svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ราเมศ" ย้ำงานเป็นเครื่องพิสูจน์ ขอมั่นใจ "เฉลิมชัย" นำพรรคก้าวไปข้างหน้า

12 ธันวาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ราเมศ" ย้ำการทำงานเป็นเครื่องพิสูจน์ ขอสมาชิกมั่นใจ "เฉลิมชัย"นำ"ประชาธิปัตย์"ก้าวไปข้างหน้าได้ รับเป็นนโยบายตัวเอง ลบรายชื่อของนักข่าวออก แจง ดำเนินการมากว่า 2 เดือนแล้ว ไม่มีอะไรผิดปกติอย่างที่เป็นข่าว

12 ธันวาคม 2566 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงสถานการณ์ในพรรค ว่า เรื่องสมาชิกพรรคลาออกนั้น เคารพในการตัดสินใจ ซึ่งอาจจะมีเหตุผลส่วนตน ได้แต่หวังว่า วันหนึ่งจะได้กลับมาร่วมในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคในวันข้างหน้า

สำหรับในส่วนของพรรคต้องย้ำว่า เมื่อผ่านกระบวนการขั้นตอนการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคตามกฎหมายและข้อบังคับพรรคแล้ว ทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบ ทำงาน มุ่งมั่น ฟื้นฟู พัฒนาพรรค ให้ก้าวเดินต่อไป ซึ่งเวลาและการทำงานจะเป็นเครื่องพิสูจน์ พรรคพร้อมรับฟังทุกความคิดเห็น เพื่อนำไปสู่การทำงานที่มีจุดมุ่งหมายที่สำคัญคือการพัฒนาพรรคให้ดีขึ้นในวันข้างหน้า

นายราเมศ กล่าวต่อ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อาสามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ทั้งๆ ที่ไม่อยากเข้ามารับตำแหน่ง แต่เมื่อสมาชิกเรียกร้องต้องการให้เข้ามาเพื่อช่วยนำพาพัฒนาพรรค จึงยินยอมเสียสละอาสาเข้ามาทำหน้าที่ เชื่อว่าหากสมาชิกได้เห็นถึงความตั้งใจในการทำงานของนายเฉลิมชัย ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ที่ทำงานให้พรรคมายาวนาน ทุกคนก็จะต้องร่วมกัน ช่วยกันคนละไม้ละมือทำงานเพื่อให้พรรคดีขึ้น

เมื่อพรรคมีกฎเกณฑ์ กติกา กระบวนการเลือกหัวหน้าพรรค และทุกอย่างจบ หน้าที่ของทุกคนในพรรค ก็ต้องหาวิธีการช่วย สนับสนุน ตามภาระหน้าที่ที่ทุกคนสามารถทำได้ เวลานี้ต้องมองถึงอนาคตของพรรคเป็นสำคัญ เพราะคนที่เป็นผู้บริหารมาแล้วก็ไป แต่พรรคประชาธิปัตย์ยังต้องอยู่

"ดังนั้น เมื่อโจทย์ใหญ่สำคัญที่สุดคือพรรคประชาธิปัตย์ต้องอยู่ต่อไป ทุกคนในพรรคก็ต้องช่วยกันด้วยความมีเอกภาพ ส่วนผู้บริหารมีความท้าทายที่สำคัญคือการทำงานอย่างหนัก เพื่อให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ หากทำไม่ได้สมาชิกพรรคไม่ยอมรับ หรือไม่ประสบความสำเร็จ ก็ต้องสิ้นสุด และมีกระบวนการเลือกผู้บริหารพรรคชุดใหม่ ระบบประชาธิปไตยในพรรคก็เป็นเช่นนี้ และนายเฉลิมชัยก็พร้อมพิสูจน์ด้วยการทำงาน ในส่วนการยึดอุดมการณ์ของพรรค คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ย่อมใช้เป็นแนวทางในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอยู่แล้ว จึงขอให้สมาชิกรวมใจกัน จับมือกัน ร่วมกันทำงานสนับสนุนให้พรรคก้าวไปสู่ความมั่นคงต่อไป" นายราเมศ กล่าว

นายราเมศ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้พรรครอขั้นตอนกระบวนการของนายทะเบียนพรรคการเมืองอยู่ เมื่อกระบวนการแล้วเสร็จ ก็จะได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคนัดแรก ก็เชื่อว่าจะเห็นแนวทางชัดเจนยิ่งขึ้นว่าแนวทางการทำงานของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะเป็นไปในทิศทางใด และตนจะได้แจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนกรณีกลุ่มไลน์ส่งข่าว ของทีมประชาสัมพันธ์พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการลบรายชื่อของนักข่าวออกนั้น นายราเมศ ชี้แจงว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายของตน ซึ่งได้ดำเนินการมากว่า 2 เดือนแล้ว ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สื่อมวลชนที่พรรคจะทราบดี ไม่ใช่เพิ่งมาทำ เนื่องจากในกลุ่มสื่อมวลชน ปชป. เก่านั้น มีทั้งสื่อมวลชนและมีบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่สื่อรวมอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ใครคิดจะส่งข่าวสื่อสารอะไรก็ส่งกันตามอำเภอใจ ซึ่งก็มีสื่อมวลชนร้องเรียนถึงปัญหาดังกล่าวมาส่วนหนึ่ง ทำให้ตนต้องการแก้ปัญหาในเรื่องนี้

ที่สำคัญในฐานะพรรคการเมือง โดยเฉพาะเรื่องการสื่อสารประชาสัมพันธ์ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการกำหนดทิศทางการทำงานของพรรคให้มีความชัดเจน และมีความเป็นเอกภาพ บางครั้งพรรคมีเรื่องสำคัญที่กำลังรอชี้แจง แต่ก็มีการนำเสนอข่าวออกไปก่อน และปรากฏว่า เป็นไปคนละแนวทางกับทิศทางของพรรค ทำให้สื่อมวลชน ตลอดจนสมาชิกพรรค และพี่น้องประชาชนเกิดความสับสน โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์เองก็เกิดความเสียหาย อันเนื่องมาจากความสับสนที่เกิดขึ้นจากปัญหาดังกล่าว

“ผมเห็นปัญหาในเรื่องนี้มาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จึงมีความตั้งใจว่าจะสร้างมาตรฐานสิ่งนี้ไว้ เพื่อส่งต่อให้กับพรรค เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยเดิมอีก พร้อมกับย้ำว่า มีการตั้งกรุ๊ปไลน์สำหรับสื่อมวลชนก่อนลบกรุ๊ปไลน์เดิมมาเป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรผิดปกติดังที่เป็นข่าว” นายราเมศ กล่าว

logoline