svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ผอ.วิจัยฯTDRI"เชียร์กู้เงินแจก ถามกลับ รายได้ไม่เข้าเป้าใครรับผิดชอบ

"ผอ.วิจัยฯTDRI" เชียร์กู้ "แจกเงินดิจิทัล" พร้อมตั้งคำถาม หากรายได้ภาษีไม่มากเท่าที่รัฐบาลชวนเชื่อ ใครจะรับผิดชอบ

15 พฤศจิกายน 2566 ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีรัฐบาลจะออก พ.ร.บ.กู้เงิน เพื่อใช้ในโครงการ “เงินดิจิทัลวอลเล็ต” ระบุว่า

สิ่งหนึ่งที่รัฐบาล “พร่ำ” บอกอย่างเชื่อมั่นมาตลอด จนกล้าตัดสินใจกู้เงินจำนวนมหาศาลนี้ คือ การแจกเงินดิจิทัลเป็นการแก้ปัญหา การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าศักยภาพอย่างเบ็ดเสร็จ และระบุตัวเลขว่า เงินที่แจกจะทำให้เศรษฐกิจไทยโต 5% หรือมากกว่าต่อเนื่องกันหลายปี (ซึ่งสูงกว่าการประมาณการทั่วไปกรณีไม่มีโครงการนี้ประมาณ 1.5-2%) ผลสืบเนื่องคือวินัยการคลังไม่สูญเสีย เพราะรัฐบาลจะมีรายได้ภาษีเพิ่มขึ้นมาก จากเศรษฐกิจที่ขยายตัวสูงและต่อเนื่อง และรายได้ที่เพิ่มนี้เพียงพอสำหรับการใช้หนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น 5 แสนล้านได้ภายในอายุรัฐบาลด้วย ไม่ทิ้งให้เป็นภาระของประชาชนและของรัฐบาลชุดต่อไป

ผมลองทำตัวเลขและพบว่าจริงอย่างที่ตัวแทนรัฐบาลพูด คือรัฐบาลจะชำระหนี้ได้ภายใน 4 ปีจริง ดังตารางที่ใส่ตัวเลขคร่าว ๆ ข้างล่าง ว่ารายได้ภาษีในระยะ 3-4 ปี ที่รัฐบาลนี้จะบริหารเพิ่มขึ้นถึง 5.36 แสนล้านบาท พอจ่ายหนี้ก้อนนี้พร้อมดอกเบี้ย (ที่รัฐบาลประมาณไว้ 3.8 หมื่นล้านบาท) หากนับถึงรายได้ภาษีที่อาจเพิ่มขึ้นกว่านี้อีก ถ้าโครงการนี้ทำให้เงินเฟ้อสูงกว่า ที่ผมสมมติไว้ในตารางเพียงเล็กน้อย

\"ผอ.วิจัยฯTDRI\"เชียร์กู้เงินแจก ถามกลับ รายได้ไม่เข้าเป้าใครรับผิดชอบ

ผมคิดว่า เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อ "ความเชื่อ" ตัวเอง และที่สำคัญความรับผิดชอบต่อการเอาเงินของประชาชนมาใช้ ผมอยากเสนอว่า (credit ความคิด อ. สมเกียรติ Somkiat Tangkitvanich)

     1. รัฐบาลกู้ตามที่ตั้งใจ และพรรคร่วมรัฐบาลยกมือผ่าน พ.ร.บ. กู้เงินนี้ (เพราะนโยบายตัวเองไม่ถูกกระทบเนื่องจากงบประมาณไม่ถูกตัดรอนมาใช้คืนเงินกู้นี้)

     2. รัฐบาลทำบัญชีเงินกู้ก้อนนี้ แยกต่างหากจากหนี้สาธารณะทั้งหมดที่มีก่อนหน้า

     3. รัฐบาลจัดสรรงบประมาณมาชำระหนี้ก้อนนี้ทั้งต้นและดอก โดยยังคงต้องชำระหนี้ก้อนเดิมไม่ต่างไปจากเดิม (ห้ามลด) ซึ่งทำได้สบาย ๆ เพราะรัฐบาลจะมีรายได้ภาษีเพิ่มขึ้นเพียงพอตามที่คำนวณไว้นี้

อาจมีคำถามว่า หากรายได้ภาษีส่วนเพิ่มไม่มากเท่าที่รัฐบาลพยายามชวนเชื่อ ใครจะรับผิดชอบ ผมคิดว่าเราคงไม่สามารถเรียกร้องให้ผู้บริหารพรรค เอาเงินตัวเองมาชำระส่วนที่ขาดได้ แต่ขอให้เป็นความรับผิดชอบทางการเมืองของพรรคแกนนำ และเป็นบทเรียนให้ประชาชนผู้เลือกตั้งต่อไป

(แต่ด่านแรกคงต้องทำให้พรรคร่วมเ ชื่อตัวเลขนี้ก่อน จะได้สบายใจว่าโครงการของตัวเองไม่ถูกตัดทอน)