
เหลืออีกเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น ก็จะถึงวันโหวตนายกฯ ในวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ซึ่งแม้ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะส่งชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน ในการโหวตนายกรัฐมนตรี แต่ต้องยอมรับว่า การลงสนามศึกครั้งนี้คงไม่ได้ง่ายดาย เพราะในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะยิ่งใกล้โค้งสุดท้ายก่อนวันโหวต มีมรสุมหลายด้านที่เข้ามา รวมถึงกระแสข่าวต่างๆ
หวังได้รับเสียงสนับสนุนจากรัฐสภา
ทีมข่าวเนชั่น ทีวี ได้สัมภาษณ์เปิดใจ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ถึงความพร้อมก่อนโหวตนายกรัฐมนตรีวันที่ 22 สิงหาคมนี้ โดยนายเศรษฐา มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตนเอง และเข้าใจว่าการเข้าสู่ชีวิตการเมืองเป็นบุคคลสาธารณะ ก็ต้องยอมรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ส่วนเรื่องของการโหวตนายกฯ ตนเองเชื่อว่าทั้ง สส. และ สว. จะมีวิจารณญาณ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากที่ตนเองนั้นได้แถลงข่าวอย่างชัดเจนแล้ว
“ผมหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภา”
ก่อนย้ำถึงเรื่องการบริหารงานบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ตลอด 30 ปีที่ผ่านมาเป็นไปอย่างโปร่งใส ตามหลักธรรมาภิบาล
“ขอย้ำว่าเราเป็นผู้ซื้อ ภาระอยู่ที่ผู้ขายในแง่ของการเสียภาษี เราไม่มีส่วนในการช่วยเหลือเขา ไม่มีเงินทอน ไม่มีการตั้งบริษัทนอมินี และที่สำคัญไม่มีการให้กู้กับบริษัทนอมินีด้วย ราคาที่ดินที่ทำการซื้อขายเหมาะสม เราบริสุทธิ์ใจในการทำงาน”
มั่นใจ “เพื่อไทย-พรรคร่วม” มีเจตนาดี ทำเพื่อ "ประชาชน-ประเทศชาติ"
ส่วนกรณีกระแสว่าในวันที่ 21 สิงหาคม จะมีการแถลงข่าวร่วมกับพรรคการเมืองที่สนับสนุน นายเศรษฐา บอกว่าตนเองไม่ทราบ แต่เข้าใจว่าทุกอย่างคงเป็นไปได้ด้วยดี รวมถึงมั่นใจในคณะเจรจาของพรรคเพื่อไทยว่ามีความคืบหน้าไปได้มากแล้ว
“ถึงเวลาแล้ว ปัญหาบ้านเมืองถูกหมักหมมมานาน ควรจะต้องมีรัฐบาลได้แล้ว”
เมื่อถามถึงสิ่งแรกที่จะดำเนินการ หากได้รับเลือกจากรัฐสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ระบุว่า หลังรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แล้ว ก็ต้องตั้งคณะรัฐมนตรี ซึ่งคงต้องมีการพูดคุยกันก่อน หล่อหลอมนโยบายของทุกๆพรรคการเมือง โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่การเป็นรัฐบาลผสม ตนเองก็เข้าใจและต้องให้เกียรติพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลทุกพรรคด้วย
“เรามีไอเดียอยู่แล้ว แต่ขอเก็บไว้รอคุยกับพรรคร่วมก่อน”
นายเศรษฐา ย้ำว่าตนมีความมั่นใจในคณะทำงานของพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล
"ผมเชื่อว่าทุกพรรคการเมืองมีความปรารถนาดีต่อประเทศชาติ รวมถึงอยากให้การเมืองเดินหน้าต่อไปได้ วันที่ 22 สิงหาคม จะเป็นสเต็ปที่สองหลังจากวันเลือกตั้ง หวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี"
ขอให้ "อดใจ" รอโผ ครม.
ส่วนกรณีโผคณะรัฐมนตรีที่ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆนั้น นายเศรษฐา บอกไม่ขอแสดงความคิดเห็น ย้ำว่าต้องให้เกียรติคณะเจรจาและพรรคร่วมฯ ด้วย เพราะกระทรวงต่างๆ ก็ยังไม่ลงตัว แต่เข้าใจว่าก็มีความคืบหน้าแล้ว และถ้าลงตัวแล้วรายชื่อก็คงจะตามมา
“อย่าเพิ่งรีบร้อน อดใจอีกนิดหนึ่งก่อน เป็นขั้นเป็นตอนไปดีกว่า แต่มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฯ จะเสนอบุคลากรที่มีคุณภาพ ทำงานให้ประเทศเดินหน้าได้”
ถามต่อถึงวันที่ 22 สิงหาคม จะมีการตั้งวอร์รูมติดตามความเคลื่อนไหวการอภิปรายในรัฐสภาหรือไม่ นายเศรษฐา บอกว่า วันอาทิตย์หรือวันจันทร์ที่จะถึง คงมีการประชุมกัน แต่คาดว่าคงเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทยตามปกติ
ถามถึงภายหลังที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้โทรศัพท์ให้กำลังใจ ตอนนี้มีพรรคการเมืองอื่นติดต่อมาบ้างหรือไม่ นายเศรษฐา บอกว่ายัง คงเพราะยังไม่ได้เปิดตัวเป็นทางการด้วย อาจต้องรอเปิดตัวก่อน แต่เราก็พอรู้จักกัน คุยกันนอกรอบบ้างแล้ว
“ผมมั่นใจในความบริสุทธิ์ใจ มั่นใจในนโยบายของพรรคเพื่อไทย มั่นใจทีมงานพรรคเพื่อไทย มั่นใจในเจตนารมณ์ที่ดีของพรรคร่วมฯ และไม่ว่าจะได้กระทรวงไหน หรือส่งบุคคลใดเข้ามา เชื่อว่าทุกพรรคคงคำนึงถึงการช่วยเหลือบ้านเมืองเป็นหลัก”
ยัน “ทักษิณ” กลับไทยไม่เกี่ยวเพื่อไทย
สำหรับกรณีกำหนดการเดินทางกลับประเทศไทยของอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร นั้น นายเศรษฐายืนยันว่าตนเองไม่ทราบกำหนดการมาก่อน ส่วนการเดินทางกลับของนายทักษิณมองเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย
“เป็นความปรารถนาของท่านเอง ที่ท่านจะกลับมาเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ถือเป็นอีเว้นท์ใหญ่ที่สื่อมวลชนให้คงความสนใจ ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้ความนิยมสูงสุด จากบ้านเมืองไป 17 ปีแล้ว ส่วนการโหวตนายกฯ ก็เป็นเรื่องของสภา คนละเรื่องกัน”
ผิดหวัง “ชูวิทย์” ด้อยค่า นโยบาย "ดิจิทัลวอลเล็ต"
ทั้งนี้นายเศรษฐา ยังยืนยันว่านโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลวอลเล็ตที่เคยหาเสียงไว้จะถูกผลักดันจนสำเร็จอย่างแน่นอน ถือเป็นนโยบายหลัก และมั่นใจว่าทุกพรรคการเมืองจะเห็นชอบ
“แต่ผมค่อนข้างจะผิดหวังกับคุณชูวิทย์ ซึ่งท่านไม่เข้าใจเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วมาด้อยค่าเรื่องนี้ อย่าเอาผลประโยชน์ที่ประชาชน ผู้ผลิต ผู้จ้างงาน ผู้ได้รับการจ้างงาน มาเป็นประเด็นด้านการเมืองเลย ผมเชื่อว่าประชาชนหลายล้านคนต้องการตรงนี้ ถ้าหากพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลจริงๆ จะพยายามผลักดันนโยบายนี้โดยเร็วที่สุด”
เมื่อถามว่าจะผลักดันทุกนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ย้ำว่าต้องให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาลด้วย เอามาหล่อหลอมเป็นนโยบายรัฐบาลของประเทศไทย
"ทำงานร่วมกันผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ก้าวหน้าไป ยกระดับความเป็นอยู่พี่น้องประชาชน ขจัดความจัดแย้งที่มีอยู่ในทุกอายุและความคิด เป็นภารกิจของผู้นำประเทศคนใหม่ที่ต้องพร้อมทำ"