svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เขาเป็นใคร? รู้จัก "ธีรยุทธ สุวรรณเกษร" ผู้ร้องคดี "พิธา-ก้าวไกล" หาเสียงแก้ 112

เขาเป็นใคร? รู้จัก "ธีรยุทธ สุวรรณเกษร" ผู้เป็นจุดเริ่มต้น ร้องคดี "พิธา-ก้าวไกล" หาเสียงแก้ 112 พร้อมย้อนเบื้องลึก วัตถุประสงค์คืออะไร แล้วผลที่ออกมาจะนำไปสู่การยุบพรรคสีส้มหรือไม่?

31 มกราคม 2567 หลังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยคดีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ถือหุ้นสื่อบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน ) โดยศาลมีมติเสียงข้างมาก (8 ต่อ 1) ว่า การถือครองหุ้นสื่อของนายพิธา ไม่ขัดต่อต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 89 (3) เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธาไม่สิ้นสุดลง ด้วยเหตุบริษัทไอทีวีไม่ได้ประกอบกิจการสื่อ 

ในวันนี้ (31 ม.ค.) มีอีกคดีร้อนที่ต้องจับตามอง คือคดีที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความพระพุทธะอิสระ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญตามมาตรา 49 ว่า การกระทำของ นายพิธา ขณะเป็น หัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่
เขาเป็นใคร? รู้จัก "ธีรยุทธ สุวรรณเกษร" ผู้ร้องคดี "พิธา-ก้าวไกล" หาเสียงแก้ 112
โดยศาลเริ่มประชุมในเวลา 09.30 น. แถลงด้วยวาจา ลงมติ และจัดทำคำวินิจฉัย ก่อนออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในเวลา 14.00 น. โดยคณะตุลาการทั้ง 9 ท่าน มีมติ ชี้การกระทำ พิธา และพรรคก้าวไกล เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง จึงมีคำสั่งให้ ยุติการกระทำดังกล่าว  

Nation STORY ขอพาไปทำความรู้จักกับ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความของนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีตพระพุทธอิสระ พร้อมย้อนคำสัมภาษณ์ ถึงเจตนารมณ์ที่ยื่นคำร้องดังกล่าว 

รู้จัก "ธีรยุทธ สุวรรณเกษร"

เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา นายธีรยุทธ เคยให้สัมภาษณ์กับทาง "บีบีซีไทย" โดยทนายความอิสระท่านนี้ ให้ข้อมูลว่า เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง เริ่มว่าความมาตั้งแต่ปี 2543 

ต่อมา ในปี 2556 นายธีรยุทธร่วมอุปสมบทหมู่ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม โดยมี "พระพุทธอิสระ" หรือ พระสุวิทย์ ธีรธัมโม เจ้าอาวาส (ชื่อและตำแหน่งในขณะนั้น) เป็นองค์บรรยายธรรม พอครบ 2 เดือน นายธีรยุทธก็ลาสิขา กลับมาว่าความเลี้ยงชีพเหมือนเดิม

จนวันหนึ่ง โยมอุปัฏฐากของพระพุทธะอิสระ ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมของนายธีรยุทธ ได้ติดต่อมว่า "หลวงปู่" ต้องการจะหาทนายความ พร้อมชวนให้ไปพบเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย 

"พอไปถึง มีเวลาสนทนากับท่านไม่ถึง 2 นาที ตอนท่านทดสอบ ท่านส่งเอกสารให้ดู 2 ฉบับ แล้วบอกว่า เดี๋ยวจะออกมาถามหลังจัดรายการธรรมะเสร็จ พอท่านออกมา ก็ถามว่าดูแล้วเป็นยังไงบ้าง ผมตอบไปประโยคเดียวว่า เจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ครับ ท่านหันไปมองลูกศิษย์ที่เป็นเพื่อนผมแล้วพูดว่า เดี๋ยววันจันทร์ มึงไปกะกู"  - นายธีรยุทธ เล่าให้บีบีซีไทยฟัง

สำหรับเอกสาร 2 ฉบับ ที่พระอาจารย์ ส่งให้อดีตพระลูกวัด ซึ่งเป็นทนายความนั้น คือ พระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชเมื่อปี 2542 ที่ชี้ว่า วัดพระธรรมกาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มิได้ปฏิบัติตามพระบัญชา ซึ่งในช่วงเวลานั้น "พระพุทธอิสระ" ได้ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ตรวจสอบ "วัดพระธรรมกาย" และ "มหาเถรสมาคม" กรณีไม่ให้พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ต้องปาราชิกขาดจากความเป็นพระสงฆ์

จากนั้น ก็มีการทดสอบหลายครั้ง กระทั่ง นายธีรยุทธ ได้เป็นทนายความของ "พระพุทธอิสระ" และวัดอ้อน้อย

ย้อนฟังเบื้องลึกจากปาก "ธีรยุทธ" 
ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายอิสระ เจ้าของคำร้องขอให้ศาลรธน.วินิจฉัย ปม พิธา และก้าวไกล รณรงค์หาเสียงแก้ม.112

นายธีรยุทธ เคยให้สัมภาษณ์กับทาง "เนชั่นทีวี" ถึงเหตุผลและเป้าหมายสำคัญที่จำเป็นต้องยื่นคำร้องดังกล่าวต่อ "ศาลรัฐธรรมนูญ" ปม "พิธา-ก้าวไกล" หาเสียงแก้ไขมาตรา 112 

โดยทนายความอิสระท่านนี้ ระบุว่า เราต้องการที่จะให้เกิดความชัดเจนขึ้นในสังคมเสียก่อนว่า พฤติกรรม หรือการดำเนินการของพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะคุณพิธา มีเจตจำนงสิ่งใดแน่ เขายืนยันว่าเพียงแต่แก้ไข ไม่ได้มีความประสงค์จะยกเลิก แต่ปรากฎว่าญัตติการเสนอร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ตามที่พรรคก้าวไกลได้นำเสนอต่อรัฐสภา มีความประสงค์ ที่จะยกเลิกมาตรา 112 
ร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ที่พรรคก้าวไกล ได้เสนอไว้ต่อสภา เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ ทนายธีรยุทธ นำมาประกอบคำร้อง ต่อศาลรธน.

"ผมได้สำเนาร่างกม.ฯ ของพรรคก้าวไกลมา เมื่อมาตรวจดู สิ่งที่พบเห็นอย่างแรก คือ ไม่ใช่การแก้ไข ยืนยันได้อย่างที่หลายท่านเห็นแล้วว่า มีความประสงค์ ยกเลิก เราได้ติดตามฟัง การให้สัมภาษณ์ การให้ข่าว หรือการพูดแนวนโยบายของพรรค ยิ่งมีความชัดเจนมากขึ้น มีความประสงค์อย่างอื่น ที่ซ่อนเร้น ไม่แจ้งแก่ประชาชนอย่างละเอียด" นายธีรยุทธ กล่าว

นายธีรยุทธ ยังชี้ให้เห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ฉบับก้าวไกล เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญแสดงให้เห็นพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเทียบเคียงได้กับคำวินิจฉัยศาลรธน.สองฉบับก่อนหน้านี้ 

เราคุ้นชินในการอ่านคำวินิจฉัยของศาล รธน. อยู่สองฉบับ ฉบับแรก เป็นคำวินิจฉัย "ยุบพรรคไทยรักษาชาติ" อีกฉบับเป็นคำวนิจฉัยที่ 19 /2564 เกี่ยวกับ เรื่องการเรียกร้อง 10 ข้อ ที่เกิดขึ้นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต สิ่งที่เห็นสองคำวินิจฉัย ศาล รธน.จะกล่าวหลายครั้งหลายบรรทัดเพื่ออธิบายคำหนึ่งที่เป็นคำสำคัญ ที่ท่านวินิจฉัยไว้ พฤติกรรมอันเป็นการกัดเซาะ บ่อนทำลาย ด้อยค่า สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งคำวินิจฉัยทั้งสองฉบับ ท่านพูดไว้ในบรรทัดเหล่านี้จำนวนมาก

เนื้อหาตอนหนึ่งของคำวินิจฉัยศาลรธน.ที่ 9/2564 ชี้ให้เห็นถ้อยความสำคัญ กัดเซาะ บ่อนทำลาย ด้อยค่า การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงสั่งให้กลุ่มแนวร่วมฯยุติการกระทำนั้นเสีย
เนื้อหาส่วนหนึ่งของคำวินิจฉัยศาลรธน. ให้ยุบ"พรรคไทยรักษาชาติ"
เมื่อพิจารณาจากคำวินิจฉัย "พรรคไทยรักษาชาติ" ศาล รธน.วางคำวินิจฉัยไว้อย่างชัดเจนว่า นโยบายที่แสดงออก ไม่ว่าด้วยสมาชิกพรรคก้าวไกลเอง ในขณะหาเสียง หรือคุณพิธา หรือกรรมการบริหารพรรค เมื่อได้พูดแนวนโยบายใดออกไปแล้ว เมื่อแนวนโยบายนั้นสอดคล้องต้องกัน หากเกิดความเสียหาย หรือความไม่ถูกต้อง การฝ่าฝืนต่อรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายใด ณ จุดใด กรรมการบริหาร หัวหน้าพรรค และตัวพรรคก้าวไกลจำเป็นต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น
ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายอิสระ เจ้าของคำร้องขอให้ศาลรธน.วินิจฉัย ปม พิธา และก้าวไกล รณรงค์หาเสียงแก้ม.112
ทั้งนี้ คำวินิจฉัย ศาล รธน. ทั้งสองฉบับ มีผลผูกพันทุกองค์กร ทำให้นายธีรยุทธ มองว่า การกระทำของนายพิธา และ พรรคก้าวไกล จะเผชิญชะตากรรมเดียวกัน กับพรรคไทยรักชาติ และกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์

นายธีรยุทธ กล่าวอีกว่า หาก ศาล รธน. วินิจฉัยให้ นายพิธา และพรรคก้าวไกล หยุดการกระทำแก้ไขมาตรา 112 จะส่งผลไปถึงอีกคำร้องที่ตนได้ยื่นไว้กับ กกต. โดยคำร้องดังกล่าว ยังอยู่ในสารบบของกกต. 

ฉะนั้น เป้าหมายของนายธีรยุทธ ไม่เพียงแค่ให้ศาล รธน. มีคำวินิจฉัยสั่ง นายพิธาและพรรคก้าวไกล เลิกการกระทำแก้ไข ม.112 เท่านั้น แต่ยังหวังว่า กกต. จะรับลูกคำวินิจฉัยของศาลรธน. เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ "ยุบพรรค" ต่อไป 
เขาเป็นใคร? รู้จัก "ธีรยุทธ สุวรรณเกษร" ผู้ร้องคดี "พิธา-ก้าวไกล" หาเสียงแก้ 112
ถึงวันนี้ ทุกคนคงจะได้รู้คำตอบแล้วว่า ศาล รธน. มีคำวินิจฉัยออกมาอย่างไร หลังจากนี้คงต้องดูกันต่อว่า เรื่องนี้จะไปถึงขั้น ก้าวไกลโดน "ยุบพรรค" หรือไม่?


อ้างอิงจาก : https://www.bbc.com/thai/articles/c881x2kd1xmo