
เป็นอีกสัปดาห์สำคัญ สำหรับ "เพื่อไทย" เพราะได้รับข่าวดีส่งท้ายก่อนปิดสัปดาห์ หลัง "รวมไทยสร้างชาติ" ประกาศเข้าร่วมรัฐบาลกับ "เพื่อไทย" ทำให้เรียกได้ว่า "ปิดดีล" โดยเหตุผลการเข้าร่วมสำคัญของ รทสช. คือ ไม่มี "พรรคก้าวไกล" อยู่ร่วมในสมการ
ทำให้ภาพรวมเวลานี้ ต้องบอกว่า "พรรคเพื่อไทย" ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ดูจะสบายใจไปเปลาะใหญ่ โดยเฉพาะเสียงที่เติมเข้ามาสนับสนุนแคนดิเดตของพรรค ก่อนปูทางไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล
แต่ประเด็นที่กำลังถูกตั้งคำถาม คือ แคนดิเดตตัวจริงของพรรคเพื่อไทย ยังใช่ "เศรษฐา ทวีสิน" อยู่หรือไม่ หลังมีข่าวออกมาว่า เป็นเพียงเป้าหลอก เพราะถึงเวลาจริงอาจเสนอชื่อแคนดิเดตคนอื่นแทน
เหตุผลที่มีการจับจ้องในเรื่องนี้ เนื่องด้วยระยะหลัง "เศรษฐา" โดนขุดประวัติจากนักแฉชื่อดัง อย่าง "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" โดยเฉพาะคุณสมบัติสมัยยังนั่งผู้บริหารบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ ออกมาเป็นระยะ ๆ
แน่นอนว่าการโหวตเลือกนายกฯ ด่านสำคัญนอกจากจะต้องผ่าน สส. แล้ว ก็ยังต้องได้รับเสียง สว. สนับสนุนด้วย แม้เพื่อไทยเวลานี้มีเสียง สส. เรียกว่าเป็นไปตามเป้า 300 กว่าเสียง ขาดเพียง สว. เพื่อให้เกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา คือ 374 เสียง
แต่ใช่ว่า "เศรษฐา" จะผ่านไปได้ง่าย ๆ แม้เจะมีพรรค 2 ลุง อย่าง "พลังประชารัฐ" และ “รวมไทยสร้างชาติ” เข้าร่วม และพ่วง สว. ในสังกัด มาด้วยก็ตาม
เนื่องจาก "วุฒิสมาชิก" ถูกแบ่งออกมาเป็น 2 สายหลัก คือ "ลุงป้อม" กับ "ลุงตู่" แล้วยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศวางมือการเมือง ทำให้ สว. ส่วนนี้ เดินเกมฟรีสไตล์ และยังมีการกำหนดสเปกบุคคลเป็นนายกฯไว้ 3 ประการ คือ
เมื่อดูจาก 3 ข้อนี้ ก็พอรู้แนวทาง "เศรษฐา" จะได้เสียงโหวตจาก สว. หรือไม่
สำทับด้วยนักวิชาการ อย่าง "ยุทธพร อิสรชัย" อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ประเมินถึงตัว "เศรษฐา" กับโอกาสที่จะได้นายกฯ อยู่ที่ 50:50 แม้จะมีเสียงจากพรรค 2 ลุง แต่ไม่มั่นใจว่าจะได้เสียง สว. ด้วยหรือไม่ เพราะเพื่อไทย โดยเฉพาะชื่อ "เศรษฐา" ที่ยังมีประเด็นต้องชี้แจงต่อสังคม
สอดรับ "จตุพร พรหมพันธุ์" อดีตขุนพลเก่าจากค่ายสีแดง ออกมาทุบโต๊ะการันตีว่า “คุณเศรษฐา” ไม่มีโอกาสได้เป็นนายกฯ อย่างแน่นอน จากประวัติการดำเนินธุรกิจ ที่ต้องตอบคำถามกับสังคมให้เคลียร์ และต่อให้เสียงจาก พปชร. รทสช. มาสนับสนุน แต่ก็ไม่ผ่าน สว. อยู่ดี
สปอร์ตไลท์จึงฉายไปยัง "อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร" ลูกสาวคนเล็กสุดแห่งตระกูล "ชินวัตร" จนถูกจับตาเป็นพิเศษ เพราะมีการตั้งข้อสังเกตที่ผ่านมา ใช้ "เศรษฐา" เป็นเป้า เพื่อส่งผ่านมายัง "อุ๊งอิ๊งค์" และเมื่อเทียบกับ "เศรษฐา" ก็ถือว่าสดกว่า โดยเฉพาะประวัติไร้ด่างพร้อย และยังพ่วงสถานะเลือดเนื้อเชื้อไขสายตรงคุณทักษิณ
ดังนั้น วันที่ 22 สิงหาคม จะมีคำตอบให้ทุกฝ่ายคลายสงสัย ว่าสุดท้ายแล้ว การโหวตนายกฯ จะเป็นไปโดยม้วนเดียว "จบ" หรือ "แจว" และ "เศรษฐา" จะเป็น "เป้าจริง" หรือ "เป้าหลอก"