นอันมีนัยยะสำคัญ ซึ่งประชาชน โดยทั่วไปอาจจะยังไม่ทราบถึง เพราะฉะนั้นตนคิดว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญ ที่เป็นครูบาอาจารย์ เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นผู้มีความรู้เชี่ยวชาญหลักนิติ อีกทั้งก่อนจะทำคำวินิจฉัยเช่นนี้ ทราบจากเนื้อหาคำวินิจฉัยว่ามีการประชุมเพื่อพิจารณาคำร้องของตนโดยใช้เวลาถึง 62 ครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนมาก

ดังนั้นเห็นว่า มีการพิจารณาโดยละเอียดรอบด้านมีข้อมูลจากหลายหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานศาลยุติธรรม หรือศาลยุติธรรมก็ส่งเข้ามา และศาลท่านก็สามารถหยิบยกขึ้นมาพิจารณาโดยละเอียด

เตรียมยื่น ป.ป.ช. ฟันจริยธรรม 44 สส. ก้าวไกล

นายธุรยุทธ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 2 ก.พ. เวลา 10.00 น. จะเดินทางไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบและเอาผิดจริยธรรมของพรรคก้าวไกล และสส.พรรคก้าวไกล 44  คน ที่ร่วมเสนอชื่อแก้ไขกฎหมาย 112 รวมถึงนายพิธา ด้วย เนื่องจากเห็นว่า เป็นการกระทำเข้าข่ายฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง เชื่อว่า จะเหมือนกับกรณีของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ที่ใช้เวลาในการพิจารณาไม่นาน

logoline