"จัดตั้งรัฐบาล2566" อาจารย์กฤษฎา บุญเรือง นักวิชาการอิสระ ซึ่งพำนักอยู่ที่สหรัฐอเมริกา และได้พูดคุยเชื่อมต่อกับชุมชนคนไทยในอเมริกา สะท้อนความรู้สึกของคนไทยบางส่วนที่นั่นที่ได้สดับตรับฟัง
ข้อดี
- คำแถลงของเพื่อไทยในวันที่ 2 ส.ค. เป็นจุดเปลี่ยนทิศทางของพรรคเพื่อไทย และเป็นการ “แสดงความชัดเจนเป็นครั้งแรกในปีนี้” ว่าพรรคนี้คือใคร และต้องการอะไร
จำเป็นต้องลอกคราบเพื่อไทย
- พรรคเพื่อไทย คือ “พรรคอนุรักษ์นิยม-ประชานิยม” โดยแท้จริง
- พรรคเพื่อไทย เป็นพันธมิตรกับก้าวไกล หลังจากการเลือกตั้ง เพราะการเป็นฝ่ายค้านร่วมกันมาเท่านั้น และเนื่องจากได้คะแนนเสียงเป็นอันดับสอง
- พรรคเพื่อไทย จำเป็นจะต้องค้นคว้าหาเอกลักษณ์ใหม่ ให้แตกต่างจากกลุ่มการเมืองเสรีนิยมที่กำลังมาแรง
เพื่อไทยไม่ใช่เสรีนิยมและจะแข่งขันในเวทีนั้นไม่ได้
- เส้นทางที่สดใสที่สุดคือการรีบวางหมาก เพื่อเป็น “ผู้นำฝ่ายอนุรักษ์นิยม-ประชานิยม” แต่ต้องปรับปรุงเทคโนโลยีการสื่อสาร โดยเฉพาะโซเชียลมีเดีย
- เพื่อไทยเห็นความจำเป็นที่ต้องเป็นรัฐบาล เพื่อใช้องค์กรของรัฐช่วยปรับปรุงและพัฒนาฐานการเมืองโดยเร็วที่สุด
ช่วงจังหวะและโอกาสนี้แคบมาก แต่เป็นโอกาสดี เนื่องจากกลุ่มอำนาจนิยมและอนุรักษ์นิยมในปัจจุบันซึ่งเป็นรัฐบาลรักษาการ ยังไม่มีความโดดเด่นเพียงพอ และหลายกลุ่มเริ่มมีความเสื่อม เนื่องจากพึ่งพานักการเมืองอดีตทหาร
- แกนนำของเพื่อไทยในปัจจุบันเป็นเพียงสัญลักษณ์โดยทางการเท่านั้น แต่การตัดสินใจอยู่กับผู้ก่อตั้งพรรคและครอบครัว
อดีตนายกฯทักษิณ คือผู้มีอิทธิพลสูงสุด และเงื่อนไขส่วนตัว เช่น อายุ ปรัชญาชีวิต ความทะเยอทะยานทางการเมือง ปัญหาทางกฎหมาย ประสบการณ์ทางเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่าง ๆ จะเป็นตัวกำหนดหรือมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของพรรคในระยะนี้
- อนาคตของเพื่อไทยจะเข้มแข็งได้ก็ต่อเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอำนาจและอิทธิพลภายในพรรคอย่างแท้จริง
หมายถึงเป็นพรรคการเมืองเพื่อประชาชน โดยประชาชนที่มีอุดมการณ์ร่วมกัน และยกเลิกการเป็นพรรคการเมืองแบบครอบครัวโดยมีผู้นำซึ่งมีบารมีเป็นศูนย์กลาง (อย่างที่เป็นอยู่)
- เพื่อไทยกำลังเสี่ยงที่จะสูญเสียฐานสนับสนุนบางกลุ่มที่เคยประกาศแล้วว่าจะทิ้งเพื่อไทย หากไปร่วมมือกับกลุ่มอำนาจเดิม คนกลุ่มนี้อาจเป็นคนที่มีความคิดใหม่ ๆ หรือมีอุดมการณ์แน่วแน่ โดยมีแนวโน้มจะทิ้งเพื่อไทยไปอยู่กับก้าวไกล
แต่เพื่อไทยคงหวังว่าจะได้เสียงสนับสนุนมาเติมจากการเสื่อมของกลุ่มอนุรักษ์นิยมพรรคอื่น ๆ ในปัจจุบัน สรุปคือเพื่อไทยกับกลุ่มพรรคการเมือง ซึ่งอยู่ในรัฐบาลรักษาการจะแย่งชิงฐานเสียงสนับสนุนฐานเดียวกัน
แต่ฐานเสียงนี้อาจจะอยู่ได้อีกระยะหนึ่ง แต่คงอีกไม่นาน เนื่องจาก อายุโดยเฉลี่ยของกลุ่มนี้ค่อนข้างสูง และสูงวัย แนวโน้มของโลกซึ่งมีเทคโนโลยีเข้ามาปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว คนหนุ่มสาวรวมทั้งเยาวชนซึ่งจะเข้ามาสู่วัยเลือกตั้ง นั้น มีความกระตือรือร้นและมีส่วนร่วมกับการเมืองสูงที่สุดในประวัติศาสตร์
เกมชิงนายกฯที่เจอโรคเลื่อน
- เพื่อไทยจะได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือเป็นรัฐบาลหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะการต้องขอเสียงสนับสนุนจากกลุ่ม สส.188 เสียง และ สว.
- การอ้างถึงมาตรา 112 บ่อยครั้ง เป็นการคาดหวังและทึกทักว่านั่นคือปัจจัยเดียวที่ทำให้ก้าวไกลถูกปิดกั้นโดยด่าน สว. แต่หาก สว. ยังมีเงื่อนไขอื่นต่อเพื่อไทย ก็จะเป็นอุปสรรคใหม่ที่เพื่อไทยคาดไม่ถึง และหากหาทางออกไม่ได้ ก็จะกลับมาเป็นฝ่ายค้านร่วมกับก้าวไกล ซึ่งไม่ใช่พันธมิตรกันเหมือนเช่นเคย
- ส่วนรัฐบาลใหม่ที่ตั้งโดยพรรคการเมืองฝ่าย 188 เช่น ภูมิใจไทย พรรคอันดับ 3 หรืออาจไปถึงพรรคอันดับ 4, 5 ก็จะเป็นการแก้ปัญหาเพียงชั่วคราว เพื่อให้มีการยุบสภาให้เลือกตั้งใหม่ เชื่อว่าจะอยู่ได้ไม่นาน
หากพรรคเพื่อไทยได้ตำแหน่งนายกฯ หรืออยู่ในคณะรัฐมนตรี (กรณีพรรคอันดับ 3 ตั้งรัฐบาล) ก็ต้องระมัดระวังความขัดแย้งกับกลุ่มอำนาจนิยมเดิม เพราะพวกเขาต้องการเป็นผู้นำอนุรักษ์นิยมประชานิยมในอนาคตเช่นกัน
พรรคภูมิใจไทยอาจมีโอกาสสูงสุด แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทิศทางการเมืองจะเป็นการต่อสู้กันภายในรัฐบาลใหม่ ระหว่างเพื่อไทยกับภูมิใจไทย และยังมีอีกหลายความขัดแย้งที่รออยู่จากหลายตัวละครใหม่ในรัฐบาลใหม่ ขณะที่มิตรเก่าอย่างก้าวไกล ยังเป็นคู่แข่งสำคัญในอีกมุมหนึ่งเหมือนเดิม โดยอนาคตรัฐบาลใหม่จะอยู่ครบ 4 ปี คงยากมาก