"ชวน" เสียดาย "สาธิต" ลาออก พร้อมเป็นกำลังใจ "มาร์ค-มาดามเดียร์" อย่าวางมือ

10 ธันวาคม 2566 นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคฯ กล่าวภายหลังประชุมใหญ่พรรคประชาธิปัตยื มีมติให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรคฯ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคฯ คนใหม่ จนมีผู้ประกาศลาออกจากพรรคฯ ว่า ตอนนี้ ยังไม่ทราบจะมีใครลาออกอีกกี่คน แต่ยอมรับว่า รู้สึกเสียดาย และตนเองก็ไม่ทราบมาก่อนว่า นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต สส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ จะลาออก

เพียงแต่เจ้าตัวบอกว่า จะไม่มาร่วมการประชุมเมื่อวาน (9 ธ.ค.) ด้วยเท่านั้น เพราะนายสาธิต เชื่อว่า ผลการประชุมทั้งหมด ถูกล็อกไว้แล้ว มาร่วมประชุม ก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ แต่ตนก็ขอร้องให้มา แต่ก็ไม่ได้คาดคิดว่า นายสาธิต จะลาออกด้วย จึงรู้สึกเสียดาย ที่พรรคฯ ต้องสูญเสียกำลังสำคัญ ซึ่งผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวกับ สส. และผู้สนับสนุนพรรคหลายคน ก็แจ้งมาว่า ขอลาออก แต่ก็เข้าใจความห่วงใยสมาชิกที่มีต่อพรรค 

เมื่อถามว่า นายสาธิต เชื่อการเลือกตั้งเมื่อวานนี้ (9 ธ.ค.) มีการล็อคไว้แล้ว การเลือกหัวหน้าพรรคเมื่อวาน จึงมีการล็อบบี้ไว้แล้วใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เชื่อว่า คงเป็นเช่นนั้น เพราะไม่ใช่เรื่องใหม่ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ก็พูดตรงไปตรงมาว่า การเลือกหัวหน้าพรรค แล้วแต่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ในฐานะอดีตเลขาธิการพรรคฯ สั่งการ เพราะเลี้ยงดูกันมา 4 ปี ซึ่งหากเป็นบุคคลที่เลขาธิการพรรคฯ สนับสนุนบุคคลนั้น ก็น่าจะได้รับชัยชนะ เมื่อนายเฉลิมชัย ยอมผิดคำพูด จึงมารับตำแหน่งเอง

นายชวน กล่าวต่อ การประกาศเจตนารมณ์ของนายเฉลิมชัย ที่จะไม่ให้พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคอะไหล่ร่วมรัฐบาล ดังนั้น ความคิดการดิ้นรนอยากร่วมรัฐบาล จึงไม่ครวรเกิดขึ้น และอุดมการณ์ของพรรคฯ เรื่องการเมืองบริสุทธิ์ และความซื่อสัตย์สุจริต จนทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการยอมรับ หรือการจะโกงทั้งโคตร โคตรโกง ก็จะไม่มีใครยอมรับ

จึงหวังว่า กรรมการบริหารพรรคฯ จะช่วยกันดูแลพรรค เพราะที่ผ่านมา มีข่าวลือเกิดขึ้นไม่น้อย พร้อมกล่าวถึงความกังวล การตกต่ำของพรรคประชาธิปัตย์มากกว่านี้ว่า "จะมีอีกหรือที่จะต่ำกว่านี้" เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้ สส.บัญชีรายชื่อเพียง 3 คน และในอนาคตไม่ควรจะต่ำกว่านี้ และครั้งนี้ควรจะเป็นผลงานของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรคฯ และนายเฉลิมชัย ในฐานะอดีตเลขาธิการพรรคฯ ที่บริหารพรรคมา

ส่วนอนาคตขอให้กรรมการบริหารพรรคยึดอุดมการณ์พรรคไว้ แม้จะไม่สามารถไว้วางใจได้เต็มที่ก็ตาม และขอให้ช่วยกันดูแลพรรค อย่าให้นำพรรคไปหากิน

ส่วนการวางบทบาทของตนเองในฐานะผู้อาวุโสของพรรคฯนั้น ตนจะพยายามช่วยประคับประคอง ให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์ สนับสนุนสิ่งที่ดี จึงตัดสินใจสนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคฯ กลับมาเป็นหัวหน้า อีกครั้ง โดยไม่รู้มาก่อนว่า นายอภิสิทธิ์ จะถอนตัวหรือไม่ แต่ได้บอกกับนายอภิสิทธิ์ว่า ตนเองจะขอเสนอชื่อ เพราะเป็นช่วงเวลาที่จำเป็นที่สังคมต้องยอมรับ

และนายอภิสิทธิ์ ก็ไม่ได้ด้อยกว่าใคร สามารถนำพาพรรคให้ดีกว่าเดิม เป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนได้ แต่ก็ไม่ได้คาดคิดว่า นายอภิสิทธิ์ จะลาออกจากพรรคด้วย แต่ขอให้กำลังใจนายอภิสิทธิ์ อย่าเพิ่งวางมือ เพราะวันเวลายังมีอยู่ เช่นเดียวกับน.ส.ทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์

ที่ตนเองรู้สึกเสียดาย เพราะชื่นชมในความพยายาม และเห็นโพยลับอย่าไปรับการลงมติ 3:4 เพื่อยกเว้นข้อบังคับของพรรคให้น.ส.วทันยา ลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค แม้จะขอร้องสมาชิกให้น.ส.วทันยา ได้มีโอกาสแข่งขันแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถทำได้ จึงตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดจึงกลัวน.ส.วทันยา เพื่อให้หัวหน้าได้มาโดยการแข่งขัน ไม่ใช่ได้มาตามโพย และให้ภาพพจน์หัวหน้าพรรคฯ มาด้วยระบบแข่งขัน พร้อมให้กำลังใจน.ส.วทันยา ยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป 

ส่วนหลังจากนี้ตนเองจะลาออกจากพรรคด้วยหรือไม่นั้น ยืนยันว่า ตนยังไม่ไปไหน และต้องอยู่ เพราะตนเป็นหนี้บุญคุณพรรค สามารถมีตำแหน่งได้ก็ด้วยพรรคประชาธิปัตย์ให้โอกาส จึงต้องอยู่ทดแทนบุญคุณพรรคประชาธิปัตย์ 

ด้าน นายชัยชนะ เดช​เดโช​ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่น.ส.วทันยา บุนนาค หรือ "มาดามเดียร์" ผู้ลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแฉมีไลน์หลุดสมาชิก ไม่ให้ยกมือสนับสนุนลงสมัครหัวหน้าพรรคว่า ข้อเท็จจริง สส. ยกมือสนับสนุนยกเว้นข้อบังคับให้น.ส.วทันยา สามารถเข้าสู่สนามแข่งชิงหัวหน้าพรรคได้ ซึ่งตนก็ได้แถลงตั้งแต่ช่วงเช้า แต่ในส่วนของสาขาพรรค ก็ต้องแล้วแต่จะตัดสินใจ

ส่วนไลน์ที่หลุดออกมานั้น นายชัยชนะ กล่าวว่า จะต้องตรวจสอบว่า ผู้กระทำเป็นใคร ซึ่งหากน.ส.วทันยา ต้องการความเป็นธรรม ก็ร้องเรียนมาได้ พรรคฯ พร้อมจะตรวจสอบให้ แต่ยืนยันว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้เลย เพราะไม่ได้มีการส่งในกลุ่มไลน์ สส.

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า มีการล็อบบี้เลือกหัวหน้าพรรคนั้น นายชัยชนะ กล่าวยอมรับว่า เป็นเรื่องที่สามารถมองกันได้ แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรเราก็ต้องไปดู 

เมื่อถามว่า จะมีสมาชิกลาออกหลังจากได้หัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น นายชัยชนะ กล่าวว่า ประชาธิปัตย์ต้องมีระยะเวลาในการเปลี่ยนแปลง 4 ปี เลือกหัวหน้าพรรคครั้งหนึ่ง เมื่อได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ทำงานให้ ทุกคนก็ต้องเต็มใจทำงานให้ หากมีบุคคลใดขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคแล้วลาออก แปลว่าไม่ได้รักองค์กร ต่อต้านผู้นำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะต้องทำงานได้กับผู้บริหารทุกคน หากรักประชาธิปัตย์ ก็ต้องอยู่กับพรรค และช่วยกันฟื้นฟูพรรค แต่หากผู้บริหารชุดใหม่ทำงานไม่ดี ก็ต้องมาพิจารณากัน

นายชัยชนะ ยืนยันว่า ยินดีน้อมรับในทุกปัญหา และการวิจารณ์ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา เพื่อให้พรรคมีเอกภาพ ให้กลับมาเป็นพรรคหลักได้เหมือนเดิม ถ้าเรามีเจตนาดี ก็ต้องมาช่วยกันแสดงความเห็น เพราะนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคฯ คนใหม่ มาเพื่อแก้วิกฤต และยืนยันว่า จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างจริงจัง

หลังจากนี้ต้องมีการพูดคุยกับทุกคนในพรรค รวมถึง นายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ในฐานะผู้ใหญ่ในพรรค ตอนนี้ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีฝ่าย และขอให้ลืมความหลัง มาพูดกันเรื่องอนาคต โดยหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารชุดใหม่ พร้อมคุยกับผู้ใหญ่ทุกคน และจะเดินหน้าปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ พร้อมจะเชิญชวนสมาชิกพรรคที่เคยลาออกกลับเข้าพรรค

ส่วนที่นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต สส.พรรคประชา​ธ​ิ​ปัตย์​ ออกมาบอกคนที่ไม่มีสัจจะ ไม่สามารถมาเป็นผู้นำได้นั้น นายชัยชนะ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของนายสาธิต ที่จะแสดงความเห็น แต่ยินดียอมรับในคำพูดของทุกคน และสิ่งที่สำคัญกว่าคำพูด คือ ผลการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคฯ ได้จำนวน สส. เท่าไร

เมื่อถามว่า ตอนนี้มีคนต่อต้านหัวหน้าพรรคคนใหม่ จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์แตกหรือไม่ นายชัยชนะ ได้ถามกลับใครต่อต้าน เพราะ สส. 23 จาก 25 คน ก็ยกมือสนับสนุน รวมถึงสาขาพรรคด้วย จึงอยากถามคนที่ลาออก ว่ารักพรรค หรือรักตัวเอง ถ้ารักพรรคต้องทำงานได้กับทุกคน เพราะคนที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคก็จะมีบางคนที่ไม่ชอบ พร้อมยืนยันว่า หากเมื่อวาน(9 ธ.ค.) ถ้าไม่ใช่นายเฉลิมชัย เป็นหัวหน้าพรรคฯ ตนก็จะไม่ลาออก และจะทำงานให้กับหัวหน้าพรรคคนใหม่ 

เมื่อถามว่า นายเฉลิมชัย ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคครั้งนี้ จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านหรือรอเป็นรัฐบาลนั้น นายชัยชนะ กล่าวว่า วันนี้เป็นฝ่ายค้านอยู่ แม้จะเคยยกมือสนับสนุนนายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนที่กล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ รอเป็นรัฐบาลต้องถามว่าใครพูด มีจุดประสงค์ดีกับพรรคหรือไม่ วันข้างหน้าเป็นอย่างไรยังไม่ทราบ แต่วันนี้ยังเป็นฝ่ายค้าน พรุ่งนี้ก็ยังทำหน้าที่ฝ่ายค้าน และอย่าไปคาดหวังว่า อนาคตจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ร่วม