
23 มกราคม 2567 สืบเนื่องจากวันที่ 24 ม.ค. ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ถูกร้อง) เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อสารมวลชนใดๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่
ล่าสุด พรรคก้าวไกล เปิดหลักฐาน 6 ข้อ ที่ทำให้พรรคเชื่อมั่นว่า "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล รอดปมหุ้นสื่อไอทีวี
โดยเมื่อ วันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา พรรคก้าวไกล เผยแพร่คลิปความยาว 7.03 นาที ชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมเชื่อมั่นว่า นายพิธา จะรอดพ้นจาก คดีหุ้นสื่อ (ไอทีวี) ได้กลับมาเป็น สส. และอาจได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในรัฐสภาอีกครั้ง
โดยคลิปดังกล่าว มีการยกผลโพลต่างๆ ที่สะท้อนความนิยมของ นายพิธา และพรรคก้าวไกล จนกระทั่งพรรคก้าวไกล คว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง 24 พ.ค.66 และระบุด้วยว่า มีกระบวนการพยายามทำให้ นายพิธา หลุดจากการเป็น สส. ส่งผลเชิงจิตวิทยาต่อการโหวตนายกรัฐมนตรี จากการถูกกล่าวหาว่า ถือหุ้นสื่อมวลชน
นอกจากนี้ ยังมีคลิปวิดีโอ "ไอทีวี" ออกอากาศวันสุดท้ายในวัน 14 มกราคม 2551 พร้อมยกเหตุผล 6 ข้อ ชี้ว่า ไอทีวี ไม่มีสถานะเป็นสื่อมวลชนแล้ว
1. ไอทีวี ไม่ใช่สื่อ
2. ไอทีวี ไม่มีคลื่นความถี่
3. ไอทีวี ไม่มีใบอนุญาต
4. ไอทีวี ไม่มีรายได้จากการทำสื่อ
5. พิธา ถือหุ้นในฐานะผู้จัดการมรดก
6. ถ้าพิธาถือหุ้นจริง ก็ถือเพียง 0.00348 % ไม่สามารถสั่งการครอบงำใดๆได้
ตอนนี้ไม่มี ไอทีวี นายพิธา ก็ไม่เคยไปดีเบตในช่องไอทีวี ไม่เคยใช้ไอทีวีสร้างความนิยมให้ตนเองและพรรค หรือออกข่าวใส่ร้ายป้ายสี สร้างความเสียหายแก่คนอื่น พรรคอื่น ตอนท้ายของคลิปที่ต่อตัดโดยพรรคก้าวไกล สรุปว่า "ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรือกังวล ขอให้รอติดตามการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ วันที่ 24 ม.ค.นี้ เวลา 14.00 น."