ส่องแนวทาง"เพื่อไทย"คิดยังไงกับฎหมายนิรโทษกรรม

4 พฤศจิกายน 2566 ยังเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ กับขอบเขตของการนิรโทษกรรม จะครอบคลุมไปถึงผู้กระทำผิดแบบในลักษณะใด ท่ามกลางข้อเสนอจากฝ่ายค้าน อย่าง พรรคก้าวไกล ที่ต้องการให้รวมไปถึง มาตรา 112 จึงกลายเป็นเรื่องหนักอกให้กับรัฐบาล 

โดย "นายภูมิธรรม เวชยชัย" รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทย จะเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ประกบคู่กับร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกลนั้น เรื่องดังกล่าวขณะนี้ เป็นฉันทามติของหลายส่วนงานแล้วว่า ต้องการเห็นการนิรโทษกรรม และการแก้ปัญหา แต่ประเด็นการนิโทษกรรมความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นข้อขัดแย้ง ที่ยังหาข้อยุติไม่ได้ ซึ่งหลายพรรคการเมือง ก็ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคก้าวไกล และความเห็นในสังคม ก็ยังไม่มีข้อยุติ ฉะนั้น จึงต้องหาข้อยุติให้ได้ก่อน ส่วนจะเสนอร่างประกบกันอย่างไร ก็ต้องพิจารณาอีกที

ส่วนหากมีการนิรโทษกรรมความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พรรคเพื่อไทย ก็จะไม่เห็นด้วยใช่หรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวย้ำว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันชัดเจนแล้วว่า เรื่องใดที่เป็นความขัดแย้งในสังคม ต้องมีข้อยุติก่อน ซึ่งถ้าทุกภาคส่วนมีความชัดเจนว่า ทุกคนเห็นด้วยและเข้าใจ ก็พร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว เพราะพรรคเพื่อไทย ไม่ต้องการเห็นการสร้างความขัดแย้งขึ้นมาใหม่ 

ส่วนกรณีที่พรรครวมไทยสร้างชาติยังติดใจเรื่องคดีทุจริต และการชุมนุมทางการเมืองเมื่อเดือนเม.ย. 2553 พรรคเพื่อไทยยังคงติดใจใด ๆ หรือไม่นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า จะต้องรอดูในรายละเอียดว่า มีเหตุมีผลที่สมควรหรือไม่ 

ขณะที่ "นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว" รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ก็ขึ้นอยู่กับทางฝ่ายกฎหมายและผู้บริหารพรรค ว่าเห็นควรอย่างไร จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องเสนอเป็นร่างของพรรคเพื่อไทย ซึ่งก็ต้องไปพิจารณาในรายละเอียด เนื่องจากเนื้อหาสาระของแต่ละร่าง อาจแตกต่างกัน ก็เป็นกลไกของสภาว่าจะใช้ร่างใดเป็นหลัก 

ส่วนการพูดคุยถึงเรื่องนี้ภายในพรรคเพื่อไทย โดยเท่าที่ทราบ ยังไม่น่ามีการพูดคุยกัน น่าจะเป็นแนวคิดของเลขาธิการพรรค ที่อาจจะมีการนำเสนอ 

สำหรับการนิรโทษกรรมจะสามารถเดินต่อไปได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่จะต้องดำเนินการ ถ้าเป็นสิ่งที่ได้ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ก็ไปได้ หากเกิดประโยชน์โดยรวม แต่หากเป็นความเห็นที่นำไปสู่ความขัดแย้ง การนิรโทษฯ ก็จะเป็นไปไม่ได้ ซึ่งก็ต้องลดข้อจำกัดลง 
 

ย้ำจุดยืนชาติไทยพัฒนาต้องไม่เกี่ยวกับ ม.112-ความเสียหายร้ายแรง

ด้าน "นายวราวุธ ศิลปอาชา" รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย เตรียมเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ประกบกับร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกล ว่า จุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนา การจะนิรโทษกรรมใด ๆ นั้น จะต้องไม่เกี่ยวข้องกับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือความผิดที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายร้ายแรง

ทั้งนี้ ส่วนตัวยังไม่ทราบรายละเอียดเนื้อหาในร่างกฎหมายที่พรรคเพี่อไทยจะเสนอ จึงยังต้องขอเวลาไปศึกษาก่อน ส่วนที่หลายฝ่ายไม่อยากให้นำเรื่องการทุจริตเข้ามาอยู่ในร่างกฎหมายนั้น เห็นว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น และอาจจะเป็นคนละประเด็นกัน

หนุนปลดปล่อยคนมีความเชื่อทางการเมือง-ยุติธรรมช่วงเปลี่ยนผ่าน

"นายนิกร จำนง" ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า เรื่องนี้ได้พูดคุยกันมาตั้งนานแล้ว และพรรคก็ได้เดินสายพูดคุยถึงแนวทางการสร้างความปรองดอง ตั้งแต่สมัย "นายบรรหาร ศิลปอาชา" เป็นหัวหน้าพรรค โดยเห็นด้วยกับการนิโทษฯ คนที่มีความเชื่อทางการเมือง ความยุติธรรมในช่วงเปลี่ยนผ่าน แต่ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษฯ ให้ผู้ที่มีความผิดเกี่ยวกับ มาตรา 112 และความผิดรุนแรงถึงขั้นสูญเสียชีวิต รวมถึงการชุมนุมที่ทำให้เอกชนเสียหาย ซึ่งรัฐจะยกให้ก็ไม่ได้ แต่ช่วยไกล่เกลี่ยได้

ขณะเดียวกัน ยังเห็นว่าหากพรรคร่วมรัฐบาลชุดนี้ ร่วมกันยกร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ก็เป็นเรื่องดีที่จะพิสูจน์ว่าเป็นรัฐบาลปรองดองสมานฉันท์ แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืนไม่ได้ ต้องค่อยเป็น ค่อยไป ส่วนโอกาสที่พรรคร่วมรัฐบาลจะยกร่างขึ้นมาประกบนั้นอยู่ที่หลักคิด ถ้าคิดร่วมกัน ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มคิดกัน ถ้าตั้งลำกันขึ้นมาได้ ก็ถือเป็นเรื่องดี 

เมื่อถามย้ำว่า ไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่พรรคก้าวไกลเสนอใช่หรือไม่ นายนิกร ระบุว่า ร่างของพรรคก้าวไกล ไม่ได้เว้นบางส่วน และขอยืนในหลักการ โดยย้ำว่าส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษให้ผู้กระทำผิดมาตรา 112