ลุ้น! เลือกนายกฯม้วนเดียวจบ หรือ "เศรษฐา" จบ?
การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 3 ในวันที่ 22 ส.ค. นี้ ชักไม่มั่นใจแล้วว่าจะจบที่ครั้งนี้หรือไม่ หรือต้องมีครั้งต่อไป เพราะหากเช็กท่าทีทางฝั่งสว.ขณะนี้ยังไม่ชัดเจน แถมยังถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มด้วย
"เนชั่นทีวี" ได้ข่าวจาก "สว.ผู้คุมเสียง" ยอมรับว่า ได้ทราบข่าวจากวงในพรรคเพื่อไทยเหมือนกันว่า ภายในพรรคไม่ได้สนับสนุนนายเศรษฐาเป็นนายกฯ จึงทำให้แปลกใจท่าทีที่ปฏิบัติกับวุฒิสภา เพราะมีการล็อบบี้ นัดกินข้าว นัดมอบกล้วยกันอย่างโจ๋งครึ่ม และยังประกาศอย่างมั่นใจว่า 22 ส.ค.นี้ จะเลือกนายกฯม้วนเดียวจบ
ขณะนี้จึงมีการประเมินกันว่า นายเศรษฐาอาจจะเป็นตัวหลอก เพื่อเป็นเป้าให้ฝ่ายต่างๆ โจมตีในช่วงนี้ แต่เมื่อถึงวันโหวตจริง พรรคอาจเสนอชื่อแคนดิเดตคนอื่น ซึ่งยังมีอีก 2 คน โดยเฉพาะ อุ๊งอิ๊งค์ น.ส.แพทองธาร ซึ่งไม่มีประวัติด่างพร้อยใดๆ เนื่องจากเป็น “คนหน้าใหม่ทางการเมือง” ซึ่งหากเสนอชื่อมา สว.ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปขัดขวาง หรือคัดค้าน ฉะนั้นต้องรอดูเกมของพรรคเพื่อไทยว่า จะพลิกเรื่องเสนอชื่อนายเศรษฐาในวันนัดโหวตเลยหรือไม่ ซึ่งหากทำจริง ก็เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้
โดยหากน.ส.แพทองธาร ได้เป็นนายกฯจริง ก็จะเข้าล็อก “ชินวัตร” ลูกสาวเป็นนายกฯ พ่อได้กลับบ้าน เป็นสูตรในฝันที่ผู้สนับสนุนอยากให้เกิดขึ้นจริง ส่วนจะเกิดขึ้นหรือไม่ 22 ส.ค.นี้ คงได้รู้กัน
“สว.สาย 2 ลุง” ไม่ได้รอโหวต “เศรษฐา”
หากรวมเสียง 2 กลุ่มนี้ จะอยู่ที่ราวๆ 50 เสียง ขาดอีกเพียง 10 เสียง ก็จะโหวตผ่าน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะหามาเติมจนครบ
แต่จุดเปลี่ยนอยู่ที่ชื่อ"เศรษฐา" เพราะ สว.สายลุงตู่ กับสายลุงป้อม อาจไม่โหวตให้ แม้พรรคพลังประชารัฐกับพรรครวมไทยสร้างชาติจะเข้าร่วมรัฐบาลก็ตาม เพราะ “ลุงตู่” วางมือทางการเมืองไปแล้ว ไม่มีส่งสัญญาณใดๆ มา ฝากไว้เพียงว่า ให้เลือกคนดี คนที่ดูแลบ้านเมืองได้ จึงมีการวางเกณฑ์การคัดเลือกเอาไว้ 3 ประการ คือ
- ต้องไม่หาประโยชน์จากช่องโหว่ช่องว่างของกฎหมาย เช่น เลี่ยงภาษี แม้จะทำถูกกฎหมาย แต่เอาเปรียบสังคม แบบนี้ยอมไม่ได้
- ต้องประพฤติตนอยู่ในศีลในธรรม เพราะเป็นเมืองพุทธ ฉะนั้น พวกพูดจากลับกลอก หน้าอย่างหลังอย่าง พูดโกหก พูดเพ้อเจ้อ ก็จะไม่เลือก
- ต้องเคารพขนบธรรมเนียมประเพณีไทย เช่น เคารพผู้ใหญ่ ไปลามาไหว้
ดูจากหลักการ 3 ข้อนี้ ก็คงพอรู้ว่า สว.กลุ่มนี้จะโหวตให้นายเศรษฐาหรือไม่
“สว.สายลุงป้อม” มีการรวมตัวกันจริง แต่กลุ่มนี้มีราวๆ 15-20 คน เป็นอดีตนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 6 รุ่นเดียวกับ “บิ๊กป้อม” ประมาณ 6-7 คน และญาติพี่น้องเครือข่ายใกล้ชิดของ “บิ๊กป้อม” รวมถึงกลุ่มน้องรัก รวมๆ แล้วไม่เกิน 15-20 คน แต่กลุ่มนี้มีข้อสังเกตว่า รวมตัวกันเพื่อสร้างอำนาจต่อรองให้ “บิ๊กป้อม” มากกว่าที่จะโหวตให้นายเศรษฐา
ความจริงของวุฒิสภา ณ เวลานี้ ไม่ได้หมายความว่า พรรค 2 ลุงเข้าร่วมรัฐบาลแล้ว สว.จะเทคะแนนให้หมด เพราะในช่วงปลายวาระของ สว. ไม่มีใครสั่งใครได้อีกแล้ว โดยเฉพาะ “สายลุงตู่” ที่ต้องการโหวตไว้ลาย เลือกคนที่เหมาะสมที่สุดเป็นนายกฯ เนื่องจากเป็นภารกิจสุดท้าย ส่วน “สายลุงป้อม” รวมเสียงไว้โหวตให้ “ลุง” หากเก้าอี้นายกฯไหลมาถึงพรรคอันดับ 4
