24 ตุลาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตอบคำถามในงาน Dinner Talk Thailand’s Future อนาคตประเทศไทย 2024 จัดโดย เนชั่นกรุ๊ป ณ ห้องคอนเวนชัน เซ็นเตอร์โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ โดยในช่วงถามตอบ มีนายบากบั่น บุญเลิศและนายวีรศักดิ์ พงษ์อักษร เป็นผู้ดำเนินรายการ
ผู้ดำเนินรายการ ถามว่า ขณะนี้มีการพูดถึงถุงเท้าของนายกฯที่ชอบสวมถุงเท้าสีสันต่างๆ
นายกฯ ตอบว่า ใส่มาตั้งนานตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว ไม่ได้เลือกว่า วันไหนต้องใส่สีไหน เป็นความสุขส่วนตัว แต่ก็ดูตามกาลเทศะด้วย
ผู้ดำเนินรายการ ถามว่า การเปลี่ยนเส้นทางจากธุรกิจสู่การเมือง แตกต่างกับที่คาดคิดไว้หรือไม่
นายกรัฐมนตรี ตอบว่า ไม่ได้เหนือความคาดหวัง เพราะรู้ว่าต้องทำงานหนัก หลายคนเล่นการเมืองก็อยากเป็นรัฐมนตรี อยากเป็นนายกฯ ตั้งแต่อายุ 30 ปี แต่ตนอายุ 58 ปี แล้วก็ยังไม่คิด จนกระทั่ง 2 ปีก่อนการเลือกตั้ง จึงเริ่มคิด ว่าน่าจะเป็นไปได้ ส่วนการทำงานนั้นสิ่งหนึ่งที่ต้องมี คือ fall in love (ตกหลุมรัก) เพราะต้องอยู่ตรงนี้ถึง 4 ปี หากไม่หลงรัก ไม่มีแพชชัน ตราบใดที่ไม่หลงรักงานที่ทำ ก็จะไม่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนที่จะมาเป็นนายกฯหรือไม่เป็นนายกฯ ไม่แตกต่างกัน เพราะมองไว้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ผู้ดำเนินรายการ ถามว่า นายกฯ เคยกล่าวไว้ว่า ต้องทำงานโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย 2 เดือนที่ผ่านมารู้สึกอย่างไร
นายกฯ ตอบว่า ทำงานโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยนั้น ไม่เหนื่อยเพราะทำงานเสร็จก็พักผ่อน ตื่นมาก็ทำงานต่อ จึงไม่ได้รู้สึกเหนื่อย และไม่ว่ามีวิกฤตอะไรก็พร้อมสู้ เพราะนายกฯทุกคนก็เจอวิกฤตแต่เรื่องต่างกันเท่านั้น
ผู้ดำเนินรายการ ถามว่า จะได้เห็นอะไรจากรัฐบาลเศรษฐาในระยะเวลา 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี
นายกฯ ตอบว่า บางเรื่องก็มีขีดจำกัดต่างกันไป เรื่องสำคัญที่สุดตอนนี้คือเรื่องปากท้อง วันนี้(24 ต.ค.) รัฐมนตรีพลังงานก็ประกาศลดราคาน้ำมัน เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่เราดูอยู่ การกระตุ้นการท่องเที่ยวก็ยังทำต่อ อีกสองสัปดาห์ก็จะประกาศเพิ่มประเทศที่จะยกเว้นวีซ่า อาจจะมีการเดินทางไปคุยกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เรื่องของการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโกลกที่จังหวัดนราธิวาส ส่วนแผนในระยะกลางและระยะยาว อาจเห็นเรื่องของการพัฒนารถไฟรางคู่ รวมถึงแลนด์บริดจ์ และยืนยันว่า อยากให้โครงการนี้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมในรัฐบาลนี้